svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ลุงชาญ" เตรียมลุยนั่งนายก อบจ. หลังพบศาลไม่เคยสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

แฟนคลับยิ้มออก "ลุงชาญ" เตรียมลุยนั่งนายก อบจ. หลังพบศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 1 ไม่เคยสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ กฎหมายเขียนชัด "ไม่ต้องหยุดทุกเคสให้เป็นดุลพินิจศาล"

2 กรกฎาคม 2567 ความคืบหน้ากรณี นายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี คนใหม่ ที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อถุงยังชีพเมื่อปี พ.ศ.2555 ปัจจุบัน และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 จ.ปทุมธานี มีคำสั่งประทับฟ้องคดีนี้แล้ว และคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอาญาฯ  ว่า เรื่องการดำเนินคดีของ ป.ป.ช. ตามอำนาจหน้าที่ได้มีการชี้มูลความผิดไปเมื่อปี 2564 กรณีการจัดซื้อจัดจ้างที่มีลักษณะการฮั้ว ในระหว่างการดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี โดยในเรื่องนี้ทาง ป.ป.ช.ได้ฟ้องเอง และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ได้มีการประทับรับฟ้องแล้ว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบพยานนั้น ซึ่งตามกฎหมายต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่
นายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี คนใหม่  

มีรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า ศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค 1 ไม่เคยมีคำสั่งให้นายชาญ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งจะมีการนัดสืบพยานภายในเดือนนี้ ซึ่งตามตัวบทกฎหมายเเล้ว พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 81 ระบุว่า ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประทับฟ้อง ตามมาตรา 77 ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา เว้นแต่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น 

ซึ่งมาตรา 93 บัญญัติไว้ว่า เมื่ออัยการสูงสุดได้รับสำนวนคดีอาญาตามมาตรา 91 ให้อัยการสูงสุดพิจารณาเพื่อดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลที่มีเขตอำนาจภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่ได้รับสำนวน ให้นำความในมาตรา 77 มาตรา 78 มาตรา 80 มาตรา 81 มาตรา 82 มาตรา 83 มาตรา 84 มาตรา 85 และมาตรา 86 มาใช้บังคับกับการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยโดยอนุโลม 
นายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี คนใหม่
 

เเหล่งข่าวจากศาลยุติธรรมกล่าวว่า จะเห็นว่ามาตรา 93 นี้ ให้ศาลอาญาคดีทุจริตฯ นำความในมาตรา 77 มาใช้โดยอนุโลม จะเห็นว่า ตัวบทสั่งให้หยุด เเต่ศาลไม่ได้สั่งให้หยุด เพราะกฎหมายให้อำนาจใช้ดุลพินิจ ไม่ต้องสั่งให้หยุดได้ เพราะศาลมองว่า ยังไม่มีเหตุเพียงพอที่จะสั่งให้หยุด เเต่ก็มีเรื่องเเนวคิดการเมืองบริสุทธิที่ความจริง มันต้องอยู่ที่ตัวบุคคลไม่ใช่อยู่ที่ช่วงเวลาว่า บุคคลที่หมองเเล้วไม่ควรเข้าสู้พื้นที่ของตำเเหน่งทางการเมืองได้อีก 

เเต่เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค 1 ไม่ได้สั่งให้หยุด เเละไม่ได้มีหมายจำคุกถึงที่สุด เเละรอบนี้นายชาญได้รับเลือกจากประชาชนอีก เเนวคิดเรื่องกีดกันคนที่เคยมีปัญหาออกไปนั้น ต้องรู้ด้วยว่า การใช้กฎหมายอาญา ต้องตีความเคร่งครัดจะไปขยายบทไม่ได้ จะไปฝืนว่า นายชาญไม่ปลอดภัยเพียงพอไม่ได้ 

ในส่วนบุคคลที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ เคยสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปเเล้ว หากได้รับเลือกเป็นผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมืองอีกครั้งเเล้ว จะปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่นั้น เเหล่งข่าวจากศาลยุติธรรมมองว่า เท่าที่ทราบไม่เคยมีกรณีเเบบนี้เกิดขึ้นมาก่อน

จะใกล้เคียงสุดคือกรณีของ นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการ (รมช.) กระทรวงมหาดไทย ที่โดนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดและยื่นคำฟ้อง กรณีสมัยเป็น นายก อบจ.ละเว้นไม่เบิกจ่ายเงินค่ารถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.สงขลา) ให้แก่บริษัท พลวิศว์ เทคพลัส จำกัด เป็นจำนวนเงินกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งในครั้งนั้นนายนิพนธ์ก็ได้ลาออกก่อนศาลจะมีคำสั่งว่าต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ 

ซึ่งเเนวทางของศาลอาญาคดีทุจริตฯ เท่าที่ทราบ ก็จะใช้ดุลพินิจว่า กรณีที่ถูกประทับฟ้องศาลจะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ ถ้ามีเหตุที่จะสั่งให้หยุด เเต่ก็ไม่จำเป็นต้องหยุดทุกเคสไป เพราะตัวบทเขียนไว้ว่า ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะมีคำพิพากษา เว้นเเต่ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

ยกตัวอย่าง คดีของ ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กสทช. ศาลก็ไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะอาจเกิดความเสียหาย กรณีนี้เท่ากับว่า นายชาญไม่เคยถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จึงสามารถเป็นนายก อบจ.ได้
นายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี คนใหม่