svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

กลิ่นทุจริตโชย กกต. พบ 4 พฤติการณ์ส่อทุจริตเลือก สว.ประเทศ

กลิ่นทุจริตโชย กกต. พบ 4 พฤติการณ์ส่อทุจริตเลือก สว.ประเทศ เลขาฯ กกต.ยอมรับเป็นเรื่องจริง จับกุมได้ยาก สั่งเดินหน้าตรวจสอบ ย้ำรับรอง 200 สว.ตามไทม์ไลน์

24 มิถุนายน 2567 เหลือเวลาอีกแค่สองวัน จะเข้าสู่วันเลือก สว. ระดับประเทศ จาก 3,000 คน ให้ได้ 200 คน ในวันพุธที่ 26 มิ.ย. 67 ที่อิมแพค เมืองทองธานี 

แต่ยิ่งใกล้ถึงวันเลือกเท่าไหร่ กลิ่นทุจริต การเลือก สว.ก็คละคลุ้งมากยิ่งขึ้น 

ล่าสุด แหล่งข่าว กกต. เปิดเผยว่า กกต.พบความเคลื่อนไหวการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการทุจริตเลือก สว. โดยพฤติการณ์ที่พบแบ่งเป็น 4 รูปแบบ คือ

1.ผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ระดับจังหวัด มีการต่อรองขอตำแหน่ง หรือเรียกรับผลประโยชน์หลักแสนบาท แลกกับการลงคะแนนเลือกให้เป็นผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ระดับประเทศ

2.การเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมือง ที่หนุนหลังผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ระดับจังหวัด พยายามเก็บตกผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ระดับจังหวัดรายอื่น เพื่อให้กลุ่มของตนเองมีผู้มีสิทธิ์เลือกมากที่สุด

3.พบมีคนกลางจองห้องพักโรงแรมบริเวณใกล้สถานที่เลือก และนัดรวมตัวกัน ก่อนวันเลือก เพื่อล็อบบี้และเช็กคะแนนเสียง โดยนำจำนวนเสียงที่รวบรวมได้ ไปเรียกรับประโยชน์หลักล้านบาท เพื่อแลกกับการลงคะแนนสนับสนุน

4.ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีการติดต่อไปยังผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ระดับจังหวัด ในพื้นที่ทุกกลุ่มอาชีพ เพื่อให้มาอยู่กลุ่มตนโดยอ้างว่า จะสนับสนุนให้เป็น สว.

แหล่งข่าวกล่าวว่า พฤติการณ์ที่พบกระจายอยู่หลายพื้นที่ แต่จะพบมากในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งสำนักงาน กกต.ได้ให้ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ฝ่ายสืบสวนสอบสวนแต่ละจังหวัด ชุดเคลื่อนที่เร็วประกบติดตามความเคลื่อนไหว ของผู้สมัครอย่างใกล้ชิด และรายงานให้กับ กกต.ทราบ
กลิ่นทุจริตโชย กกต. พบ 4 พฤติการณ์ส่อทุจริตเลือก สว.ประเทศ
 

เลขาฯ กกต.ยอมรับมีฝ่ายการเมืองเอี่ยว เลือก สว.สมประโยชน์กัน 

นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า กรณีดังกล่าว ภายใน 2-3 วันนี้ กกต.ได้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ชุดสืบสวนสอบสวน พนักงานของ กกต. หน่วยข่าวของตำรวจ ที่ทำงานร่วมกันเข้าไปดู ประมวลข้อมูลที่ได้มา เพื่อดำเนินการป้องปราม และจับกุมได้ให้ได้ ซึ่งข้อมูลที่ได้รับมา มีทั้งเป็นเบาะแส เรื่องเล่า และผู้ร้องเรียน ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของ กกต. กับเวลาอีก 2-3 วันก่อนการเลือก สว.ระดับประเทศ 

เลขาธิการ กกต. ย้ำว่า การประกาศผลเลือก สว.ยังเป็นไปตามไทม์ไลน์ แม้จะมีคำร้องกว่า 330 เรื่อง โดยกว่า 200 เรื่อง เป็นเรื่องคุณสมบัติ และการลงสมัครในกลุ่มที่รู้แล้วว่า ตัวเองไม่มีสิทธิ์ ซึ่ง กกต.ได้วินิจฉัยไปบางส่วนแล้ว โดยการลงผิดกลุ่มนั้น เป็นเรื่องข้อกฎหมายที่ต้องรอการวินิจฉัย และ 2 วันที่ผ่านมา มีผู้ร้องเพิ่มเข้ามา 39 เรื่อง ซึ่งคาดว่า จะดำเนินการแล้วเสร็จก่อนวันเลือก สว. ระดับประเทศ ส่วนเรื่องการทุจริตมีรวมประมาณ 90 เรื่อง ซึ่งยังต้องใช้เวลา

