แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงมีโอกาสจบฤดูกาลที่น่าผิดหวังด้วยถ้วยรางวัล หลังจากพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะ บอร์นมัธ 2-1 ในศึก เอฟเอคัพ รอบก่อนรองชนะเลิศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดย เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ เป็นแรงบันดาลใจในการคัมแบ็ก ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกเนื่องจากอาการบาดเจ็บ
ฮาลันด์ ซึ่งพลาดจุดโทษในครึ่งแรก ยิงประตูตีเสมอในนาทีที่ 49 แต่ต้องออกจากสนามในอีก 12 นาทีต่อมา หลังได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าซ้าย แม้พยายามฝืนเล่นต่อก็ตาม
โอมาร์ มาร์มูช ซึ่งลงมาแทน ฮาลันด์ ใช้เวลาเพียงสองนาทีในการทำประตูชัย ส่งให้ ซิตี้ เข้ารอบรองชนะเลิศเป็นฤดูกาลที่ 7 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ของสโมสร
แม้ แมนฯ ซิตี้ จะตกรอบจากยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก และมีผลงานย่ำแย่ในพรีเมียร์ลีก โดยรั้งอันดับ 5 ตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูงถึง 22 แต้ม แต่พวกเขายังสามารถกอบกู้ฤดูกาลนี้ได้ด้วยการลุ้นแชมป์เอฟเอคัพ สมัยที่ 8 และเป็นสมัยที่ 3 ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ฮาแลนด์ เป็นศูนย์กลางของเกมที่สนามไวทาลิตี้ สเตเดียม โดยมีทั้งช่วงเวลาน่าผิดหวังและน่าจดจำ
เขาพลาดโอกาสขึ้นนำให้ ซิตี้ ตั้งแต่นาทีที่ 14 เมื่อยิงจุดโทษไปติดเซฟของ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า นายทวารบอร์นมัธ จากนั้นอีกสองนาทีต่อมา เขาได้รับโอกาสทองอีกครั้ง แต่กลับยิงข้ามคาน
อย่างไรก็ตาม หัวหอกชาวนอร์เวย์ก็กลับมาแก้ตัวได้สำเร็จในนาทีที่ 49 ด้วยการเข้าชาร์จลูกครอสของ นิโก้ โอไรลี่ย์ ตัวสำรองของทีม แต่แล้วเกมของเขาก็ต้องจบลงก่อนเวลา เมื่อโดน ลูอิส คุก แบ็กขวาของบอร์นมัธ เข้าปะทะจนข้อเท้าบิดในนาทีที่ 56
ฮาลันด์ พยายามฝืนเล่นต่อหลังรับการปฐมพยาบาล แต่สุดท้ายต้องยอมแพ้และถูกเปลี่ยนตัวออก ซึ่ง กวาร์ดิโอล่า ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “ผมยังไม่รู้ว่าอาการหนักแค่ไหน ต้องรอตรวจสอบอีกที”
มาร์มูช สร้างผลกระทบทันที โดย โอไรลี่ย์ เป็นผู้จ่ายบอลให้หลังจากที่ อองตวน เซเมนโย่ ของบอร์นมัธ ลื่นล้ม และ มาร์มูช ก็ยิงลอดตัว อาร์ริซาบาลาก้า เข้าไปเป็นประตูชัย
มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำสองประตูแรกให้ แอสตัน วิลล่า ช่วยพาทีมเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เอฟเอคัพ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2015
แรชฟอร์ด ฟื้นคืนฟอร์มอีกครั้งหลังย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเล่นให้ วิลล่า แบบยืมตัวเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ และล่าสุดยังถูกเรียกกลับไปติดทีมชาติอังกฤษ ลงเล่นในศึกคัดเลือกฟุตบอลโลกกับ แอลเบเนีย และ ลัตเวีย
กองหน้าวัย 26 ปี ทำประตูแรกในนาทีที่ 58 ด้วยการเข้าชาร์จลูกครอสของ ลูก้าส์ ดีญ จากนั้นในนาทีที่ 63 เขายิงจุดโทษให้ทีมขึ้นนำ 2-0 หลังจาก มอร์แกน โรเจอร์ส ถูกทำฟาวล์ และปิดท้ายด้วยประตูของ เจค็อบ แรมซีย์ ในนาทีที่ 71
“มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม” แรชฟอร์ด กล่าวหลังเกม “ผมรู้สึกว่าตัวเองกลับมาฟิตขึ้นและเล่นฟุตบอลได้ดีขึ้นตั้งแต่มาอยู่ที่นี่”
“ก่อนหน้านี้ผมพลาดโอกาสลงเล่นไปเยอะ แต่ตอนนี้ร่างกายของผมรู้สึกดี และผมกำลังสนุกกับฟุตบอลของตัวเอง”
แอสตัน วิลล่า ไม่ได้แชมป์รายการใดเลยนับตั้งแต่คว้าแชมป์ลีกคัพในปี 1996 และแม้จะเคยคว้าแชมป์ เอฟเอคัพ ถึง 7 สมัย แต่ครั้งล่าสุดต้องย้อนกลับไปถึงปี 1957 โดยในรอบชิงชนะเลิศปี 2015 พวกเขาพ่ายให้กับ อาร์เซนอล 0-4
ด้าน เปรสตัน ทีมเดียวจากนอกพรีเมียร์ลีกที่เข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ได้ลงเล่นในรอบนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1965-66
...
สำหรับการประกบคู่ในรอบรองชนะเลิศ แมนฯ ซิตี้ จะพบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่สนามเวมบลีย์ในเดือนหน้า ขณะที่ แอสตัน วิลล่า ซึ่งเอาชนะ เปรสตัน ทีมจากแชมเปียนชิพ 3-0 จะพบกับ คริสตัล พาเลซ
จากทั้งสี่ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ มีเพียง แมนฯ ซิตี้ เท่านั้นที่เคยคว้าแชมป์ในศตวรรษนี้