svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ดร.เอ้" เห็นต่าง "กาสิโน" แนะรัฐควรมุ่งพัฒนาคนมากกว่าบ่อนเสรี

"สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์" ค้านเปิด "กาสิโนเสรี" แนะรัฐบาลหากอยากทำเหมือน "สิงคโปร์" ต้องดูเมืองลอดช่องที่มุ่งเน้นด้านการศึกษา เพื่อมุ่งสร้างรายได้เศรษฐกิจประชาชน ก่อนไปเรื่องอื่น หวั่นเอาชาติมาลองผิดลองถูก สุดท้ายลูกหลานเสียคน

31 มีนาคม 2567 หลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเป็นเอกฉันท์ 253 เสียง เห็นชอบ "รายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง ศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ" ที่มี "นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์" รมช.คลัง เป็นประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร พิจารณาแล้วเสร็จนั้น

โดย "ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์" รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวแสดงความเห็นที่สภาเห็นชอบรายงานศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร โดยระบุว่า 

"ดร.เอ้" เห็นต่าง "กาสิโน" แนะรัฐควรมุ่งพัฒนาคนมากกว่าบ่อนเสรี

นายกรัฐมนตรี พูดเรื่อง "กาสิโนเสรี" 

โดยไทยเรายังไม่พร้อม ทั้งเรื่องโครงสร้างกฎหมาย และการบังคับใช้จากเจ้าหน้าที่รัฐ อีกทั้ง เรายังไม่มีภูมิคุ้มกันให้แก่เยาวชน สุดท้ายจะกลายเป็น "ปัญหาร้ายแรง" ที่แก้ไขยาก เช่นเดียวกับ "กัญชาเสรี" และอาจรุนแรงกว่าด้วยซ้ำ! 

อีกทั้ง ไม่ได้การันตีว่า "บ่อนออนไลน์" และ "บ่อนเถื่อน" จะหมดไปแต่อย่างใด อาจเฟื่องฟูกว่าเดิมก็เป็นไปได้ โดยสุดท้าย ส่งผลให้ "คุมผลกระทบไม่ได้" เกิดการบานปลาย และสังคมพัง

ขณะเดียวกัน ยกตัวอย่างจาก "ผู้นำสิงคโปร์" เตรียมความพร้อม "ด้านการศึกษา" มาเป็นอันดับแรก เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันแก่พลเมือง และ มุ่งสร้างรายได้ประชาชาติจาก "เศรษฐกิจมูลค่าเพิ่ม" ที่แท้จริง ก่อนจะทำเรื่องอื่น

"ดร.เอ้" เห็นต่าง "กาสิโน" แนะรัฐควรมุ่งพัฒนาคนมากกว่าบ่อนเสรี

หากจะเลียนแบบสิงคโปร์ ที่มีกาสิโน ก็ควร "ศึกษาปัญหาอย่างละเอียดถี่ถ้วน" ไม่ฉาบฉวย ไม่เร่งร้อน รับฟังประชาชนรอบด้าน ทั้งสิงคโปร์เป็นประเทศเล็ก พลเมืองน้อย เจ้าหน้าที่รัฐเข้มแข็ง ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ปกป้องลูกหลาน ได้อย่างเต็มที่ เราทำแบบเขาได้ไหม? 

แต่ "นายกรัฐมนตรีไทย" ที่เน้นแต่จะสร้าง "รายได้เฉพาะหน้า" โดยไม่คำนึงถึง "การพัฒนาคน" และจะส่งผลกระทบ ต่อเด็ก ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ซึ่งจุดนี้ตนอดห่วงในลูกหลานเสียไม่ได้

ผมขอพูดในฐานะ พลเมืองไทยและพ่อคนหนึ่ง ที่ไม่ต้องการให้ประเทศไทย เดินทางแบบมั่วซั่ว ลองผิดลองถูก สุดท้ายลูกๆหลานๆ ต้องมาเสียคน อะไรก็ทดแทนกันไม่ได้

"ชัยชนะ" หนุนยกระดับการละเล่นพื้นบ้านให้ถูกกฎหมาย 

ขณะที่ "นายชัยชนะ เดชเดโช" สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า การที่ประชุมสภาฯ เห็นชอบรายงาน เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยจะนำเขาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้านั้น ส่วนตนได้ดูเนื้อหาแล้วเห็นว่าการสร้าง Entertainment Complex ต้องใช้พื้นที่ 1 หมื่นตารางเมตร และต้องอยู่ห่างไกลจากสนามบินไม่เกิน 100 กิโลเมตร และต้องลงทุน 3 แสนล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้ตนคิดว่ารัฐบาลควรศึกษาให้รอบคอบ

นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า ต้องไปศึกษาประเทศที่มี Entertainment Complex แล้วฐานภาษี 10 ปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นหรือลดลง และปัญหาสังคมจะยับยั้งไว้อย่างไร ดังนั้น คิดว่ารัฐบาลควรทำคือควรทำการละเล่นพื้นบ้านให้ถูกต้องก่อน เช่น วัวชน ไก่ชน ปลากัด หรือ การเล่นไฮโล เล่นไพ่ในงานศพ

 

"วิธีการง่ายๆ คือ ถ้ามีงานศพ ก็ให้เจ้าภาพไปขออนุญาตที่อำเภอ แล้วคิดค่าธรรมเนียมนำเงินเข้าราชการ วงละ 500 บาท เช่น 1 คืน 3 วง รวม 1,500 บาท แล้วถ้าเกินจากนี้ก็บังคับใช้กฎหมายจับอย่างตรงไปตรงมา" นายชัยชนะ กล่าว 

 

