กรณีเกิดเหตุมีกลุ่ม 6 โจ๋ ใช้อาวุธมีดแทง นายรัฐภูมิ หรือภูมิ อายุ 19 ปี ศิษย์เก่าช่างกล ย่านเพชรเกษม จนเสียชีวิตบริเวณใกล้เคียงปากซอยเพชรเกษม 55/2 แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร ซึ่งทางพ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรนิติเวชฯ ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและสายตรวจสน.เพชรเกษม จำนวนหนึ่งและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อเวลา 02.45 น. วันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมาเที่ยงวันเดียวกัน พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม ได้เรียกประชุมฝ่ายสืบสวน สน.เพชรเกษม และได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุมาตรวจสอบ และไล่เส้นทางหนีคนร้ายจนกระทั่งตามจับกุมผู้ต้องได้ยกแก๊งคือ 1.นายชัยวัฒน์ หรือมาร์ค อายุ 20 ปี 2.นายสุรชัย หรือบีม อายุ 21 ปี 3.นายปุญญพัฒน์ หรือเต้ อายุ 19 ปี และ4.นายประสิทธิ์ หรือสิงห์ อายุ 19 ปี มือมีดที่เป็นคนลงมือ พร้อมแจ้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา"
9 ธันวาคม 2567 ล่าสุดตำรวจ สน.เพชรเกษม นำตัว ผู้ต้องหาทั้ง 4 คนควบคุมตัวไปฝากขังศาล ได้มีการนำผู้ต้องหาไปชี้รถและจำลองสถานการณ์ก่อนและหลังเกิดเหตุ เพื่อประกอบสำนวนในคดี
ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้มีการสอบถาม นายประสิทธิ์ หรือ นายสิงห์ มือมีด พูดด้วยน้ำเสียงสั่นคลอ พร้อมมีน้ำตาคาเบ้า ว่า อยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมทั้งครอบครัวของตน ตอนนี้ตนรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำไปแล้ว พร้อมทั้งสัญญาว่าหลังจากนี้จะกลับตัวกลับใจเป็นคนดี
นอกจากนี้ทีมข่าวยังมีโอกาสได้พูดคุยกับ พ่อของนายสุรชัย หรือนายบีม เปิดใจว่า โดยปกติแล้วลูกชายของตนและกลุ่มเพื่อนไม่เคยไปหาเรื่องใครมาก่อน ส่วนในวันที่เกิดเหตุ ลูกชายของตนก็นอนหลับไปแล้ว แต่เพื่อนมาเรียก จึงตามออกกันไป ส่วนวันนี้ที่มาเยี่ยมนั้น ลูกชายก็มีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด แต่ตนยืนยันว่าจะไม่ยื่นประกันตัว เพราะอยากให้ลูกรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป
ขณะที่ พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดี เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" และ "พกพาอาวุธมีดไปในเมืองหรือที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร" ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาโดยจากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มเพื่อนของตนถูกทำร้ายร่างกายมาก่อน จึงมีการจะตามไปเอาคืน เมื่อพบกลุ่มผู้เสียชีวิตจึงคาดว่าน่าจะเป็นผู้ที่ทำร้ายร่างกายเพื่อน จึงพยายามเข้าไปตรวจสอบ พอไม่ใช่ก็จะกำลังจะกลับ
แต่กลุ่มผู้เสียชีวิตได้มีการยั่วยุจนทำให้มีการทะเลาะวิวาท ยังยืนยันอีกว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุมีเพียงแค่ 4 คนเท่านั้น ไม่ได้มีกันเกือบ 6 หรือ 10 คนตามที่สื่อนำเสนอไปก่อนหน้านี้