"รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล” นายกสมาคมรัฐศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Nation Online ฟันธงแบบชัดๆ "พรรคเพื่อไทย" ไม่มีทางแลนด์สไลด์ โดยอุปสรรคสำคัญไม่ใช่พรรคต่างขั้ว แต่คือ “พรรคก้าวไกล” แนวร่วมในฟากฝั่งเดียวกัน โดยอาจารย์ได้วิเคราะห์และอธิบายดังต่อไปนี้
เสรีนิยมส่วนหนึ่งปันใจ เหตุเพื่อไทยสู้ไม่สุดทาง
"รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล” ระบุ หากดูข้อมูลการเลือกตั้งปี 2562 ก็จะพบว่า “ฝั่งอนุรักษ์นิยม” กับ “ฝั่งเสรีนิยม” มีจำนวนแฟนคลับที่สูสีกัน ฉะนั้นแล้วความนิยมที่เพิ่มขึ้นในพรรคขั้วเดียวกัน จะไม่ส่งผลกระทบกับพรรคต่างขั้ว แต่จะตัดแต้มในขั้วเดียวกันเอง ซึ่งในกรณีของพรรคเพื่อไทย แน่นอนว่าจะได้คะแนนเสียงมากที่สุด แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะแลนด์สไลด์
“ผม based on ข้อมูลว่า ‘พรรคเพื่อไทย’ ไม่แลนด์สไลด์ จะแลนด์สไลด์ได้ไงในเมื่อ ‘พรรคก้าวไกล’ เขาแบ่งแต้มไปอย่างนี้ คนเพื่อไทยก็ต้องตอบผมก่อน จะแลนด์สไลด์ในเงื่อนไขไหน ในเมื่อวันนี้มีคนจำนวนหนึ่งเขารู้สึกว่า การต่อสู้ของคุณมันไม่สุดทาง เขาก็ไปเลือก ‘พรรคก้าวไกล’ แล้วคุณจะแลนด์สไลด์ยังไง
“ตัวเลขการเลือกตั้งปี 2562 ก็ยืนยัน ‘พรรคเพื่อไทย’ ก็ต้องตอบผมมาก่อนว่า ถ้าจะแลนด์สไลด์ คุณเอา ‘พรรคก้าวไกล’ ไปไว้ไหน เอาไปโยนทิ้งน้ำเหรอ ผมถึงบอกว่า ผมไม่เชื่อไง
“เราลองไปดูคะแนนการเลือกตั้งปี 2562 ก็ได้ ฝั่งประชาธิปไตย หลักๆ ก็คือ ‘พรรคเพื่อไทย’ รวมกับ ‘อนาคตใหม่ (ก้าวไกล)’ ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง ‘พลังประชารัฐ’ บวกกับ ‘ประชาธิปัตย์’ และพรรคอื่นๆ ทั้ง 2 ฝั่ง มีเสียงสนับสนุนประมาณ 15 ล้านเสียง ไม่ได้ต่างกันมากนัก
“แต่ถ้าโฟกัสเฉพาะพรรคฝ่ายค้านเดิม (ฝั่งเสรีนิยม) เราก็ต้องยอมรับความจริงว่า วันนี้มีคนรุ่นใหม่ๆ จำนวนมากที่รู้สึกว่า ‘พรรคเพื่อไทย’ ไปไม่สุด เขาก็ไม่เลือก ไม่อย่างนั้น ‘อนาคตใหม่’ เกิดได้ไง ‘พรรคก้าวไกล’ เกิดได้ไง ถ้า ‘พรรคเพื่อไทย’ จะแลนด์สไลด์
“วันนี้คำตอบของฝ่ายเสรีนิยม ไม่ได้มี ‘พรรคเพื่อไทย’ พรรคเดียว ผมถึงบอกว่า ถ้า ‘พรรคเพื่อไทย’ จะแลนด์สไลด์ ก็มีทางเดียว ก็ต้องสาปแช่งให้ ‘พรรคก้าวไกล’ ถูกยุบ ซึ่งในความเป็นจริงมันไม่ใช่แล้วไง”
บทความที่น่าสนใจ
“รวมไทยสร้างชาติ” กับจุดขาย “ขวาจัด” ปังหรือแป้ก ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ?
เพื่อไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย สูตรรัฐบาลใหม่ หลังการเลือกตั้ง ?
