ชื่อของ "แดน แอชเวิร์ธ" ได้รับการยกย่องอย่างสูงมานานในวงการลูกหนังอังกฤษ หลายคนยกให้เขาคือผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอลที่ดีที่สุดเท่าที่อังกฤษเคยมีมา โดยผลงานที่เด่นที่สุดก็คือการเปลี่ยนแปลงทีมเล็กๆอย่าง ไบรท์ตัน ให้กลายเป็นสโมสรฟุตบอลต้นแบบที่มีการวางระบบโครงสร้าง ไปจนถึงแนวทางและนโยบายการทำทีมที่ยอดเยี่ยม ที่ส่งผลมาถึงปัจจุบัน
จากผลงานอันโดดเด่นดังกล่าว ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องใช้เวลาถึง 5 เดือนในการพยายามดึงตัว แอชเวิร์ธ เข้ามาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬา และต้องยอมจ่ายเงินชดเชยให้ นิวคาสเซิ่ล (ต้นสังกัดในเวลานั้น) ด้วยจำนวนหลายล้านปอนด์ ซึ่งแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนสำหรับบุคคล "หลังฉาก" อย่างเขา
อย่างไรก็ตามหลังร่วมงานกับ "ปีศาจแดง" ได้แค่ 5 เดือน ทั้งสองฝ่ายได้ประกาศแยกทางกันเป็นที่เรียบร้อย ท่ามกลางความตกตะลึงของสาวก เร้ด เดวิลส์ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลังบ้านของทีมรักของตัวเองกันแน่
ลอรี่ วิทเวลล์ และ อดัม คราฟตัน ผู้สื่อข่าวจาก ดิ แอธเลติก สื่อกีฬาชื่อดัง เปิดเผยว่า ในเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา แดน แอชเวิร์ธ เข้าร่วมชมการแข่งขันของทีมชุดอายุไม่เกิน 21 ปี ที่เจอกับสปาร์ตา ปราก ที่สนามแคร์ริงตัน จากนั้นก็เดินทางไปชมเกมของทีมชุดใหญ่ที่พบกับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ โดยอยู่บนที่นั่งของบอร์ดบริหารที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ทุกอย่างดูเหมือนเป็นการทำงานตามปกติ
แต่หลังเสียงนกหวีดหมดเวลาเพียง 20 นาที แอชเวิร์ธ ออกจากเลานจ์ของผู้บริหารผ่านห้องแถลงข่าว โดยมี คอลเล็ต โรช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการร่วมเดินไปยังสำนักงานของ โอมาร์ แบร์ราด้า ซีอีโอของสโมสร ก่อนจะได้รับแจ้งว่า ช่วงเวลาสั้น ๆ ของเขากับยูไนเต็ดกำลังจะสิ้นสุดลง
การออกจากตำแหน่งของ แดน แอชเวิร์ธ เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของผู้นำระดับสูงในสโมสร ซึ่งรวมถึง เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์, โอมาร์ แอบร์ราด้า, เซอร์ เดฟ เบรลส์ฟอร์ด และ โจเอล เกลเซอร์ แม้สโมสรจะยืนยันว่านี่เป็นการตัดสินใจร่วมกัน แต่จากแหล่งข่าววงใน บอกว่าความสัมพันธ์ระหว่าง แอชเวิร์ธ และ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ เริ่มตึงเครียดกันมาระยะหนึ่งแล้ว
"เซอร์จิม" ไม่พอใจในแนวทางการคัดเลือกผู้จัดการทีมคนใหม่ของ แอชเวิร์ธ ซึ่งเสนอชื่อผู้ที่มีประสบการณ์ในพรีเมียร์ลีก เช่น เอ็ดดี้ ฮาว, มาร์โก ซิลวา และ โธมัส แฟรงค์ ซึ่ง เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ มองว่า แอชเวิร์ธ ควรจะมีวิสัยทัศน์ที่กว้างกว่านี้ควรจะเสนอชื่อกุนซือที่มีชื่อเสียง และมีความสามารถในการบริหารสโมสรระดับโลก
แอชเวิร์ธ ยังถูกวิจารณ์จาก เซอร์จิม ว่าขาดความเด็ดขาดในการตัดสินใจ และการที่เขาเลือกที่จะใช้บริการบริษัทด้านข้อมูลเพื่อช่วยคัดเลือกผู้จัดการทีม ก็ทำให้ เซอร์จิม ตั้งคำถามเกี่ยวกับความสามารถในตัว แอชเวิร์ธ และระบบภายในของสโมสร เนื่องจากเซอร์จิมมองว่านี่คืองานของแอชเวิร์ธโดยตรง ไม่ใช่งานที่ต้องไปจ้างบริษัทภายนอกแต่อย่างใด
ในขณะเดียวกัน การที่ แอชเวิร์ธ ขาดการเข้าร่วมการประชุมสำคัญ รวมถึงการลาพักผ่อนในช่วงเวลาที่ผู้จัดการทีมคนใหม่อย่าง รูเบน อโมริม เพิ่งเริ่มงาน ก็ถูกมองว่าไม่เหมาะสม แม้ว่า แอชเวิร์ธ จะมีเหตุผลส่วนตัวในการลานั้นก็ตาม
การปลด แดน แอชเวิร์ธ หลังการใช้จ่ายประมาณ 200 ล้านปอนด์ในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ และการเพิ่มราคาตั๋วเข้าชม ล้วนเป็นสิ่งที่สร้างความกังวลในหมู่แฟนบอลและพนักงานในสโมสร ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับตำแหน่งของผู้อำนวยการกีฬาในอนาคต ยังคงเป็นคำถามที่รอคำตอบ
แม้จะมีคำวิจารณ์เกี่ยวกับการบริหารของ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่เขานำเข้ามามีเป้าหมายที่จะยกระดับสโมสร อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้อาจต้องแลกมาด้วยความไม่พอใจและความกังวลจากบุคลากรในองค์กร
เรื่องราวการจากไปของ แดน แอชเวิร์ธ เป็นตัวอย่างที่สะท้อนถึงความซับซ้อนของการบริหารทีมฟุตบอลในระดับสูง ที่ทั้งแรงกดดันและความคาดหวังสามารถส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจในระดับผู้นำได้อย่างชัดเจน