3 มกราคม 2568 "มูลนิธิเนชั่น" ร่วมกับ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) และ บมจ.ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล (ปุ้มปุ้ย) ได้จัดโครงการจิตอาสา พัฒนาเกาะลิบง โดยวันนี้ได้เดินทางไปที่โรงเรียนบ้านบาตูปูเต๊ะ ต.ลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้ลงพื้นที่ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 เพื่อพัฒนาชุมชนให้ประชาชนในพื้นที่ และช่วยเหลือโรงเรียนบ้านบาตูปูเต๊ะ ในการพัฒนาระบบน้ำ ขุดบ่อบาดาล ปรับปรุงถังเก็บน้ำ พร้อมทั้งสร้างหลังคาทางเดินภายในโรงเรียน ติดตั้งไฟโซลาร์เซลล์ส่องสว่างทางเดินภายในบริเวณโรงเรียน และบริเวณเกาะลิบงกว่า 100 ดวง ร่วมกับภาคเอกชน
ซึ่ง "มูลนิธิเนชั่น" โดย "เนชั่นกรุ๊ป" โครงการ "เนชั่นปั่นน้ำใจ" ได้ร่วมมอบอุปกรณ์กีฬา อาทิ ลูกบาสเกตบอล ไม้ปิงปอง โต๊ะปิงปอง จักรยานจำนวน 10 คัน และทุนการศึกษาสำหรับซื้อชุดนักเรียน จำนวน 7 ทุน รวมมูลค่ากว่า 100,000 บาท
นอกจากนี้ คุณฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เนชั่น กรุ๊ป พร้อมครอบครัว ยังได้ร่วมกับ ตำรวจสอบสวนกลาง และจิตอาสา ร่วมกันปลูกต้นไม้ในโรงเรียนบ้านบาตูปูเต๊ะอีกด้วย
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลาง มีการลงพื้นที่ในโครงการจิตอาสาทุกพื้นที่ทั่วประเทศประจำทุกเดือน โดยเป็นการเดินทางไปในพื้นที่แห้งแล้งหรือทุรกันดาร เพื่อช่วยพัฒนาและมอบสิ่งของให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งใน 1 ปีจะมีโครงการจิตอาสาใหญ่ 1 ครั้ง ในครั้งนี้จะเดินทางมาที่เกาะลิบง ซึ่งที่ผ่านมาจะเป็นการทำภายในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ก่อนจะได้ความร่วมมือจากภาครัฐและภาคเอกชนที่ได้เห็นโครงการจิตอาสาจึงได้เข้ามาร่วมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้มี นายทรงกลด สว่างวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง, ผอ.โรงเรียนบ้านบาตูปูเต๊ะ, ชาวบ้านเกาะลิบง, นักเรียน ให้การต้อนรับและร่วมกับกิจกรรม
ต่อมา ในช่วงสาย มีการส่งมอบสนามเด็กเล่นของโรงเรียนบาตูปูเต๊ะ ที่ทางตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย บมจ.ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล (ปุ้มปุ้ย) ร่วมกันสนับสนุนในการปรับปรุง และเพิ่มเครื่องใหม่ ให้กับเด็กๆ ในโรงเรียน ใช้ในการเพิ่มทักษะการเรียนรู้ และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อยใจให้กับเด็กๆ ได้ผ่อนคลายหลังเรียนหนังสือ นอกจากนี้ ยังมีการแจกไอศกรีมให้กับเด็กๆ ตลอดจน เลี้ยงอาหารกลางวัน ด้วย
นอกจากที่ในกิจกรรมข้างต้นแล้ว ทาง CIB ยังได้ทำ "โครงการจิตอาสา พัฒนาเกาะลิบง" กันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทั้งการติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพื่อเป็นแสงส่องสว่าง ภายในพื้นที่โรงเรียน, กิจกรรมปรับปรุงห้องละหมาดของโรงเรียน รวมไปถึง ตรวจเยี่ยมหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ ที่วันนี้ลงมาตรวจสุขภาพให้กับนักเรียนและชาวบ้านในพื้นที่
