รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในภูมิภาคสะกาย, มัณฑะเลย์, พะโค และมะกเว และรัฐฉาน รวมไปถึงกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวง ในวันศุกร์ (28 มีนาคม) หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดเมื่อช่วงบ่าย และประกาศขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศด้วย
สถานีโทรทัศน์เอ็มอาร์ทีวีของทางการเมียนนมาเผยแพร่ภาพความเสียหายจากแผ่นดินไหวที่มีอาคารพังถล่ม ถนนได้รับความเสียหาย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพัง และพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารสำรวจอาคารที่ได้รับความเสียหาย และเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหนึ่งในเมืองมัณฑะเลย์ เผยกับบีบีซีว่า เกิดความเสียหายใหญ่มาก จำนวนผู้เสียชีวิตค่อนข้างสูง จำนวนที่แท้จริงยังไม่อาจรู้ได้ แต่อย่างน้อยอาจหลายร้อยคน
นอกจากนี้คลิปที่แพร่สะพัดในโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นสะพานอังวะ หรือที่รู้จักในชื่อ สะพานสะกายในภูมิภาคมัณฑะเลย์ พังถล่มลงในแม่น้ำอิรวดี ทำให้กลุ่มควันและฝุ่นฟุ้งกระจาย
ขณะเดียวกันมีรายงานผู้เสียชีวิต 3 คนจากมัสยิดพังถล่มบางส่วนในเมืองตองอู ภูมิภาคพะโค ห่างจากศูนย์กลางแผ่นดินไหว 320 ม.
นอกจากนี้หนังสือพิมพ์ย่างกุ้ง ไทมส์ รายงานว่า หอควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินในกรุงเนปิดอว์พังถล่ม ทำให้ทุกคนในอาคารเสียชีวิต ส่วนสนามบินในเนปิดอว์และมัณฑะเลย์ปิดบริการแล้ว และอาคารกระทรวงบางหลัง รวมถึง กระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงแรงงานในกรุงเนปิดอว์พังถล่ม ทำให้พนักงานหลายคนเสียชีวิต
สื่อท้องถิ่นอีกแห่ง รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 2 คน และผู้บาดเจ็บ 20 คน หลังโรงแรมพังถล่มในอองพาน รัฐฉาน
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดีย โพสต์ใน X แสดงความกังวลต่อสถานการณ์แผ่นดินไหวในเมียนมาและไทย และระบุว่า อินเดียพร้อมให้ความช่วยเหลือทุกอย่างที่เป็นไปได้ และได้ขอให้กระทรวงต่างประเทศติดตามสถานการณ์กับทางรัฐบาลเมียนมาและไทย
ขณะที่อินเดียและบังกลาเทศยังไม่มีรายงานผลกระทบจากแผ่นดินไหวในเมียนมา