จุดขายของ “ก้าวไกล” คือจุดยืนที่ชัดเจน
“รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล” กล่าวว่า ในวันนี้ต้องยอมรับ “พรรคก้าวไกล” ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากจุดยืนที่ชัดเจน ในขณะที่แนวทางของ “พรรคเพื่อไทย” จะไปสอดคล้องกับ “พลังประชารัฐ” กับ “ภูมิใจไทย” ทำให้ต้องสูญเสียแนวร่วมไปจำนวนหนึ่ง
“คือจริงๆ แล้วผมไม่ได้คิดอะไรที่มันซับซ้อน เอาแค่วันนั้นขณะที่ ‘พรรคก้าวไกล’ ไปร่วมยืนหยุดขัง คือใครเห็นด้วยไม่เห็นด้วยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่จุดยืนเขาชัดเจน ขณะที่ ‘เพื่อไทย’ กลุ่มเด็กๆ เยาวชนไปถึงพรรคพรรคก็ชิ่ง ก็จะให้เข้าใจว่ายังไง
“พรรคก้าวไกล เขาเอาจุดนี้เป็นจุดขาย ในขณะที่คุณถีบหนี มันก็เห็นอยู่แล้วว่าโลกทัศน์ของคุณไม่เหมือนกับ ‘พรรคก้าวไกล’ บังเอิญว่าโลกทัศน์ของคุณมันไปสอดคล้องกับ ‘ภูมิใจไทย’ ไปสอดคล้องกับ ‘พลังประชารัฐ’ ซึ่งประนีประนอมผลประโยชน์กันได้ มันจะให้เข้าใจว่ายังไงได้ ใช่ไหมครับ
“ตอนนี้เพื่อนฝูงก็เป็นห่วง ฝ่ายประชาธิปไตยสงสัยในจุดยืนของผม จุดยืนผมไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ แต่ว่าเวลาวิเคราะห์เนี่ย ผมวิเคราะห์ในสถานการณ์ปัจจุบัน แล้วผมก็ยืนยันว่า ผมอ่านกระดานการเมืองทุกหมาก ผมเห็นความสำคัญของการเลือกตั้ง และคิดว่ามันเป็นสิ่งสำคัญและต้องมี
“ใครเรียนรัฐศาสตร์จะต้องรู้จักทฤษฎีระบบการเมือง แล้วมันจะตามมาด้วยทฤษฎีโครงสร้างและหน้าที่ ทฤษฎีนี้มันก็อธิบายอยู่แล้วว่า ระบบการเมืองมันประกอบด้วยตัวละครอะไรบ้าง มันประกอบด้วยระบบย่อยอะไรบ้าง ผมเพียงแต่เอาทฤษฎีระบบการเมืองมาอธิบายเท่านั้นเอง แล้วมันก็เป็นอย่างนั้น
“เนื่องจากผมอยู่ในสนามจริง ผมเห็นไง ถ้าผมไม่เห็นก็ว่าไปอย่าง และผมไม่ใช่แค่เห็นอย่างเดียว หลายเหตุการณ์ผมอยู่ตรงนั้นด้วย เพราะฉะนั้นผมอาจจะอินไซด์มากกว่าคนอื่น จึงทำให้สะท้อนภาพได้อีกมุมหนึ่ง”
สูตรรัฐบาล เพื่อไทย + พลังประชารัฐ + ภูมิใจไทย มีความเป็นไปได้มากกว่า เพื่อไทย + ก้าวไกล
"รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล” วิเคราะห์ว่า สูตรรัฐบาล “เพื่อไทย” + “พลังประชารัฐ” + “ภูมิใจไทย” มีความเป็นไปได้มากกว่าสูตร “เพื่อไทย” + “ก้าวไกล” ด้วยเหตุผลหลายๆ ประการ โดยหนึ่งในนั้นก็คือ การที่ “ก้าวไกล” จะกลายเป็นพรรคคู่แข่งสำคัญของ “พรรคเพื่อไทย” ในการเลือกตั้งครั้งนี้
“ผมพูดตรงๆ นะ ผมไม่ได้มีอะไรพิเศษกับ ‘ลุงป้อม’ บางคนไปเข้าใจว่าผมเชียร์ ‘ลุงป้อม’ ไม่ใช่ แต่ผมอ่านจากความเป็นจริงว่า ในสิ่งที่เราเห็นเนี่ย การผลักดันอะไรสักอย่าง โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นอเจนด้าใหญ่ๆ อเจนด้าสำคัญๆ ถ้าไม่ประสานประโยชน์กันเนี่ย มันผลักดันไม่ได้
“แล้วในภาวะที่การเมืองมันไม่ได้ชนะกันเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ถ้าวันนี้ ‘พรรคเพื่อไทย’ บอกจะจับมือกับ ‘ก้าวไกล’ ไม่ไปรวมกับ ‘พลังประชารัฐ’ มันก็จะเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่ง...
