25 ธันวาคม 2566 เวลา 09.30 น. ศาลรัฐธรรมนูญ นัดไต่สวนพยานบุคคล ในคดีล้มล้างการปกครองฯ ที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความอดีตพระพุทธะอิสระ ยื่นคำร้องให้ ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่าการกระทำของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล(ในขณะที่ถูกร้อง) ผู้ถูกร้องที่ 1 และ พรรคก้าวไกล ผู้ถูกร้องที่ 2 ที่เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่…) พ.ศ…เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงเลือกตั้งและยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 วรรคหนึ่งหรือไม่
ล่าสุด นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ทวิตผ่าน X “Piyabutr Saengkanokkul @Piyabutr_FWP” ระบุว่า “ให้กำลังใจ พิธา ชัยธวัช และพรรคก้าวไกล ในการให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ครับ”
ทั้งนี้ พรรคก้าวไกล ได้มอบหมายให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายชัยธวัช ตุลาธน ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล เข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากในช่วงหาเสียงเลือกตั้งนายพิธาและนายชัยธวัช ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค
วันนี้ นายพิธา และนายชัยธวัช ได้นำบันทึกคำให้การของพยานอีก 6 ปาก มาประกอบการไต่สวนด้วย โดยนายพิธา กล่าวว่า วันนี้ (25 ธ.ค.) จะใช้ข้อเท็จจริงและหลักกฏหมายในการชี้แจงว่า ในการเสนอนโยบายถูกต้องตามกฎหมาย ตนยืนยันว่า นโยบายดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย และชอบด้วยรัฐธรรมนูญทุกประการ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่การล้มล้างการปกครอง ส่วนรายละเอียดขอชี้แจงในชั้นศาล ยืนยันว่าไม่หนักใจในการต่อสู้คดี เพราะมั่นใจในเจตนาของการกระทำและข้อเท็จจริง รวมถึงข้อกฎหมาย จะพยายามอธิบายให้ศาลเข้าใจและเชื่อว่าจะได้รับความเป็นธรรม รวมถึงอธิบายต่อสังคมด้วย
เมื่อถามว่า ได้เตรียมแผนอะไรหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้เตรียมอะไรรองรับ เพราะยังอยู่ในขั้นตอนการไต่สวน พร้อมย้ำว่า ตนจะพูดถึงเจตนาในการเสนอแก้กฎหมาย เพื่อเป็นการลดวิกฤตการเมือง และเป็นทางสายกลาง ที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตการเมือง 1 ทศวรรษ
"ผลคดีนี้ หากพิจารณาตามคำร้อง ไม่น่านำไปสู่การยุบพรรค แต่ตามคำร้องเข้าใจว่า สมมติว่าศาลชี้ออกมาไม่เป็นคุณ ก็ให้หยุดการนำเสนอนโยบายแก้ไข ม.112 เท่านั้น ไม่มีคำร้องที่จะนำไปสู่การยุบพรรค"
ทั้งนี้ ตนไม่กังวลว่าผลของคำวินิจฉัยคำร้องนี้ จะนำไปสู่การมีผู้ยื่นยุบพรรคอีกครั้งในภายหลังหรือไม่ ส่วนจะมีผู้ร้องต่ออีกหรือไม่ ให้เป็นเรื่องของอนาคต ย้ำว่าตนสามารถอธิบายได้ในข้อเท็จจริงของคดีนี้ ซึ่งสิ่งที่ทำไม่ใช่การล้มล้างการปกครองแต่อย่างใด
ด้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า ตนมั่นใจ เพราะยังไงคดีนี้ไปได้ไกล แค่ให้ยุติการกระทำ ส่วนเรื่องการชี้แจง หลักฐานต่างๆ ได้ยื่นเอกสารไป 2 รอบแล้วก่อนหน้านี้ ขึ้นอยู่กับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะมีประเด็นไต่สวนอะไรเพิ่มเติม ซึ่งเรายืนยันทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและเจตนาว่า การกระทำของพรรคก้าวไกลไม่ได้นำไปสู่การล้มล้างการปกครอง
เมื่อถามว่ามีแผนรองรับอะไรหรือไม่ หากศาลให้ยกเลิกนโยบายแก้ไขมาตรา 112 นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องดูในรายละเอียดคำวินิจฉัยอีกที ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการเตรียมการอะไรไว้ เตรียมแค่การอภิปรายงบประมาณที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้