แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินหน้าสานต่อภารกิจลุ้นแชมป์ยูโรปาลีก โดยพวกเขาจะบุกไปเยือน เรอัล โซเซียดาด ที่สนามเรอาเล อารีน่า ในเลกแรกของรอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนวันพฤหัสบดีนี้
“ปีศาจแดง” จบอันดับสามในรอบแบ่งกลุ่มแบบใหม่ที่มี 36 ทีม ส่วน เรอัล โซเซียดาด จบที่อันดับ 13 และต้องผ่านรอบเพลย์ออฟด้วยชัยชนะรวม 7-3 เหนือ เอฟซี มิดทิลแลนด์ เพื่อเข้าสู่รอบน็อกเอาต์
สัปดาห์สำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม เริ่มต้นได้อย่างน่าผิดหวัง เมื่อพวกเขาตกรอบ 5 เอฟเอ คัพ หลังพ่าย ฟูแล่ม ในการดวลจุดโทษ 4-3 หลังเสมอ 1-1 ใน 120 นาทีที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ยูไนเต็ด การันตีว่าจะปิดฉากฤดูกาลในประเทศแบบไร้แชมป์ และด้วยการรั้งอันดับ 14 ของพรีเมียร์ลีก ห่างจากท็อป 5 ถึง 13 แต้ม กับอีก 11 นัดที่เหลือ ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องคว้าแชมป์ยูโรปาลีก เพื่อคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้าและกอบกู้ศักดิ์ศรีจากฤดูกาลที่น่าผิดหวัง
แม้ผลงานในลีกจะลุ่ม ๆ ดอน ๆ แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมเดียวที่ยังไม่แพ้ใครในยูโรปาลีกฤดูกาลนี้ หลังเสมอ 3 นัดแรกก่อนชนะรวด 5 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม ยิงไป 16 ประตู มากเป็นอันดับ 4 ของทัวร์นาเมนต์
ยูไนเต็ด มีสถิติที่ดีเมื่อเล่นเกมเยือนในสเปน โดยแพ้แค่ครั้งเดียวจาก 8 เกมหลังสุด (ชนะ 5 เสมอ 2) แต่ความพ่ายแพ้นั้นเกิดขึ้นในเกมล่าสุดที่พวกเขาบุกแพ้ เซบีย่า 0-3 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ยูโรปาลีก ฤดูกาล 2022-23
ทางฝั่ง เรอัล โซเซียดาด กำลังเผชิญโปรแกรมโหด หลังพ่ายต่อ เรอัล มาดริด 0-1 ในโกปา เดล เรย์ ก่อนถูก บาร์เซโลน่า ถล่ม 4-0 ในลาลีกาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
อาริตซ์ เอลุสตอนโด้ ถูกใบแดงไล่ออกในนาทีที่ 17 ทำให้ทีมเสียสมดุล และเปิดช่องให้ บาร์ซ่า ยิง 2 ลูกใน 12 นาทีถัดมา ก่อนบวกเพิ่มอีก 2 ลูกในครึ่งหลัง ส่งผลให้ โซเซียดาด แพ้เป็นเกมที่ 12 ของฤดูกาลในลีก และเป็นความพ่ายแพ้นัดที่ 5 จาก 8 เกมลีกในปี 2025
อิมาโนล อัลกวาซิล อาจต้องพึ่งพาผลงานในยูโรปาลีกเพื่อคว้าตั๋วแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาลหน้า เนื่องจากพวกเขารั้งอันดับ 9 ในลาลีกา ห่างจากท็อปโฟร์ 12 แต้ม และจากอันดับ 5 ซึ่งเป็นโควตายูโรปาลีก 10 แต้ม
โซเซียดาด ไม่เคยผ่านรอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลยุโรปช่วงศตวรรษที่ 21 และชัยชนะในเลกแรกอาจเป็นกุญแจสำคัญ เพราะพวกเขาผ่านเข้ารอบถึง 8 จาก 10 ครั้งหลังสุดเมื่อชนะเลกแรก อย่างไรก็ตาม โซเซียดาด ไม่เคยชนะทีมจากอังกฤษในบ้าน (เสมอ 1 แพ้ 3) และไม่สามารถทำประตูใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ใน 3 เกมเหย้าหลังสุดที่พบกัน
จะไม่มี จอน ปาเชโก้ (กล้ามเนื้อ) และ อาร์เซน ซาคาร์ยาน (ต้นขา) ขณะที่ อัลบาโร โอดริโอโซลา (อาการไม่ระบุ) ยังต้องเช็คความฟิต แต่ได้ตัว เชรัลโด้ เบ็คเกอร์ และ ทาเคฟุสะ คุโบะ กลับมาจากโทษแบน
มาร์ติน ซูบีเมนดี้ และ จอน อารัมบูรู พ้นโทษแบนจากเกมรอบ 32 ทีม และน่าจะได้ออกสตาร์ทในแดนกลางและแบ็กขวาตามลำดับ อัลกวาซิล ต้องตัดสินใจว่า จะส่ง มิเกล โอยาร์ซาบัล ดาวยิงสูงสุดของทีมที่ยิงไป 9 ลูก หรือเลือกใช้ ออร์รี ออสการ์สสัน ที่ยิง 4 ลูกในยูโรปาลีกเป็นตัวจริง
จะไม่มี ลิซานโดร มาร์ติเนซ (เข่า), อาหมัด ดิยัลโล (ข้อเท้า), ค็อบบี้ เมนู (น่อง), ลุค ชอว์ (แฮมสตริง), เมสัน เมาท์, อัลตาย บายินเดียร์ (ไม่ระบุ), จอนนี่ อีแวนส์ (กล้ามเนื้อ) และ โทบี้ คอลลีเยอร์ (ไม่ระบุ) ที่บาดเจ็บ
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (เจ็บเล็กน้อย) และ ทอม ฮีตัน (ไม่ระบุ) ต้องรอเช็คฟิต ถ้า แม็กไกวร์ ลงไม่ได้ วิคตอร์ ลินเดเลิฟ อาจได้ออกสตาร์ทคู่กับ มัตไธจ์ส เดอ ลิกต์ และ เลนี โยโร หรือ นุสแซร์ มาซราวี อาจถูกขยับจากวิงแบ็กมาเล่นกองหลังตัวกลาง
แพทริค ดอร์กู ที่ติดโทษแบนในลีกพร้อมลงเล่นเกมยุโรป ส่วน ชิโด โอบี-มาร์ติน ดาวรุ่งวัย 17 ปี ไม่สามารถลงเล่นเพราะไม่ได้ลงทะเบียนในรายชื่อทีมสำหรับยูโรปาลีก