นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แถลงถึงผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมียนมา ขนาด 8.2 ทำให้โครงสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง พังถล่มลงมาทั้งหมด
โดยระบุว่า จากปัจจุบันโครงการก่อสร้างมีความคืบหน้าไปแล้ว ร้อยละ 30 ของแผนการดำเนินงาน โดยขณะนี้ตนเองอยู่หน้างาน และกำลังตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น
สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงาน สตง.แห่งใหม่ เป็นโครงการก่อสร้างอาคาร ความสูง 30 ชั้น มูลค่าก่อสร้าง 2,136 ล้านบาท ซึ่งก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2563 แต่หยุดชั่วคราว เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ดำเนินโครงการ โดยกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนระหว่างบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด และกิจการร่วมค้า (Joint Venture) PKW (บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จํากัด, บริษัท ว.และ สหาย คอนซัลแตนตส์ จํากัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้น จํากัด) เป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างอาคาร พร้อมสิ่งก่อสร้างประกอบ จำนวน 74,653,000 บาท โดยขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันเป็นปีงบประมาณ พ.ศ.2563 - พ.ศ.2569
สำหรับโครงการนี้ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ร่วมกับ สตง. ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกัน และปราบปรามปัญหาการทุจริต “โครงการข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact)” กับกิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี
สตง.ได้ดำเนินการจัดหาผู้รับจ้างโดยมีการเปิดเผยข้อมูลในทุกขั้นตอน ซึ่งเมื่อเทียบกับราคากลางงานก่อสร้าง จำนวน 2,522.15 ล้านบาท จึงคิดเป็นจำนวนเงินที่ต่ำกว่าราคากลางทั้งสิ้น 386.15 ล้านบาท