svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"บิ้กป้อม" ตั้ง "วัน อยู่บำรุง" รับผิดชอบพื้นที่ทางการเมืองกรุงเทพมหานคร 

"ลุงป้อม" ยังอารมณ์ดี ลงนาม แต่งตั้ง "วัน อยู่บำรุง " รับผิดชอบพื้นที่ทางการเมือง กรุงเทพมหานคร ด้าน"สามารถ เจนชัยจิตรวนิช" ซัดเพื่อไทย ไร้สัญญาประชาคม

28 สิงหาคม 2567  "นายสามารถ  เจนชัยจิตรวนิช" สมาชิกพรรคพลังพลังประชารัฐ โพสต์เฟซบุ๊ค คำสั่งพรรคพลังประชารัฐ ลงนามโดย "พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ" หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 เรื่องมอบหมายผู้รับผิดชอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร

 

โดยใน เอกสาร ระบุว่า  เพื่อให้การบริหารงานของพรรคพลังประชารัฐ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บรรลุตามอุดมการวัตถุประสงค์และนโยบายของพรรค อาศัยอำนาจตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐปี 2563 และแก้ไขเพิ่มเติมข้อ 17(1)(จ) จึงมอบหมายให้นายวัน อยู่บำรุง เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินงานและการประสานงานกิจกรรมทางการเมืองของพรรคในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป 

 

ซึ่งนายสามารถโพสต์เมื่อช่วงคืนวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา  หลังจากมีข่าวออกมาว่าพรรคเพื่อไทย ไม่รับพรรคพลังประชารัฐเข้าร่วมรัฐบาล

 

\"บิ้กป้อม\" ตั้ง \"วัน อยู่บำรุง\"  รับผิดชอบพื้นที่ทางการเมืองกรุงเทพมหานคร 

 

ด้าน "วัน อยู่บำรุง" ได้โพสต์ข้อความในเวลาต่อมาว่า  *ตอนนี้ขอช่วยงานลุงป้อมก่อนครับ*

ปล.เมื่อคืนโพสต์เรื่องตั้งพรรคการเมืองเพราะคนเชียร์กันเยอะแต่คงต้องไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจ

 

\"บิ้กป้อม\" ตั้ง \"วัน อยู่บำรุง\"  รับผิดชอบพื้นที่ทางการเมืองกรุงเทพมหานคร 

 

 

 

"ลุงป้อม" ไม่เครียด อารมณ์ดี ดูดไปป์ หลังเพื่อไทย เขี่ยพ้นพรรคร่วมฯ 


วันเดียวกัน ที่อาคารรัฐสภา "นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช" สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย มีมติไม่ขอร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ว่า เรื่องนี้เป็นมติของ สส. แต่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องมาแสดงความชัดเจน ให้กับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งอีกไม่นานพรรคคงมีมติออกมาอย่างแน่นอน หลังจากมีความชัดเจนในเรื่องนี้ 

 

"นายสามารถ" ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนตัวเข้าใจว่า คำว่าสัญญาลูกผู้ชาย ไม่ต้องมีการเซ็นเอกสาร แต่เป็นการให้คำมั่นต่อกัน ว่าถ้าจะร่วมรัฐบาลแล้วโหวตให้ก่อนแล้ว ค่อยมาดูว่า ใครจะดำรงตำแหน่งไหน  ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็ทำอย่างเต็มที่ ซึ่งในวันที่ "นายเศรษฐา ทวีสิน" ถูกถอดถอนจากตำแหน่ง ตัวแทนพรรคพลังประชารัฐก็ไปร่วมหารือที่บ้านจันทร์ส่องหล้า  ซึ่งในวันนั้น ได้มีการ ระบุว่าจะให้ "นายชัยเกษม นิติศิริ" เป็นนายกรัฐมนตรี

 

 

 

 

 

ต่อมา สส. เพื่อไทยมีมติอยากให้ "นางสาวแพทองธาร" เป็นนายกรัฐมนตรี ประชาชนคงเห็นว่าสถานการณ์พรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไร และในวันที่ 15 สิงหาคม ทุกพรรคการเมืองที่ร่วมรัฐบาลก็มาแถลงข่าว ว่าจะเลือกคนของพรรคเพื่อไทย แบบไม่มีเงื่อนไขไม่ว่าจะเป็นใคร และในวันเลือกนายกรัฐมนตรี ก็ไม่มีพรรคไหนส่งแคนดิเดตนายกฯ แข่ง และพรรคพลังประชารัฐก็โหวตให้นางสาวแพทองธาร ครบทั้ง 39 คน ขาดเพียงคนเดียว คือ"หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ"เพราะติดภารกิจในการจัดเลี้ยงนักกีฬาโอลิมปิก

