กทม.เปิดแผนเชิงรุก ส่งวิศวกรลุยตรวจอาคารสูง-ตึกร้าวทั่วกรุงฯ

29 มีนาคม 2568 นายสานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าภารกิจส่งทีมวิศวกรอาสาจากหลายภาคส่วนลงพื้นที่ไปตรวจสอบอาคารคอนโดมิเนียมต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหววานนี้ (28 มี.ค.68) ตามที่ประชาชนได้ร้องเรียนเข้ามาผ่านแอพพลิเคชั่นทราฟฟี่ฟองดูกว่า 2 พันแห่งทั่วกรุงเทพฯ

โดยระบุว่าเป็นงานที่ต่อเนื่องจากวันแรกที่ กทม.ได้รับเรื่องร้องเรียนเข้ามาประมาณ 2,100 เคส ซึ่งเท่าที่ดูแล้วส่วนใหญ่ไม่ได้มีผลกระทบต่อโครงสร้างของตึกจนสามารถคัดกรองให้เหลือเพียง 700 เคส ในพื้นที่ 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ ที่พบว่าไม่ได้วิกฤติทั้งหมด ยกเว้นในเขตจตุจักรและห้วยขวางที่พบว่า มีเคสตึกร้าวเยอะหน่อย ซึ่งในส่วนนี้ กทม.ได้จัดทีมวิศวกรรับเคส และให้คำแนะนำประจำที่ศูนย์บัญชาการฯ ทั้งหมด 2 ทีม และทีมวิศวกรที่ลงพื้นที่ร่วมกับจนท.เทศกิจ 20 ทีม 

สำหรับเคสที่เป็นอาคารไม่สูงจะเป็นหน้าที่ของทีมจากวิศวกรส่วนกลางที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญลงพื้นที่ไปดูด้วยตัวเอง รวมกันแล้วมีวิศวกรที่ลงพื้นที่ไปตรวจสอบทั้งหมด 20 ทีม ทีมละ 3-7 คนแตกต่างกันไปตามหน้างาน โดยแต่ละทีมจะรับผิดชอบประมาณ 30 ถึง 40 เคส เพราะบางเคสอยู่ในอาคารเดียวกันก็สามารถไปตรวจทีเดียวได้ โดยจะลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่จากกรมโยธาและผังเมืองที่จะพาวิศวกรอาสาลงพื้นที่ไปตรวจ ทั้งหมดแบ่งเป็น 3 ส่วน คือวิศวกรอาสา จนท.โยธาเขต และจนท.เทศกิจ เบื้องต้นได้ดำเนินการตรวจไปแล้วประมาณ 20 ตึก

เมื่อถามว่ามีเคสไหนที่เป็นงานยากบ้าง นายสานนท์ ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่มี ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเคสที่ประชาชนตื่นตระหนก พอเห็นรอยร้าวก็แจ้งเข้ามา แต่จริงๆ แล้วรอยร้าวที่สำคัญที่สุดคือรอยร้าวบริเวณคานกับเสา ที่อาจจะส่งผลกระทบถึงโครงสร้างอาคาร แต่ถ้าเป็นรอยร้าวตามผนังหรือเพดานบางทีอาจจะเป็นรอยร้าวแค่ผิวพื้นเท่านั้น

ส่วนยอดตัวเลขประชาชนที่แจ้งเคสเข้ามาผ่านทางแอพพลิเคชั่น  traffy fondue ตอนนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พอๆ กับวิศวกรอาสาที่อาสาเข้ามาช่วยเหลือเพิ่มเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน ซึ่งทุกคนจะมีรูปแบบการทำงานในการตอบสนองต่อเคสที่ชัดเจนขึ้น โดยแบ่งเป็นสองทีมใหญ่คือทีมที่เป็นวิศวกรที่มีใบประกอบวิชาชีพก็จะให้ดูเคสที่มีความยาก เช่น ห้องชุดคอนโดที่มีรอยร้าวตามเสาหรือคาน ส่วนอีกทีมจะเป็นวิศวกรทั่วไปที่จะดูเคสรอยร้าวบริเวณผนัง 

ทั้งนี้ นายสานนท์ กล่าวย้ำว่า ตอนนี้ต้องเร่งปิดจ๊อบให้เร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนได้มั่นใจ และมีความอุ่นใจ เพราะตอนนี้ประชาชนส่วนใหญ่อยู่ในความตื่นตระหนก ซึ่งต้องอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญเข้าไปช่วยเหลือ เช่น วิศวกรรมสถาน, สภาวิศวกร รวมถึงพี่ ๆ วิศวกรอาสาอีกหลายท่านที่มีใบประกอบวิชาชีพที่มาช่วยกันในเหตุการณ์ครั้งนี้

นอกจากนี้ ทีมข่าวได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่วิศวกรอาสาที่รับเคสร้องเรียนของประชาชน โดยบอกผ่านทีมข่าวสำหรับใครที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและร้องเรียนเข้ามาผ่านแอพพลิเคชั่น traffy fondue แล้ว อยากให้ถ่ายรูปหลายๆ มุมแบบชัดๆ ส่งเข้ามาเพิ่ม เพราะบางทีมีแค่รูปเดียวก็ยากต่อการประเมินความเสียหาย ถ้ามีหลายๆ รูป หลายๆ มุมก็จะสามารถดูได้ง่าย และประเมินได้รวดเร็วยิ่งขึ้น