นอกจากนี้ รวมถึงการละเล่นพื้นบ้านในภาคอีสาน เช่น การเล่นบั้งไฟ ลูกสะบ้า เกมยิงลูกแก้ว หนูนาพาโชค ถ้ารัฐบาลทำเรื่องนี้ให้ถูกต้อง และขออนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย เป็นครั้งคราว ตามประเพณี ตนคิดว่ารายได้จะเข้าสู่ประเทศมากขึ้น และหยุดส่วยมากยิ่งขึ้น

 

"แต่ถ้าเราไปทำ Entertainment Complex ต้องยอมรับว่าความจริงเกิดขึ้นได้หรือไม่ ต้องใช้เวลากี่ปี เพราะศึกษาเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2548 รวมถึงสภาฯ ชุดที่แล้วก็มีการศึกษากัน แต่ก็ไม่ได้ทำ สภาฯชุดนี้ก็ยังมาศึกษาอีก ดังนั้น ผมคิดว่าถ้าเราศึกษาเรื่องไหนที่เป็นไปไม่ได้ ก็ควรเอาเรื่องที่ทำเป็นไปได้ก่อน" รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ

 

เมื่อถามว่า ทางรัฐบาลระบุว่าจะมีการต่อยอดจากรัฐบาล "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" อดีตนายกฯ ที่จะใช้สนามบินอู่ตะเภา เพราะสะดวกในเรื่องพื้นที่การเดินทาง ซึ่งถือว่าเหมาะสมที่สุด นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าที่ดินสามารถหาได้ แต่ขอถามว่า ถ้าทำจริงๆ ต้องลงทุน 3 แสนล้านบาท จะหาบริษัทมาลงทุนได้หรือไม่ เพราะเรื่องฐานภาษีย้อนหลังทั้งสิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ จะพบว่าลดลงไม่ได้เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าถ้าเอารูปแบบต่างประเทศเข้ามา ไทยจะยับยั้งปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ แต่ถ้าละเลย การละเล่นพื้นบ้าน แล้วมาทำให้ถูกต้องทั้งหมด อะไรที่อยู่ใต้ดินที่บอกว่าตำรวจยังเก็บส่วยมีผลประโยชน์อยู่ หรือหน่วยงานของรัฐมีผลประโยชน์ ตนคิดว่าต้องเอาของเหล่านี้มาอยู่บนดินให้ได้ รวมถึงหวยใต้ดิน

 

"หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าคนไทย ไม่ได้เล่นหวยใต้ดิน เมื่อซื้อลอตเตอรี่ก็ต้องเล่นหวยใต้ดิน เอามาทำให้ถูกต้อง โดยสร้างแพลตฟอร์มเป็นของรัฐเองทั้งหมด เช่น แพลตฟอร์มลอตเตอรี่เพราะทุกวันนี้ขายผ่านแอพเป๋าตัง ที่เหลือก็ยังซื้อตรง จึงเห็นว่าถ้าทำผ่านแพลตฟอร์มทั้งหมด ปัญหาก็จะหายไป ​รัฐบาลก็จะได้รายได้มากขึ้น" นายชัยชนะ กล่าว 

 

เมื่อถามว่า มีความกังวลว่าการทำให้พนันถูกกฎหมายจะทำให้มีนักพนันหน้าใหม่เพิ่มมากขึ้น นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนถามข้อเท็จจริง ไม่ได้พูดเรื่อง Entertainment Complex แล้วการละเล่นพื้นบ้านหลีกเลี่ยงได้หรือไม่ งานไหนบ้างไม่มีการเล่นไฮโล ไพ่สำรับ ไพ่ตอง ไพ่จอด ซึ่งต้องยอมรับว่าสังคมไทยมีอยู่จริง และปฏิเสธได้หรือไม่ว่าคนไทยทุกวันที่ 1 กับ 16 ไม่ซื้อหวยใต้ดิน ถ้าเอาของแบบนี้มาอยู่บนดิน แล้วทำให้ถูกต้อง รัฐก็จะมีรายได้มากขึ้น ดังนั้น ควรผลักดันสิ่งที่เป็นอยู่ให้ถูกต้อง

 

"หากเราสร้าง Entertainment Complex ขึ้นมา ปัญหาสังคมที่จะตามมาใครจะยับยั้ง ผมคิดว่ารัฐบาลต้องยอมรับว่าเป็นรัฐบาลทิพย์อยู่ตลอดเวลา เพราะผลักดันในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ นายกฯ ก็เป็นนายกทิพย์อยู่แบบนี้ เพราะท่านคิดฝัน แล้วทำไม่ได้ นี่คือเป็นคุณสมบัติของท่านนายกศรีธนญชัย คือ คุณเศรษา ทวีสิน และที่นายกแสดงความฟิตด้วยชกมวยก็คงเครียด เมื่อเป็นนายกทิพย์ แล้วทำอะไรไม่ได้ด้วย ที่ทำได้ที่สุดคือต่อยเป้ามวย ผมก็ดีใจด้วยที่นายกใช้วันพักผ่อนชกมวย ซึ่งยังชกลมอยู่ เพราะฉะนั้น การทำงานก็ยังทำงานลมอยู่" นายชัยชนะ กล่าว

 

สำหรับจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวกับ Entertainment Complex นั้น โดยจากการหารือกับ สส.ในพรรค ซึ่งไม่ใช่มติพรรค เห็นด้วยกับการสนับสนุนการละเล่นพื้นบ้าน แต่ Entertainment Complex ยังไม่สนับสนุน เพราะมองว่าเป็นไปไม่ได้ และถ้านายเศรษฐา ไม่รู้จักการละเล่นพื้นบ้านที่ตนกล่าวมาแล้ว สามารถเชิญตนไปคุยให้ข้อมูลได้