svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

ถ่ายทอดสด "ลิเวอร์พูล vs แมนยู" ศึกแดงเดือด 23.30 น. เช็กสถิติ-ความพร้อม-ช่องชมสด

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกในศึก "แดงเดือด" คืนนี้ 23.30 น. "ลิเวอร์พูล" เปิดรังปะทะ "แมนยู" ในเกมที่ 3 แต้มสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทั้งคู่ เช็กสถิติ ความพร้อมล่าสุด และช่องทางชมการถ่ายทอดสดได้ที่นี่

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกประจำวันอาทิตย์ที่ 5 มี.ค. คู่เอกอยู่ที่ศึก "วันแดงเดือด" โดย "ลิเวอร์พูล" จะเปิดสนาม แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ในเวลา 23.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง True Premier Football 1

สถิติการพบกัน 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม

  • 23/08/22 แมนฯยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1
  • 12/07/22 แมนฯยูไนเต็ด ชนะ ลิเวอร์พูล 4-0 / (กลาง) กระชับมิตร
  • 20/04/22 ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯยูไนเต็ด 4-0
  • 24/10/21 แมนฯยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 0-5
  • 14/05/21 แมนฯยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 2-4


สถิติ 5 นัดหลังสุดของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล

  • 02/03/23 ชนะ วูล์ฟส์ 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
  • 26/02/23 เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
  • 22/02/23 แพ้ เรอัล มาดริด 2-5 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
  • 19/02/23 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
  • 14/02/23 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

แมนฯยูไนเต็ด

  • 02/03/23 ชนะ เวสต์แฮม 3-1 (เหย้า) เอฟเอ คัพ
  • 27/02/23 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-0 (กลาง) ลีก คัพ
  • 24/02/23 ชนะ บาร์เซโลน่า 2-1 (เหย้า) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก
  • 19/02/23 ชนะ เลสเตอร์ 3-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
  • 17/02/23 เสมอ บาร์เซโลน่า 2-2 (เยือน) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก

ถ่ายทอดสด \"ลิเวอร์พูล vs แมนยู\" ศึกแดงเดือด 23.30 น. เช็กสถิติ-ความพร้อม-ช่องชมสด สภาพความพร้อมล่าสุด
ลิเวอร์พูล

"หงส์แดง" ของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งเปิดบ้านเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-0 ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้มี 39 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 24 เกมในฤดูกาลนี้ และต้องการเก็บชัยชนะนัดนี้ให้ได้เพื่อต่อความหวังในการลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ต่อไป

ส่วนความพร้อมในเกมนี้ ยังไม่สามารถใช้งาน โจ โกเมซ, ติอาโก้ อัลคันตาร่า, คาลวิน แรมซี่ย์ และ หลุยส์ ดิอาซ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน รวมทั้งยังต้องเช็กความฟิตของ อาร์ตูร์ เมโล่ และ นาบี เกอิต้า ที่ยังเจ็บอยู่เล็กน้อยอีกด้วย

แมนฯ ยูไนเต็ด
"ปีศาจแดง" ของกุนซือ เอริค เทน ฮาก ชนะมา 4 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการหลังเปิดบ้านคว้าชัยเหนือ เวสต์แฮม 3-1 ในเกม เอฟเอ คัพ  รอบ 5 ส่วนเกมลีกนัดล่าสุดถล่ม เลสเตอร์ 3-0 ทำให้มี 49 แต้มจากการลงสนามไปแล้ว 24 เกม และต้องการบุกมาคว้า 3 แต้มให้ได้เช่นกันเพื่อต่อความหวังในการลุ้น 4 แชมป์ของฤดูกาลนี้

สำหรับสภาพทีมในเกมนี้ ยังคงไม่มี ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค, คริสเตียน เอริคเซ่น และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ที่เจ็บยาว นอกจากนี้ยังต้องเช็กความฟิตของ เจดอน ซานโช่ ที่มีอาการป่วยจนพลาดการลงสนามในเกมล่าสุด แต่มีข่าวดีคือน่าจะได้ตัว ลุค ชอว์ ที่หายเจ็บกลับคืนสู่ทีมอีกครั้ง 
ถ่ายทอดสด \"ลิเวอร์พูล vs แมนยู\" ศึกแดงเดือด 23.30 น. เช็กสถิติ-ความพร้อม-ช่องชมสด

นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม 

  • ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โกนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, สเตฟาน บายเซติช - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี้ กัคโป, ดาร์วิน นูนเญซ
  • แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - อารอน วาน-บิสซาก้า, ราฟาแอล วาราน, ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ลุค ชอว์ - คาเซมีโร่, เฟร็ด - อันโตนี่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด - เวาท์ เว็กฮอร์สท์

ถ่ายทอดสด \"ลิเวอร์พูล vs แมนยู\" ศึกแดงเดือด 23.30 น. เช็กสถิติ-ความพร้อม-ช่องชมสด