svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“อิ๊งค์” รับเป็นข่าวดีมีชื่อ “ทักษิณ” พักโทษ หากหมออนุญาตจะออกมาพบประชาชน

“อุ๊งอิ๊งค์” รับเป็นข่าวดีของเช้านี้มีชื่อ “ทักษิณ” ได้รับพักโทษ เชื่อหากได้พัก-หมออนุญาต จะออกมาพบประชาชนแน่นอน ขณะที่นายกฯ ยัน พักโทษเป็นไปตามระเบียบราชทัณฑ์

13 กุมภาพันธ์ 2567  "น.ส.แพทองธาร ชินวัตร" หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่มีชื่อนายทักษิณ เป็นหนึ่งใน 900 กว่ารายชื่อที่ได้รับการพักโทษนั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่ทราบถึงรายชื่อ เพิ่งทราบจากข่าวออนไลน์ แต่ครอบครัวก็ทราบในหลักการ ที่ผ่านมายังไม่ได้เคยได้รับการยืนยัน เพิ่งทราบพร้อมประชาชน และยอมรับว่าเป็นข่าวดีของเช้านี้ (13ก.พ.)

หากหมออนุญาตจะออกมาพบระชาชนแน่

ส่วนจะได้เห็นตัวนายทักษิณหรือไม่นั้น ยังไม่แน่ใจว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร แต่เมื่อนายทักษิณกลับบ้าน แล้วได้พัก และหมออนุญาต ก็คิดว่านายทักษิณจะออกมาข้างนอกแน่นอน เพราะนอนอยู่ในห้องมา 6 เดือนแล้ว ตอนนี้อยากให้พักผ่อนให้สบายใจเพื่อให้ออกมาอย่างแข็งแรง และจะต้องรักษาตัวต่อหรือไม่นั้น เบื้องต้นหมอยังไม่ได้บอก แต่เคยคุยว่าถ้าได้รับการพักโทษ จะให้หมอไปดูตรวจเช็กสุขภาพที่บ้าน ส่วนสถานที่พักหลังจากนี้ยังคงเป็น "บ้านจันทร์ส่องหล้า" ซึ่งมีการเตรียมทำความสะอาดไว้แล้ว

ต้องถามทางกรมราชทัณฑ์ว่าใช้หลักเกณฑ์อย่างไร ซึ่งในการประเมินการพักโทษประกอบด้วยหลายอย่าง ไม่ใช่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง และผู้ได้รับสิทธิ์พักโทษ ไม่ใช่แค่นายทักษิณ และนายทักษิณก็ผ่านกระบวนการนี้เหมือนทุกคน

เชื่อหลายคนจะไม่ค้าน หากรู้ว่า 17 ปี "ทักษิณ" ทำประโยชน์อะไรบ้าง

ส่วนกังวลว่าจะมีหลายกลุ่มออกมาคัดค้านการพักโทษหรือไม่นั้น น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ทำประโยชน์กับประเทศมากมาย แม้จะออกจากประเทศไป 17 ปี ตลอด 17 ปีนี้ มีหลายคนไม่รู้จัก หากได้รู้จักและทราบว่าได้ทำประโยชน์กับประเทศมากมาย ได้รับความยุติธรรมและไม่ยุติธรรมปะปนกันไป ที่ผ่านมาครอบครัวให้ความมั่นใจกับนายทักษิณว่า การกลับมารับโทษในที่จำกัดตลอด 6 เดือน ในวัย 75 ปี วันนี้ถึงเวลาได้พักโทษ ได้กลับบ้านก็ขอให้มีกำลังกายที่แข็งแรง สมบูรณ์ เพื่อออกมาใช้ชีวิตในเมืองไทย ได้อย่างมีความสุข และหวังว่าถ้าไปที่ไหนก็จะมีแต่คนรอรับตามที่เคยตั้งความหวังไว้ ว่าจะออกไปพบปะประชาชน และหวังว่าหลังจากพักโทษและกลับบ้านแล้วทุกอย่างจะเรียบร้อยดี

