23 มีนาคม 2568 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ประกาศความพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยว ขับรถในต่างประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งมีวันหยุดยาวต่อเนื่องกันหลายวัน สำหรับประชาชนที่มีแผนจะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ และต้องการขับรถ สามารถดำเนินการ ขอรับใบขับขี่สากลผ่าน แอปพลิเคชันเป๋าตัง ได้แล้วตลอด 24 ชั่วโมง
อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
สามารถทำได้ตั้งแต่การยื่นคำขอ ตรวจสอบข้อมูล ยืนยันตัวตน ชำระเงิน ออกใบอนุญาตขับรถ และส่งไปรษณีย์ถึงปลายทาง โดยไม่ต้องเดินทางมาที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) หรือสำนักงานขนส่ง
อีกทั้งสามารถขอใบขับขี่สากลตามประเทศที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวได้ตามอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
อนุสัญญาเวียนนา ค.ศ. 1968 เช่น เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ บราซิล บาห์เรน สามารถตรวจสอบประเทศที่ต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวว่าตรงกับอนุสัญญาใดได้ด้วยตนเองที่ https://apps.dlt.go.th/ltpcenter/
ค่าธรรมเนียมรวมคำขอใบขับขี่สากล 505 บาท ค่าไปรษณีย์ 60 บาท ยกเว้นค่าบริการรับชำระเงินของธนาคารกรุงไทย จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568
นายอนุกูล กล่าวว่า การบริการทำใบขับขี่สากล ผ่านแอปฯ เป๋าตัง เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ ธนาคารกรุงไทย กรมการขนส่งทางบก และกระทรวงคมนาคม ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวคนไทย ที่เดินทางไปต่างประเทศ
ใช้เอกสารอะไรบ้าง?
ขั้นตอนและวิธีการ ขอใบอนุญาตฯ บนแอปฯเป๋าตัง ดังนี้
การยื่นคำขอใบอนุญาตฯ บนแอปเป๋าตัง สามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กรมการขนส่งทางบก โทร 1584 (ตลอด 24 ชั่วโมง) หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dlt.go.th
ทั้งนี้ ภายหลังที่กรมการขนส่งทางบก และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันพัฒนาระบบการขอรับใบขับขี่ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม 2567 - 28 กุมภาพันธ์ 2568 พบว่าสถิติการขอรับใบขับขี่สากลผ่านแอปฯเป๋าตัง 10 จังหวัดที่มีการขอรับใบขับขี่สากลมากที่สุด ได้แก่ 1.กรุงเทพฯ 9,878 ฉบับ 2.นนทบุรี 1,792 ฉบับ 3.สมุทรปราการ 1,262 ฉบับ 4.ชลบุรี 973 ฉบับ 5.ปทุมธานี 913 ฉบับ 6.เชียงใหม่ 654 ฉบับ 7.ระยอง 382 ฉบับ 8.ภูเก็ต 298 ฉบับ 9.นครปฐม 279 ฉบับ และ 10. สงขลา 236 ฉบับ” นายอนุกูล ระบุ