 

และพรรคพลังประชารัฐได้ส่งรายชื่อรัฐมนตรีชุดเดิม 4 คน ซึ่งถ้านายกรัฐมนตรีเห็นว่าคนใดไม่มีความเหมาะสม ก็สามารถส่งรายชื่อกลับมาเพื่อเปลี่ยนตัวได้ ซึ่งหัวหน้าพรรคก็ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการไปต่อรองเก้าอี้ และยึดมั่นในคำพูดลูกผู้ชายที่ได้มีการสัญญาไว้เท่านั้น แต่สุดท้ายพรรคเพื่อไทยก็มีมติออกมาว่า ไม่สบายใจในการร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งตนเคยได้ยินคำสัมภาษณ์ของนางสาวแพทองธารว่ายังมีพรรคพลังประชารัฐร่วมรัฐบาล แต่การกระทำของพรรคเพื่อไทยไปเทียบเชิญพรรคโน้นพรรคนี้ ได้มีการปรึกษานางสาวแพทองธารแล้วหรือยัง  

 

สามารถ เจนชัยจิตรวนิช  สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

 

ส่วนพรรคเพื่อไทยไม่เอา"พรรคพลังประชารัฐ"เพราะพลเอกประวิตร เป็นปฏิปักษ์กับพรรคร่วมรัฐบาล อีกทั้งไม่มาร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี และอยู่เบื้องหลัง 40 สว. ในการสอย"นายเศรษฐา"นั้น "นายสามารถ"กล่าวว่า อาจจะเข้าใจได้ว่าพลเอกประวิตรเป็นปฏิปักษ์ แต่ตนคิดว่าพรรคการเมืองอื่นน่าจะเป็นปฏิปักษ์มากกว่า เพราะไม่เคยโหวตให้เลย ในรอบของ"นางสาวแพทองธาร"งดออกเสียงทั้งพรรค แต่ของพรรคพลังประชารัฐโหวตให้ 39 คน ตนคิดว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรม

 

ส่วนเรื่อง 40 สว. จะเห็นว่าในรายชื่อ 21  คน ก็โหวตให้ "นายเศรษฐา" เป็นนายกรัฐมนตรี แปลว่า สว.รับไม่ได้ที่มีการเสนอชื่อ นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีหรือไม่ เพราะถ้าไม่ทำผิด คงไม่มีใครไปยื่นถอดถอด ส่วนที่บอกว่า สว. เป็นคนของพลเอกประวิตรนั้น ก็รู้อยู่แล้วว่า สว. ของพลเอกประวิตรมีอยู่เท่าไหร่ ถ้าจะเอาจริงก็คงมากันหมด แต่ 40 สว. ที่ยื่นคำร้อง มีคนไหนเป็นเพื่อนพลเอกประวิตรบ้าง การที่ "นายเศรษฐา" ต้องหลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี  และมาโทษพลเอกประวิตรนั้นไม่ถูก ทำไมไม่ไปโทษ คนที่เอาชื่อ "นายพิชิต" มายัดใส่มือ "นายเศรษฐา" ต้องโทษคนนั้นมากกว่า

 

"ผมว่า ไม่เอาคืนหรอกครับ แต่ใช้กระบวนการของกฎหมาย ซึ่งมั่นใจว่า เรื่องของชาวบ้านที่ต้องไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีจะตระบัดสัตย์หรือไม่ ต่อไปนี้พูดไป จะเชื่อถือได้หรือไม่ ส่วนเรื่องของพรรค สส. หลายคนคงต้องมีมติและดำเนินการกันต่อไป ผมในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่ติดตามการเมือง ไม่เคยเห็นตั้งแต่เล็กจนโต ที่ให้โหวตไปก่อนแล้วมาบิดทีหลัง ให้โหวตไปก่อนแล้วมาหักหลังทีหลัง ไม่เคยเห็น"นายสามารถ กล่าว

 