ไม่ทราบ "ฮุนเซน" จะมาเยี่ยมหลังรับการพักโทษ

ขณะเดียวกัน ส่วนตัวยังไม่ทราบถึงกระแสข่าวว่า "สมเด็จฮุน เซน" อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะเดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณ ภายหลังได้รับการพักโทษ สำหรับวันที่ครบกำหนดพักโทษจะเป็นวันที่ 18 หรือ 22 ก.พ. นั้น

นายกฯ ยัน “ทักษิณ” ได้รับพักโทษตามกฎหมาย

ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร เป็นหนึ่งในรายชื่อที่จะได้รับการพักโทษว่า ตนก็ได้ทราบจากข่าว ก็เข้าใจและถือว่าเป็นทางการแล้วว่านายทักษิณจะได้รับการพักโทษ ซึ่งเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายของกรมราชทัณฑ์ คิดว่าเราควรว่ากันไปตามกฎหมาย และนายทักษิณก็เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีมาหลายปี รวมถึงเป็นคนที่มีประโยชน์กับประเทศชาติมายาวนาน เป็นนายกรัฐมนตรีที่คนนิยมชมชอบสูงที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศไทย และเมื่อท่านออกมาแล้วก็เป็นประชาชนคนธรรมดา เรื่องในอดีตก็ขอให้เป็นอดีตไป เพราะได้เข้ากระบวนการทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว 

“ท่านเองก็มีลูกมีหลาน ลูกสาวคนเล็กก็เป็นหัวหน้าพรรค ตนเชื่อว่าท่านก็คงมีคำแนะนำดีๆ ที่จะให้เป็นแนวทาง อะไรที่เป็นประโยชน์ ตนเชื่อว่าทางลูกนำมาเป็นประโยชน์ในการบริหารประเทศได้ ท่านเองก็มีหลาน 7 คน ในฐานะที่ตนเป็นพ่อคนก็เข้าใจ ความรักของคุณปู่หรือคุณตาที่จะมีให้กับหลาน อันนี้ก็เป็นสิทธิของท่าน แต่ยืนยันทำตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ทุกอย่าง”

“อิ๊งค์” รับเป็นข่าวดีมีชื่อ “ทักษิณ” พักโทษ หากหมออนุญาตจะออกมาพบประชาชน

ไม่กังวลเกิดความวุ่นวายหลัง “ทักษิณ”พักโทษ

ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่ ว่าการที่นายทักษิณได้รับการพักโทษ จะทำให้เกิดความขัดแย้งในสถานการณ์ที่มีความเห็นต่าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คิดว่าทำตามกฎหมายทุกอย่าง ทั้งระเบียบของกรมราชทัณฑ์ ท่านก็กลับมารับโทษชัดเจน ทุกอย่างเข้าเกณฑ์หมดขอให้ว่าไปตามกฎหมาย จริงๆ แล้วเราอยู่ในกฎการอยู่ร่วมกันคือมีกฎหมาย 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกรัฐมนตรีเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้านั้น ผู้สื่อข่าวถามว่าได้รับรายงานหรือไม่ว่านายทักษิณจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อไหร่ นายกรัฐมนตรี บอกว่า ตนไม่ทราบเลย เมื่อมีข่าวออกมาก็ได้อ่านแค่พาดหัวข่าวนิดเดียว ยังไม่รู้รายละเอียด 

ปัดตอบขอคำปรึกษา "ทักษิณ" 

เมื่อถามต่อว่าในอนาคตถ้ามีโอกาส จะขอคำปรึกษากับนายทักษิณอย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอคำปรึกษากับคนที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติทุกคนแหละ ไม่ว่าจะเป็นพรรคตรงข้าม ฝ่ายตรงข้าม รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรี ทหาร ตำรวจในอดีต ก็มีการพูดคุยตลอดเวลา เพราะเรามาในรัฐบาลที่มีพรรคร่วมเยอะ และมีปัญหาในบ้านเมืองเยอะ ความชำนาญในการบริหารจัดการประเทศของแต่ละคนก็มีไม่เท่ากัน บางเรื่องเรามีความรู้มาก บางเรื่องก็มีความรู้น้อยก็ควรต้องพูดคุยทุกคน ก็ต้องดูเรื่องกฎหมายเรื่องต่างๆ ด้วย