“แต่เอาเข้าจริงๆ ‘พรรคเพื่อไทย’ ก็รู้ว่าตัวเองก็เกลียด ‘พรรคก้าวไกล’ มากๆ ผมใช้คำนี้เลย ผมไม่เกรงใจ ผมไม่กังวล วันนี้พรรคการเมืองที่ ‘พรรคเพื่อไทย’ เกลียดที่สุด คือ ‘พรรคก้าวไกล’ พรรคนี้ไม่ควรเกิดมา อันนี้ในมุมของ ‘พรรคเพื่อไทย’ แฟนคลับเพื่อไทยอาจจะเซ็งผม ก็ต้องกราบขออภัย ก็ 'ก้าวไกล' เกิดมาเพื่อตัดแต้ม ‘เพื่อไทย’ ใครจะไปชอบล่ะ”
การเลือกตั้ง 2566 จุดเปลี่ยนประเทศไทย ?
หลังจาก Nation Online ได้ฟังการวิเคราะห์เชิงลึกจาก “รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล” ก็ก่อให้เกิดข้อสงสัยว่า ในการเลือกตั้งที่กำลังจะถึงนี้ จะทำให้เกิดจุดเปลี่ยน เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือเอาเข้าจริงๆ ทุกอย่างก็อาจยังคงเหมือนเดิม ซึ่งอาจารย์ธนพรได้แสดงความคิดเห็นที่น่าสนใจไว้ดังต่อไปนี้
“การเลือกตั้งที่สม่ำเสมอเนี่ย มันจะทำให้ระบอบประชาธิปไตยแข็งแรง จุดยืนผมไม่สนับสนุนการรัฐประหาร ผมคัดค้าน และผมก็ไม่เห็นด้วย
“แต่วิธีการแก้รัฐประหารที่ดีที่สุด คือการเลือกตั้ง ที่สำคัญเราอย่าไปกลัว เราอย่าไปกลัวว่า ‘ลุงป้อม’ จะจับมือกับ ‘ภูมิใจไทย’ จะจับมือกับ ‘เพื่อไทย’ ถ้าจับมือกันสูตรนี้ได้ อีก 4 ปีคุณก็เปลี่ยนมันได้ อีก 4 ปี หากคุณคิดว่าสูตรนี้มันเฮงซวย คุณก็เปลี่ยนสูตรได้ด้วยตัวคุณเอง (ด้วยการเลือกตั้ง)
“การที่ 3 พรรคนี้จะจับมือกันเป็นรัฐบาล โอเคมันอาจจะไม่ถูกใจคุณน่ะ แต่คุณเปลี่ยนมันได้ไหมล่ะ ทุก 4 ปีคุณเปลี่ยนมันได้ เพราะฉะนั้นวันข้างหน้าคุณอาจได้เห็น ‘พรรคเพื่อไทย’ จับมือกับ ‘พรรคก้าวไกล’ ก็เป็นไปได้
“รัฐบาลที่หลายคนอยากเห็น ‘พรรคก้าวไกล’ กับ ‘พรรคเพื่อไทย’ และพรรคฝ่ายประชาธิปไตยรวมตัวกัน มันอาจจะเกิดขึ้นจริงก็ได้ แต่ในมุมของผมจะยังไม่ใช่ในปี 2566 ถ้าคิดว่าลุงตู่จะอยู่อีก 2 ปี เป็นปี 2568 หรือตัดลุงตู่ทิ้งไปเลย มันอาจจะเป็นปี 2570 ก็ไม่เป็นไรนี่ แต่การเลือกตั้งที่เป็นประจำสม่ำเสมอ มันก็จะสะท้อนความต้องการที่แท้จริงของพี่น้องประชาชนในแต่ละช่วงเวลาได้เป็นอย่างดี
“ยังไงผมก็มองว่าการเลือกตั้งเป็นวิธีการที่ดีที่สุด เท่าที่มนุษยชาติคิดได้ในตอนนี้ คือตราบใดที่เราไม่สามารถเอาคน 66 ล้านคนมานั่งประชุมพร้อมกันผ่านคอมพิวเตอร์แล้วมาโหวต นับองค์ประชุมกันทีละ 66 ล้าน ผมก็ยังไม่เห็นวิธีการอื่น ที่ดีกว่าการเลือกตั้ง”