svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เก็บอาการไม่อยู่ "เพื่อไทย" ขู่ถอนตัวหาก "ก้าวไกล" ยึดตำแหน่งประธานสภาฯ

"นพ.ชลน่าน" ชี้ลมปาก "ปิยบุตร" ทำบรรยากาศโหวตเลือกนายกฯไม่เป็นผลบวก หลังระบุจองตำแหน่ง "ประธานสภาฯ" ด้าน "อดิศร" จัดหนัก เพื่อไทยถอนตัวจะเดินหน้าไม่ได้

24 พฤษภาคม 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ภายหลัง นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ออกมาส่งสัญญาณถึงพรรคก้าวไกลว่า ตำแหน่งนี้ ต้องเป็นของคนพรรคก้าวไกลว่า ถือเป็นความเห็นทั่วไป ตนเองมองว่าเป็นการทำให้บรรยากาศของการทำงานร่วมกัน หรือเจรจาพูดคุยกันถึงเป้าหมายการเลือกนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมร่วมของรัฐสภานั้น ถูกกดดัน หรือปิดช่องไม่ให้มีการพูดคุยกัน ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยเป็นผลบวก

ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ควรจะเป็นของพรรคเสียงข้างมากหรือไม่ อยู่ที่การตกลงพูดคุยกัน และอยู่ที่ความเหมาะสมรวมถึงไม่ขอวิพากษ์ พรรษาทางการเมือง ของ ส.ส.พรรคก้าวไกล หากมานั่งในตำแหน่งนี้ แต่มั่นใจว่าคนที่ได้รับเลือกจากพี่น้องประชาชนมาย่อมมีความรู้ความสามารถ มีวุฒิภาวะ ส่วนจะทำงานให้สอดคล้องเหมาะสมหรือไม่ ก็อยู่ที่การปฎิบัติงานของเขา

“พรรคเพื่อไทย เราเป็นพรรคการเมืองที่มีบุคลากรที่ผ่านการทำงานทางการเมืองมาเยอะ ยืนยันว่าเรามีความพร้อม” “หัวหน้าพรรคเพื่อไทย” กล่าว

ทั้งนี้ก่อนที่จะเดินออกจากห้องสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวถามว่า “ทำไมวันนี้เดือดจัง” นพ.ชลน่าน สวนกลับมาทันทีว่า ถ้าผมต่อยได้ ผมต่อยแล้ว

ปิยบุตร โพสต์

ขณะที่ นายอดิศร เพียงเกษ อดีตโฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และว่าที่ ส.ส. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ถ้าพรรคก้าวไกลอยากได้ทุกตำแหน่ง ต้องทำให้ได้เหมือนในสมัยพรรคไทยรักไทยที่ได้  377 เสียง เกินครึ่งในสภาฯ เพราะตำแหน่งประธานสภาฯ หากวัดกันที่บุคลากรภายในพรรค เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะมีความเหมาะสมมากกว่า

ดังนั้น เมื่อพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยต่างเป็นพรรคประชาธิปไตยทั้งคู่  ก็สามารถหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้  ด้วยการใช้สภาผู้แทนราษฎรเป็นที่ชี้ขาดโหวตเลือกประธานสภาฯ โดยพรรคก้าวไกลเสนอรายชื่อของตนเองเข้าไป และเพื่อไทยก็เสนอรายชื่อด้วย จากนั้นให้ที่ประชุมโหวตว่า จะเลือกคนของพรรคเพื่อไทยหรือก้าวไกล 

วันชื่นมื่น 22 พ.ค.66 แถลงข้อตกลงร่วม

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะพรรคเพื่อไทยจะสู้เต็มที่หรือดึงดัน  แต่เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีพรรคใดได้เสียงเกินครึ่ง ดังนั้นทางออกโดยการโหวตจึงเหมาะสมที่สุด

“ตำแหน่งประธานสภาฯ เป็นตำแหน่งที่เป็นหน้าเป็นตา ไม่แพ้ฝ่ายบริหาร เมื่อฝ่ายบริหารได้คนหนุ่มไฟแรงเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว พรรคก้าวไกลก็ไม่ควรกินรวบ ควรแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ซึ่งหากพรรคก้าวไกลยังคงดึงดัง และพรรคเพื่อไทยตัดสินใจไม่ร่วมรัฐบาลด้วย ก็จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้” นายอดิศร กล่าว