svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“บิ๊กโจ๊ก” เปิดปากปมใช้ ปปง. ยื้ออายัดทรัพย์สิน และความสัมพันธ์กับคนใน ปปง.

“บิ๊กโจ๊ก” เปิดปากคลายปมยื่นเรื่องร้องเรียนขอความเป็นธรรม ปปง. ยื้ออายัดทรัพย์สิน พร้อมแจงความสัมพันธ์กับคนใน ปปง.

18 กรกฎาคม 2567 พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์เนชั่นทีวี เปิดใจปม ปปง.ยื้ออายัดทรัพย์สิน และความสัมพันธ์กับคนใน ปปง. รวมถึงกรณีได้มีการมอบหมายให้  พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรสำโรงเหนือ ตำรวจคนสนิท ทำบัญชีหรือไม่ 

โดยเมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าได้ร้องเรียนขอความเป็นธรรมและประสานงานกับ เลขาธิการ ปปง.ในฐานะ วปอ.รุ่น 64 ในการอายัดทรัพย์สิน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า “เรื่องกรมธรรม์ประกันชีวิตของผม ยอดประมาณ 1 ล้านกว่าบาท ไม่ได้ยอดเยอะ แต่พนักงานสอบสวนรายงาน ปปง.ว่า ตนเอาเงินจากเว็บพนันมาจ่ายค่ากรมธรรม์ประกันชีวิต ซึ่งตนทำหนังสือชี้แจง ปปง.ไปว่า คือหลักการยึด/อายัดของ ปปง.จะยึด/อายัดกรมธรรม์หรือทรัพย์ต่าง ๆ ต้องได้มาจากการกระทำความผิด หรือว่าเงินที่เอาไปจ่ายกรมธรรม์ต้องได้มาจากเว็บพนัน
 

พูดง่ายๆ ตนไม่ได้เอาเงินจากเว็บพนันไปจ่าย เป็นคนเรื่องกัน เพราะฉะนั้นตนทำรายละเอียดเส้นเงินไปให้ ปปง.ดู เพราะฉะนั้นเมื่อ ปปง.ดูแล้วก็เลยไม่ได้ยึด/อายัด ก็มีแค่นั้น เพราะฉะนั้นหลักการของ ปปง.จะยึด/อายัด ก็ต่อเมื่อทรัพย์นั้นเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิด ไม่ใช่ว่าอยู่ ๆ แล้วยึดเลย ต้องตรวจสอบก่อน


พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.  

เมื่อถามว่า ประเด็นที่ค้างอยู่ที่ ปปง.คือเป็นไปตามกล่าวไว้ข้างต้น คือประเด็นกรมธรรม์อย่างเดียว พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์  กล่าวว่า “อย่างเดียว ไม่มีเรื่องอื่น คือเป็นการมองไปว่า เอ๊ะ! มีในส่วนของเส้นเงินส่วนอื่น ๆ ไหม เมื่อไม่มี เหตุที่ไม่มี คือเงินส่วนอื่นไม่มี มีแค่กรรมธรรม์อย่างเดียว ที่พนักงานสอบสวนทำไป เพราะเงินอื่น ๆ พนักงานสอบสวนรายงานตนไม่ได้หรอกเพราะว่า เงินส่วนอื่น ๆ มันไม่มีว่าตนไปเชื่อมกับเว็บพนัน คือไม่มีเส้นเงินเว็บพนันสักเส้นเดียวที่มาหาตน แต่ว่าลูกน้อง เช่น พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ หรือคนอื่นๆ รองหนึ่ง (พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิสมัย)จะไปเกี่ยวข้องกับมินนี่ ก็เป็นเรื่องของพวกเขา เพราะพวกเขาอยู่โรงพักในพื้นที่ ตนไม่ได้อยู่กับพวกเขาตลอด
 

แต่เส้นเงินต่าง ๆ ที่จะมาหาตนนั้นไม่มี แต่กลับมีการไปทำข่าวให้ตนเสียหาย อย่าลืมว่าวันนี้ การสอบสวนนั้น ตนได้ยื่นดำเนินคดี ยื่นกล่าวหากับคณะพนักงานสอบสวน ทั้งคณะกับ ป.ป.ช.ว่า เป็นการสอบสวนดำเนินคดีกับตนโดยมิชอบเพราะฉะนั้นต้องพิสูจน์กันไป”

เมื่อถามย้ำว่า พนักงานสอบสวนที่กล่าวถึงคือ บก.ปปป. พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า “ไม่ใช่ เป็นพนักงานสอบสวนชุดที่มีรอง ผบ.ตร. (พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์) เป็นประธาน”

