สรุปผลพรีเมียร์ลีก "ลิเวอร์พูล" พ่าย, "แมนยู" แบ่งแต้ม "แมนซิตี้"

ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทำแต้มทิ้งห่าง อาร์เซนอล ไปอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อเป็นฝ่ายแพ้ต่อ ฟูแล่ม 2-3 ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เกมนี้แม้ ลิเวอร์พูล จะนำก่อนจากอเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ แต่ฟูแล่มรัว 3 ประตูรวดในครึ่งแรกจากไรอัน เซสเซญง, อเล็กซ์ อิโวบี้ และโรดรีโก้ มูนิซ จากนั้นแม้ "หงส์แดง" จะได้ประตูตีตื้นจากหลุยส์ ดิอาซในครึ่งหลัง แต่ก็ไล่ไม่ทัน

เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กัปตันหงส์แดงกล่าวหลังเกมว่า “เราเสียประตูง่ายเกินไปในครึ่งแรก ทำให้สถานการณ์ลำบากมาก แม้พยายามเต็มที่ในครึ่งหลังแล้วก็ตาม”

หงส์แดงเสียสถิติ

ผลจากเกมนี้ ทำให้ ลิเวอร์พูล พ่ายเป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกตั้งแต่เดือนกันยายน และหยุดสถิติไร้พ่ายในลีกไว้ที่ 26 นัด พร้อมกับเป็นความพ่ายแพ้นอกบ้านครั้งแรกในฤดูกาลนี้ และยังถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งที่ 3 จาก 4 นัดหลังสุดในทุกรายการของลิเวอร์พูลอีกด้วย

แม้จะแพ้ แต่ลิเวอร์พูลยังคงนำอาร์เซน่อลอยู่ 11 คะแนน เนื่องจาก “ปืนใหญ่” เสมอกับเอฟเวอร์ตัน 1-1 ในวันเสาร์

เมื่อถูกถามว่าการมีคะแนนนำห่างทำให้นักเตะเริ่มประมาทหรือไม่ อาร์เน่อ สล็อต ตอบว่า “ผมคิดว่าไม่มีเหตุผลที่เราจะประมาทเลย”

“เราไม่ได้ชนะทุกเกมด้วยผลต่าง 3 หรือ 4 ประตู ทุกคนที่ดูเกมของเราก็เห็นว่าเราต้องทุ่มเทอย่างหนักแค่ไหนกว่าจะชนะได้ในแต่ละเกม ซึ่งแน่นอนต้องรวมถึงคุณภาพของทีมด้วย”

“โดยปกติเราไม่ค่อยทำผิดพลาดแบบนี้ โดยเฉพาะถึง 3 ครั้งในเกมเดียว ครึ่งหลังเราดีขึ้นเยอะ แต่การจะชนะในระดับนี้มันยากมาก ถ้าคุณเสียถึง 3 ประตูแบบนั้น”

"แมนเชสเตอร์ดาร์บี้" เจ๊าจืด

ด้านเกมใหญ่ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดระหว่างแมนฯ ยูไนเต็ดกับแมนฯ ซิตี้ กลับจบลงแบบไร้สกอร์และไร้สีสัน แกรี่ เนวิลล์ อดีตกัปตันปีศาจแดงให้ความเห็นว่า “มันควรเป็นเกมที่มีความดุดัน กล้าได้กล้าเสีย และเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นกว่านี้”

ทั้งสองทีมมีโอกาสทำประตูน้อยมาก ซิตี้ยังรั้งอันดับ 5 และลุ้นพื้นที่แชมเปียนส์ลีกอย่างหนัก โดยมีแอสตัน วิลล่า, นิวคาสเซิล และเลสเตอร์ไล่ตามมาติด ๆ ขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ดดูจะฝากความหวังไว้กับการคว้าแชมป์ยูโรป้าลีกเพื่อไปเล่นถ้วยใหญ่ยุโรปปีหน้า

นอกสนามร้อนแรงกว่าในสนาม

หลังจบเกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ออกโรงประณามแฟนบอลที่ตะโกนด่าทอครอบครัวของฟิล โฟเด้นระหว่างเกมว่า “เป็นการกระทำที่ไร้คลาส ไร้เกียรติอย่างแท้จริง”

ด้านแฟนบอลยูไนเต็ดรวมตัวประท้วงเจ้าของทีมตระกูลเกลเซอร์อีกครั้งหลังจบเกม แต่ครั้งนี้ดูเบาบางกว่าครั้งก่อน

เซาแธมป์ตันตกชั้นเป็นทางการ

หลังแพ้สเปอร์ส 1-3 และมีเพียง 10 แต้มจาก 31 เกม เซาแธมป์ตันกลายเป็นทีมแรกที่ตกชั้นอย่างเป็นทางการ และเป็นหนึ่งในทีมที่ตกชั้นเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่ปี 1992

อีวาน ยูริช ผู้จัดการทีมกล่าวว่า “นี่คือบทเรียนครั้งใหญ่สำหรับทุกฝ่าย ทั้งตัวผม นักเตะ และสโมสร ต้องกลับไปทบทวนว่าพลาดตรงไหน”

เกมนี้ เบรนแนน จอห์นสัน ยิงสองประตูในครึ่งแรกให้สเปอร์สนำลิ่ว แม้มาติอัส แฟร์นันเดสจะยิงตีตื้น แต่ก็มาโดน มาธีส แตล ยิงจุดโทษปิดกล่องในช่วงทดเจ็บ

ส่วนเชลซี ยังคงรั้งอันดับ 4 หลังเสมอแบบไร้สกอร์กับเบรนท์ฟอร์ด

สรุปตารางคะแนนฟุตบอลพรีเมียร์ลีก