แต่ถ้าย้อนกลับไปยังช่วงกลางปี 65 กลุ่ม 6 ส.ส.สมุทรปราการ เด็กในคาถาบ้านใหญ่ “อัศวเหม” ได้สร้างปรากฏการณ์ โหวตสวนมติพลังประชารัฐ ไม่ไว้วางใจ “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เสนาบดีกระทรวงคลองหลอด ในศึกภิปรายไม่ไว้วางใจ จนทำให้ “บิ๊กป๊อก” มีคะแนนต่ำสุดในเหล่าบรรดารัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปราย
จนสร้างแรงกระเพื่อมภายในพรรค ขณะที่กลุ่ม 6 ส.ส.สมุทปราการ ยังได้มีการเรียกร้องให้ “ลุงป้อม” มานั่งเก้าอี้ มท.1 แทน จากนั้นไม่นาน พล.อ.ประวิตร มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการสมุทรปราการ ในวันที่ 25 ก.ค. 65 โดยมีบรรดา ส.ส.ปากน้ำ รอต้อนรับ
โดย “ลุงป้อม” ระบุช่วงหนึ่งถึง 6 ส.ส. “แม้ได้ ส.ส.มาก แต่ยังไม่ได้รัฐมนตรี ไม่ต้องห่วง ยังไงก็ต้องได้ เพราะว่าทำงานให้รัฐบาล ก็ต้องได้รับการพิจารณา หลังปรับ ครม.เมื่อไร ก็ต้องได้” ก่อนที่โควต้ารัฐมนตรี ตกเป็นของ “สุนทร ปานแสงทอง” รมช.เกษตรและสหกรณ์ฯ เป็นการสมานรอยร้าวในใจ
อย่างไรก็ตาม หากย้อนไปดูผลการเลือกตั้งปี 62 “พลังประชารัฐ” พรรคน้องใหม่ขณะนั้น สามารถแย่งเก้าอี้จากเพื่อไทย โดยคว้ามาได้ 6 เขต มีพรรคก้าวไกล หรือ “อนาคตใหม่” แทรกเข้ามา 1 ที่นั่ง ทำให้พรรคเพื่อไทยสูญพันธุ์ในพื้นที่สมุทรปราการ
ทว่า การเลือกตั้ง 66 “สมุทรปราการ” มีพื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 1 เขต รวมเป็น 8 เขต โดย “พลังประชารัฐ” เตรียมส่งกลุ่มส.ส.จากบ้านใหญ่ “อัศวเหม” ลงชนครบทุกพื้นที่ แต่ที่น่าจับตา ชนิดห้ามกระพริบ คือ เขต 7 ซึ่งแชมป์เป็นของ “ไพลิน เทียนสุวรรณ” จากพรรคพลังประชารัฐ ที่ปัจจุบันเปลี่ยนโปรย้ายข่าย ไปเข้าร่วม “พรรคลุงตู่” ในการสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า
สาเหตุที่ต้องโฟกัส เขต 7 เพราะเป็นการต่อสู้กันระหว่าง 2 ตระกูลการเมืองใหญ่ คือ “อัศวเหม” และ “เทียนสุวรรณ” โดยการเลือกตั้งปี 62 พื้นที่นี้อยู่ระหว่างเลือกว่าจะเอาใคร เพราะบ้านใหญ่ “อัศวเหม” ต้องการจะส่งลูกพี่ลูกน้อง คือ “ต่อศักดิ์ อัศวเหม” เข้ายึดพื้นที่
แต่ติดตรง “เสธ.อ้น” พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา น้องรักลุงตู่ ซึ่งเป็นเตรียมทหารรุ่น 19 มีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคกลาง ต้องการดันบ้านใหญ่ “เทียนสุวรรณ” ลงแข่งขัน เพราะถือเป็นหนึ่งตระกูลการเมืองท้องถิ่น และยังมีธุรกิจในพื้นที่
ก่อนต่อมา “เสธ.อ้น” เคลียร์ใจกับบ้าน “อัศวเหม” และจบลงด้วยการส่ง “ไพลิน เทียนสุวรรณ” ลูกสาว “สมัคร เทียนสุวรรณ” อดีต สจ.สมุทรปราการ
เมื่อ “ส.ส.ริน” ย้ายไปรวมไทยสร้างชาติ ทางพลังประชารัฐ จึงส่ง “ต่อศักดิ์ อัศวเหม” ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค เข้าลงแข่งขันเขตนี้
ดังนั้น เขต 7 จึงกลายเป็น “ศึกชนช้าง” และห้ามละสายตาในการเลือกตั้ง 66 กับสมรภูมิของ 2 ตระกูลการเมืองใหญ่ ที่เตรียมรอเวลาเปิดหีบ
ขณะที่คู่แข่ง อย่าง “เพื่อไทย” หวังพลังคนเสื้อแดงร่วมแลนด์สไลด์ทุกตารางนิ้ว ในสมุทรปราการให้กลับมาเป็นของเพื่อไทยตามเดิม