เมื่อถามว่า การเดินสายร้องเรียนหลายหน่วยงานในตอนนี้ ล่าสุดคือขอความเป็นธรรมไปที่ ปปง.นั้น เหมือนจะยืดเวลาไปก่อน พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยืนยันว่า “ไม่ได้ยืดเวลา เราอย่าไปฟังกระแสข่าว  เราต้องเอาข้อเท็จจริงมาตั้ง  เพราะฉะนั้นการที่ ปปง.จะยึด/อายัด ปปง.ต้องยึดตามพยานหักฐาน ไม่ใช่ยึด/อายัดเพราะใครไปลงข่าว ไม่ใช่นะ   เหมือนกับว่า หากตนจะดำเนินคดีใคร  ตนจะทำตามกระแสสังคมไม่ได้ ต้องเอาหลักกฎหมายมาตั้ง

ยันแค่รายการกรมธรรม์ 1.3 ล้านเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่า จากการตั้งข้อสังเกตว่า ตามที่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ชี้แจงล่าสุด (การอายัดกรมธรรม์) นั้น แต่รายงานข่าวบอกว่า มีมูลค่ามากกว่านั้น พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า “ไม่มี  มีแค่นี้เองสิ่งที่ตนบอกไปคือ ยอดเงินเป็นกรมธรรม์ 1. 3 ล้านบาท และตนก็เอาเงินไปจ่ายราว 300,000 บาท มีแค่นี้เอง อย่างอื่น ๆ ไม่มีอะไร

ปัดสายสัมพันธ์ รุ่นพี่รุ่นน้อง วปอ. เป็นเหตุยื้ออายัดทรัพย์สิน 

เมื่อถามว่า กระแสข่าวที่ออกมาตอนนี้บอกว่า ผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ ปปง. (เลขาธิการ ปปง.) เหมือนมีความสัมพันธ์เป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง (เลขาธิการ ปปง.เรียน วปอ.รุ่น 64 /พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เรียน วปอ.รุ่น 65) พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า “ไม่มีนะ ตอนที่เรียน วปอ. เลขาธิการ ปปง.ไม่ได้เรียนกับตน”

เมื่อถามย้ำว่า ตามกระบวนการนั้นจะต้องไปต้องไปชี้แจงกับ ปปง.ไหม พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า “ไม่ เพราะชี้แจงไปหมดแล้ว เพราะมีเรื่องเดียว ไม่มีอะไรมาก ตนชี้แจงชัดเจนว่า เงินของตน 300,000  บาทไม่ใช่ได้มาจากเว็บพนันนะ  ต้องบอกว่า ถ้าจะเอาเงินเว็บพนันนั้น ขอบอกแบบไม่เอ่ยชื่อคนอื่น ๆ นะ มันต้องเอาเป็นร้อย ๆ เว็บพนัน ไม่มีใครมาเอาเงิน 3 แสนบาทหรอก"

เผย ป.ป.ช.เรียกชี้แจงปมกล่าวหา นายกฯ สัปดาห์หน้า 

เมื่อถามว่า ในส่วนของ ป.ป.ช.ล่าสุดมีการติดต่อมาบ้างไหม พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่มีอะไร เรื่องของบัญชีทรัพย์สินของตนยังไม่มีอะไร ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ถ้า ป.ป.ช.ถามมาเมื่อไหร่ ตนชี้แจงได้หมด ไม่เป็นไร”

เมื่อถามว่า อันนั้นจะอีกส่วนหนึ่งที่สำนวน บก.ปปป. 1,420 หน้า ชี้มูลความผิดหลายเรื่อง ไม่รวมสำนวนของหน่วยงานอื่น ๆ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าส่งเท่าไหร่ แต่ว่ามีส่งไปที่ ป.ป.ช. เช่น สน.เตาปูน /บก.ปปป.ที่ส่งไป ป.ป.ช. ซึ่งตอนนี้ตนรอชี้แจง ตอนนี้ยังไม่มีอะไร ระบบ ป.ป.ช.ที่เคยตรวจสอบนั้น ถ้าตรวจสอบแล้วไม่มีมูล ก็ต้องให้สำนวนตก ถ้ามีมูลก็ต้องสั่งไต่สวน แต่วันนี้ ป.ป.ช.ยังไม่ได้แจ้งให้ตนไปให้ปากคำ แต่สัปดาห์หน้า ป.ป.ช.แจ้งให้ตนไปให้ปากคำ กรณีร้องเรียนนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในการแต่งตั้ง ผบ.ตร.เมื่อปีที่แล้ว เพราะเป็นเรื่องที่ตนไปร้องเรียนเอาไว้