ส่วนกรณีที่การเลือก สว.ครั้งนี้ มีกระแสข่าวฝ่ายการเมืองอยู่เบื้องหลังนั้น นายแสวงกล่าว ยอมรับว่า การเมืองมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ตามกฎหมาย หากฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือช่วยเหลือจะถือว่า มีความผิด จึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบางทีการเมืองสมยอมสมประโยชน์กัน ทำให้ กกต.เข้าถึง หรือจับกุมได้ยาก ส่วนเรื่องการร้องทุจริต สว.ก็มีเหมือนกับการเลือก สส.แต่น้อยกว่า 

เลขาธิการ กกต.ยังกล่าวถึงความกังวล กรณีที่ผู้สมัครจะประท้วงระหว่างการ เลือก สว.ระดับประเทศว่า ผู้สมัครสามารถไปร้องเรียนตามช่องทาง และ กกต.จะเน้นการเจรจา จะไม่ใช้ตำรวจเข้ามาควบคุม ดังนั้นหากเกิดความไม่พอใจ ก็ขอให้ผู้สมัครใช้วิธีทักท้วง และใช้สิทธิทางศาลหรือตามขั้นตอน แต่อย่าทำให้เสียเวลาส่วนรวม 
นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.
 

ประธาน กกต. ย้ำมีสายข่าวจับตารวมกลุ่มฮั้วโหวต

ขณะที่ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ย้ำว่า การเลือก สว.ระดับประเทศ ผู้สมัครไม่สามารถพกโพยจดหมายเลข การลงคะแนนให้กับผู้สมัครอื่น เข้าไปในการลงคะแนนได้ แต่ทาง กกต.จะมีเอกสารแนะนำตัวสมัคร หรือ สว.3 เป็นคู่มือให้กับผู้สมัคร สามารถนำไปเป็นข้อมูลประกอบการลงคะแนนได้ ทั้งในแบบการเลือกกันเองในกลถ่มอาชีพ และการเลือกไขว้ข้ามกลุ่ม รวมถึงในระหว้างการจับฉลากแบ่งสายเลือกไขว้ข้ามกลุ่ม ก็จะมีช่วงเวลาพักให้ผู้สมัคร สามารถทำความรู้จักกันได้ และสามารถนำเอกสารดังกล่าวเข้าไปในคูหาได้ 

ส่วนกรณีที่ นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงประธาน กกต.ให้ตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงนั้น ขอชี้แจงว่า การรับรองคุณสมบัตินั้น ผู้สมัครจะต้องรับรองความรู้ และความเชี่ยวชาญของตนเองไม่น้อยกว่า 10 ปี และต้องมีผู้รับรองอีกชั้นหนึ่งด้วย โดยนำเอกสารการรับรองดังกล่าว มาให้ผู้อำนวยการเลือกในระดับอำเภอตรวจสอบ หากไม่มีข้องสงสัย ก็สามารถรับสมัครได้ แต่หากพบภายหลังว่า คุณสมบัติไม่เป็นความจริง ผู้สมัคร และผู้รับรองก็จะมีความผิด 

ส่วนกรณีกระแสข่าวผู้สมัครจับกลุ่มฮั้วกัน โดยพักที่โรงแรมที่เดียวกันนั้น ประธาน กกต.ยอมรับว่า สามารถมองได้ 2 ทาง เนื่องจากเป็นเรื่องปกติ ที่การจัดให้มีการเลือกระดับประเทศที่เดียวกัน ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ผู้สมัครอาจจะพักที่เดียวกัน เพื่อความสะดวก แต่การรวมกลุ่มก็ถือเป็นสิ่งต้องสงสัย กกต.ก็มีการติดตาม ความเคลื่อนไหว และระมัดระวัง หากพบพยานหลักฐานชัดเจน จนนำไปสู่การจับกุมได้ กกต.ก็จะดำเนินการ และขอให้ประชาชน ที่มีหลักฐาน ได้ส่งหลักฐานมายัง กกต.เพื่อช่วยกัน 

และในอีกมุมหนึ่ง กฎหมายเปิดช่องให้ผู้สมัคร แนะนำตัวกันได้อย่าวกว้างขวาง ตามคำวินิจฉัยศาลปกครอง จึงถือเป็นธรรมชาติของผู้สมัคร ที่หาโอกาสพบกัน แต่ยืนยันว่า กกต.ก็มีสายข่าว และมีการป้องปรามการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายการล็อบบี้ต่าง ๆ 
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.