15 เมษายน 2566 นายธกร เลาหพงศ์ชนะ ผู้สมัครส.ส. เขต 22 เขตสวนหลวง เขตประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน) กทม. พรรคเพื่อไทย บอกว่า นโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทย จะให้สำหรับคนที่มีอายุ 16 ปี ใช้จ่ายในรัศมี 4 กิโลเมตร แต่ในส่วนของต่างจังหวัด อาจจะมีการพิจารณาขยายรัศมีการใช้จ่ายให้มากกว่านั้น เนื่องจาก ร้านค้าอาจจะอยู่ห่างกันมาก ย้ำว่าวัตถุประสงค์หลังของนโยบายนี้ คือต้องการไปปั๊มหัวใจเศรษฐกิจ ฟื้นฟู ต่อยอดสร้างรายได้ เช่น ในหนึ่งครัวเรือนมี 5 คนที่ได้รับเงินจากนโยบายดังกล่าว ซึ่งทั้ง 5 คนนี้อาจจะรวมกันเป็นเงิน 5 หมื่นบาท เพื่อซื้ออุปกรณ์มาทำธุรกิจในครัวเรือนของตนเอง ดังนั้นถ้ามองอีกมุมหนึ่งจะสามารถสร้างอาชีพสร้างธุรกิจให้คนมีอาชีพที่ยั่งยืนได้
ด้านนายอรรฆรัตน์ นิติพน ผู้สมัคร ส.ส. เขต 21 เขตประเวศ (เฉพาะแขวงหนองบอน) เขตสะพานสูง (เฉพาะแขวงทับช้าง) กทม. พรรคเพื่อไทย บอกว่า สำหรับเงินที่จะนำมาใช้ในนโยบายนี้จำนวน 5.5 แสนล้านบาท คือเงินงบประมาณในแต่ละปีที่ต้องใช้อยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ประเทศไทยต้องการพรรคการเมืองที่คิดใหญ่ โดยพรรคเพื่อไทยต้องการจะทำให้ประเทศไทยเติบโตก้าวเข้าสู่ธุรกิจที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น เปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆที่เค้ามีการอัดฉีดเงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ พัฒนาประเทศไปสู่การเป็นดิจิทัล อย่าง สหรัฐอเมริกาใช้ 25 เปอร์เซ็นต์ของเงินงบประมาณทั้งหมด ขณะที่สิงคโปร์ที่ใช้ 18 เปอร์เซ็นต์ของเงินงบประมาณ หากเทียบกับไทย 5.5 แสนล้านบาทตรงนี้ ใช้ไปเพียง 11 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณเท่านั้น
ด้านนายธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล ผู้สมัครส.ส. เขต 33 เขตบางพลัด เขตบางกอกน้อย (ยกเว้นแขวงศิริราช)กทม. พรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า สำหรับเงิน 10,000 บาท ไม่ใช่คริปโต ไม่ใช่โทเค็น หมายความว่า ไม่สามารถโยกย้ายถ่ายเทหรือส่งต่อให้ใครไปเบิกเงินสดได้ ดังนั้นสิ่งที่เพื่อไทยมุ่งมั่นตั้งใจคือต้องการเติมเงินให้กับผู้บริโภคให้ได้มีกำลังซื้อมากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการรวมถึงจะช่วยดึงดูดนักนักลงทุนเข้ามาลงทุนในไทยได้อีกอ้วย
นายธิติวัฐ บอกอีกว่า ในระบบบล็อกเชน เราสามารถที่จะกำหนดได้หมด เช่น เงินมากจากไหน กำหนดลักษณะ ประเภทการใช้ได้ ซึ่งทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดความไม่โปร่งใสของนโยบาย เพราะทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ผ่านระบบบล็อกเชน