21 เมษายน 2568 เจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้ารื้อซากปรักหักพัง อาคาร สตง.ถล่ม จากเหตุแผ่นดินไหว โดยใช้เครื่องจักร รถแบคโฮ อย่างต่อเนื่อง ทั้ง 4 โซน โดยเฉพาะการลดระดับความสูง และลดความกว้างของกองซากอาคารที่ถล่มลงมา โดยเฉพาะในพื้นที่ โซน BและC ที่เป็นปล่องลิฟท์ ทางหนีไฟ ที่ต้องเร่งลดระดับความสูง เพื่อเปิดพื้นที่ค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งตัวเลขจากกองอำนวยการร่วมฯ ล่าสุด ณ เวลา 18.00 น. วานนี้ (20 เม.ย.) ตัวเลขยังอยู่ที่เสียชีวิต 47 ราย และสูญหาย 47 ราย
โดยวานนี้ที่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม บริเวณโซน C และได้นำส่งนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรอนิติเวช ยืนยันเอกลักษณ์บุคคลเข้ามาก่อน จึงจะมีการอัปเดตตัวเลขอีกครั้ง
นายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย บอกว่า เมื่อวานนี้พบร่างผู้เสียชีวิตที่สมบูรณ์ 4 ร่าง เป็นกลุ่มที่ทำงานอยู่ชั้น 19 ซึ่ง 2 ร่างระบุเพศได้ อีก 2 ร่างยังไม่สามารถระบุเพศได้ และใน 2 ร่าง มีหลักฐานที่ตรงกับตัวที่บริษัทแจ้งข้อมูลผู้สูญหาย รวมถึงยังพบชิ้นส่วนมนุษย์เพิ่มเติม 6 ชิ้น จึงได้ส่ง นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ทำการตรวจพิสูจน์แล้ว
ส่วนการลดระดับความสูงของกองซากปรักหักพังแต่ละโซนนั้น โดยในโซน A และโซน D เหลือความสูง 10.52 เมตร ส่วนโซน B และ C เหลือความสูง 9.36 เมตร
ส่วนแผนการปฏิบัติการในวันนี้ จะเป็นแผนที่ทำต่อเนื่องจากเมื่อวาน โดยการเร่งเปิดพื้นที่ B ที่มีความยาวเกือบ 10 เมตร ให้ไปเชื่อมต่อกับโซน C ซึ่งจะเหลือประมาณ 5-6 เมตร ก็จะเชื่อมต่อกัน ส่วนจุดที่เคยพบสัญญาณชีพที่โซน B ยังเปิดไปไม่ได้เหลืออีกประมาณ 3 เมตร ส่วนโซน A และ D ก็จะเร่งกระเทาะปูนออกเพื่อตัดเหล็กเพื่อลดขนาดความสูง และสกัดปูนจากด้านข้าง
นายสุริยชัย บอกด้วยว่า ตอนนี้เหลือเวลาอีก 10 วัน ตามกรอบระยะเวลาสิ้นเดือน ดังนั้นถ้าลดระดับความสูงได้วันละ 1 เมตร จะถึงชั้น 1 ภายในสิ้นเดือนนี้ หลังจากนั้นจะต้องปรับแผนการทำงาน เพราะชั้นดังกล่าว ไม่สามารถทำงานบริเวณด้านข้างได้ จึงต้องใช้วิธีการทำจากด้านล่างขึ้นมาข้างบน และต้องประเมินดูว่า ชั้นใต้ดิน มีเหล็กและปูนอัดแน่นแค่ไหน ซึ่งเราวางแผนไว้แล้ว พร้อมทั้งต้องผลัดเปลี่ยนเครื่องจักร และกำลังพลที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมโยธาธิการและอาสา โดยในวันนี้กรุงเทพมหานคร จะเสริมรถเข้ามาเพิ่มเติม ทั้งรถที่ใช้ในการดันเหล็กบริเวณกองวัสดุ ในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยและรถแบคโฮสำหรับตัดเหล็ก
ยอมรับว่า อาคาร 34 ชั้นนี้ มีความสูงประมาณ 100 กว่าเมตร โดยปัจจุบันขณะนี้ ประเมินว่าอยู่ที่ประมาณชั้น 15-16 ซึ่งจากข้อมูลพบว่า มีคนงานทำงานอยู่ ชั้น 1-10 ประมาณ 18 คน และชั้น 10-15 ประมาณ 30 คน ดังนั้น ตัวเลขข้อมูลคนงานชั้น 1-15 ก็จะประมาณ 48 คน และจากการประเมินคาดว่า ประมาณชั้น 5-6 น่าจะถล่มลงไปอยู่ชั้นใต้ดิน ดังนั้นคนที่ทำงานในชั้นดังกล่าว ก็คาดว่าจะไปอยู่ชั้นใต้ดินด้วย
ขณะเดียวกันวันนี้ยังคงมีหน่วยที่เก็บหลักฐาน ทั้งตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน /เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ /และ เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง เข้ามาเก็บตัวอย่างพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง ส่วน ถนนกำแพงเพชร 2 ขาออก ฝั่งเดียวกับที่อาคาร สตง.ถล่ม ได้เปิดการจราจร 1 ช่องทางขวา ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ โดยเฉพาะฝั่ง เจเจ เอาท์เลท ด้วย