ส่วนความรู้สึกของ"พลเอกประวิตร"ในขณะนี้นั้น "นายสามารถ"กล่าวว่า  อารมณ์ดี ดูดไปป์ เมื่อวานก็ดูข่าวแล้วไม่ได้เครียดอะไร พลเอกประวิตรเป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก อดีตรองนายกฯ อดีตรักษาการนายกฯ ผ่านอะไรมาเยอะ แต่ถ้านางสาวแพทองธาร คิดว่ามติ สส.ของพรรคสำคัญ เพื่อความสง่างาม ก็ขอให้ลั่นวาจาว่า ลาออก แล้วโหวตใหม่ และดูว่าจะมีคนแข่งหรือไม่ และจะ เหลือคะแนนเท่าไหร่ อย่างนี้พรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นต้องระวังด้วยหรือไม่

 

ส่วนกระแสที่กลุ่ม"ร้อยเอกธรรมนัส  พรหมเผ่า" ไปร่วมมือกับ "พรรคประชาธิปัตย์" เพื่อล้มฝั่ง "พลเอกประวิตร" นั้น ไม่ทราบ แต่มองว่า บ้านเมืองมีกฎ พรรคการเมืองก็มีกฎ คิดว่าก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ในพรรคที่ต้องดำเนินการต่อ 

 

ส่วนถ้ากลุ่มของร้อยเอกธรรมนัสไปร่วมรัฐบาลเพียงกลุ่มเดียว จะส่งผลอย่างไรกับพรรคพลังประชารัฐ นายสามารถ ถามกลับว่า เคยทำได้หรือ เพราะจากที่ "นายทักษิณ ชินวัตร" พูดว่า ถ้ามาก็มาทั้งตัว ก็หมายถึง มาก็มาทั้งพรรคใช่หรือไม่ ต้องไปตีความกันเอาเอง เพราะพรรคใหญ่กว่าคน  ประชาชนใหญ่กว่าพรรค ดังนั้นไม่ว่าจะดำเนินการอย่างไรก็ต้องมีมติพรรค พร้อมยืนยันพรรคพลังประชารัฐไม่แตก แต่ทุกคนที่เป็น สส. มีความคิดเห็นต่างกันได้  แต่สุดท้ายก็ต้องมีมติพรรค ส่วนใครจะปฏิบัติตามหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องเคารพซึ่งกันและกัน

 

\"บิ้กป้อม\" ตั้ง \"วัน อยู่บำรุง\"  รับผิดชอบพื้นที่ทางการเมืองกรุงเทพมหานคร 

 

"นายสามารถ" กล่าวว่า ส่วนหากวันหน้ามาเป็นฝ่ายค้าน และมีการโหวตสวนมติฝ่ายค้าน ก็ถือเป็นเอกสิทธิ์ แต่สุดท้ายก็มีกฎของพรรค ส่วนจะมีโอกาสขับกลุ่มร้อยเอกธรรมนัส ออกจากพรรคหรือไม่ เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค และเชื่อว่าไม่ใช่แผนปิดสวิตช์ 3 ป. เพราะปิดไม่ได้อยู่แล้ว พลเอกประวิตรก็ยังเป็น สส. และแคนดิเดตนายกฯอยู่ และที่บอกว่าปิดสวิตช์ก็คงไม่จริง และปิดไม่ได้ด้วย เพราะมั่นใจว่า 3 ป. ยังรักกัน ที่บอกว่าจะปิดสวิตช์ 3 ป.  ปิดอะไร ไม่เชื่อว่าปิดได้ และเชื่อว่า สายสัมพันธ์ของ 3 ป. ยาวนานกว่า 50 ปี ไม่มีใครมาแยกสลายได้

 

ส่วนถ้าต้องไปร่วมงานกับฝ่ายค้านจริงนั้น ตนมองว่าฝ่ายค้านไม่ได้ต้องการความสามัคคีเหมือนกับฝั่งรัฐบาล ที่จะต้องรวมเสียงหากโหวตแพ้ รัฐบาลก็ล่ม พรรคฝ่ายค้านก็ทำงานตรวจสอบรัฐบาล 

 

ทั้งนี้ ยืนยันว่า"พลเอกประวิตร" ยังไม่ได้ลาออกจาก สส. แม้จะมีกระแสข่าวก่อนหน้านี้สองครั้งแล้ว