สถานะ บิ๊กโจ๊ก – คริษฐ์  นายตร.คนสนิท ตอนนี้ เป็นอย่างไร 

เมื่อถามว่า ที่ บก.ปปป.ชี้ว่า พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ลูกน้องคนสนิทเกี่ยวข้องกับการชี้แจงข้อมูลหลายวาระกับ ป.ป.ช.โดยพบว่า พ.ต.ท.คริษฐ์ มีดีลลับกับคนใน ป.ป.ช.จะชี้แจงอย่างไร พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า “พ.ต.ท.คริษฐ์ เคยทำงานอยู่หน้าห้องตน เพราะฉะนั้นตนก็ให้ พ.ต.ท.คริษฐ์ โอนเงินค่าโทรศัพท์ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่นโอนเงินไปให้คุณแม่ตน ซึ่งไม่ได้เยอะ รวมแล้วทั้งปีราวหนึ่งล้านกว่าบาท ถือว่าน้อยมาก แล้ววันนี้พิสูจน์ได้หมดว่า เป็นเงินของตนไม่ใช่เงินเว็บพนัน ไม่มีใครมาเอาหรอกเงินเว็บพนันแค่หนึ่งล้านกว่าบาท มันต้องเอาเป็นร้อยล้าน เพราะฉะนั้นวันนี้ พ.ต.ท.คริษฐ์ จะทำอะไร จะไปเล่นเว็บพนันก็ไม่เกี่ยวกับตน

แต่ว่าเงินของส่วนนี้ก็คือเงินของตน ที่ให้ลูกน้องไปจ่ายนู้นจ่ายนี้ให้ แต่ลูกน้องจะไปเอาเงินตน ไปใช้บัญชีม้าอย่างไร ตนไม่รู้ แต่สรุปได้ว่า มันคือเงินของตน เพราะทั้งปีมันมี 1 ล้านกว่าบาท ไม่ได้เยอะ คนจะเอาเงินจากเว็บพนัน ตนรู้นะว่าไม่มีใครเอาหรอกแบบนี้ มันต้องเป็น 100 ล้านบาท วันนี้สังคมเห็นอยู่แล้วครับ

เมื่อถามย้ำว่า ปัจจุบันยังได้มีการติดต่อสื่อสารกับ พ.ต.ท.คริษฐ์ หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ รับว่า “ติดต่อปกตินะครับ”

ไม่ได้ให้ คริษฐ์ ดูแลบัญชีการเงินแล้ว 

เมื่อถามว่า หมายถึงยังมอบหมายงาน รวมถึงการมอบให้จัดการเรื่องบัญชีต่าง ๆ ของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์  รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า การจัดการบัญชีนั้น ตอนนี้ตนไม่ได้ให้ พ.ต.ท.คริษฐ์ ทำแล้ว เพราะ พ.ต.ท.คริษฐ์ ต้องไปต่อสู้คดีของตัวเอง ตนให้ลูกน้องคนอื่น ๆ เด็กที่บ้านไปจ่ายเงินค่าใช้จ่าย คือเราไม่มีเวลาหรอก ต้องพูดตรง ๆ  งานเราเยอะอย่างนี้ ไม่มีเวลาไปจ่ายค่าโทรศัพท์ ไม่มีใครเอาเงินเว็บพนันขนาดนี้หรอก เพราะว่าน้อยไป

ทำรายงานแจง กพค.ตร.ไปแล้ว 

เมื่อถามว่า ข้อร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับ ก.พ.ค.ตร. ตอนนี้คืบหน้าเช่นใด (การร้องเรียนคำสั่ง ตร.สั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น ขัดกฎหมาย) พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า “ตอนนี้ตนส่งเอกสารไปหมดแล้ว  อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งระยะเวลาของการดำเนินการนั้น ยังไม่ทราบเลย ตอนนี้ตนไม่ทราบว่าจะพิจารณาเมื่อไหร่ แต่กรอบเวลาดูน่าจะไม่ยาวนานใช่ไหม (120 วัน) แต่ขยายได้ แต่ไม่ทราบว่า ก.พ.ค.ตร.จะพิจารณาอย่างไร ก็ต้องรอ เพราะมันจะมีผลต่อเรื่องของอนาคตของตน”

เมื่อถามย้ำว่า เส้นทางต่อไปอาจจะจบที่ศาลปกครองสูงสุด พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กล่าวว่า “ใช่ ต้องอยู่ตรงนี้ แต่เรายืนยันด้วยความบริสุทธิ์ ตนทำรายงาน/ทำคำชี้แจงไปหมดแล้ว ส่งไปนานแล้ว โดยชี้แจงว่า
สิ่งที่ ตร.ดำเนินการมานั้น ไม่ถูกต้องอย่างไร ก็รอฟังผลอย่างเดียว

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.