พร้อมส่งมอบระบบบริหารจัดการน้ำภายในโรงเรียน ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมสำคัญ เนื่องจากน้องๆ นักเรียน มักจะมีปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง ทาง CIB จึงเข้ามาช่วยในเรื่องของการขุดบ่อบาดาล รวมไปถึงจัดตั้งเครื่องกรองน้ำ เพื่อให้เด็กนักเรียนมีน้ำดื่มสะอาดตลอดปี
สำหรับปัญหาใหญ่ของโรงเรียนบาตูปูเต๊ะ และชาวบ้านบนเกาะลิบง เนื่องจากเป็นพื้นที่เกาะ ล้อมรอบด้วยทะเล ดังนั้น "น้ำจืด" สำหรับอุปโภคบริโภค จึงเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นปัญหาใหญ่ของนักเรียนและชาวบ้านที่นี่
โดย นายอนุรักษ์ สุเหร็น ผอ.โรงเรียนบาตูปูเต๊ะ เปิดเผยว่า สำหรับนักเรียนในโรงเรียนบาตูปูเต๊ะแห่งนี้ มีประมาณ 300 กว่าคน แต่ถ้ารวมบุคลากรครู ประมาณ 400 กว่าคน ซึ่งในหน้าฝนนักเรียนยังสามารถอุปโภคบริโภคน้ำจากน้ำฝนที่ตกลงมาได้ แต่ในหน้าแล้ง น้ำกับไม่เพียงพอกับความต้องการของเด็กๆ
"แม้ว่าที่โรงเรียนจะมีการขุดเจาะบ่อบาดาล 2 บ่อแล้วก็ตาม พอหน้าแล้ง น้ำจะแห้ง เหลือเพียงเล็กน้อยทำให้น้ำเค็มซึมเข้ามา ส่งผลให้รสชาติน้ำเปลี่ยนไป การที่ตำรวจสอบสวนกลาง เข้ามาช่วยในการปรับปรุงบ่อบาดาล และ ยังเป็นสื่อกลางในการหาหน่วยงานเข้ามาสนับสนุนและขุดเจาะบ่อบาดาลเพิ่ม พร้อมทั้งมีการติดตั้งเครื่องกรองน้ำ จะส่งผลให้หลังจากนี้เด็กๆ มีน้ำดื่ม น้ำใช้ ที่สะอาดและมีคุณภาพ" ผอ.โรงเรียนบาตูปูเต๊ะ ระบุ
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า "โครงการจิตอาสา พัฒนาเกาะลิบง" ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พระบรมราโชบาย ของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่อยากเห็นคนไทย มีความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
"ที่โรงเรียนบาตูปูเต๊ะ ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการดำรงชีวิต ทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยผู้สนับสนุน จึงอยากจะช่วยแบ่งเบาปัญหา เข้ามาพัฒนาระบบน้ำ ปรับปรุงสนามเด็กเล่น พร้อมทั้งสร้างหลังคาทางเดินระหว่างอาคาร เพื่อกันแดดกันฝนให้กับนักเรียนในช่วงเปลี่ยนคาบเรียน
นอกจากนี้ ยังมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดี และนักเรียนที่ลำบาก เพื่อหวังว่า พวกเขาจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น" ผบช.ก. กล่าว
สำหรับ "โครงการจิตอาสา พัฒนาเกาะลิบง" ในช่วงบ่ายนั้น ได้มีการไปส่งมอบอาคารอเนกประสงค์ ณ มัสยิดเกาะลิบง เนื่องจากประชากรในเกาะลิบงนั้นส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม จะได้นำอาคารอเนกประสงค์แห่งนี้ไปใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาหรือกิจกรรมของชุมชน
นอกจากนี้ ยังมีการปล่อยพันธุ์ปลา และสัตว์น้ำ ที่หอชมดูหยง รวมถึง ทำกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล ก่อนปิดท้ายด้วยการปลูกป่าชายเลน เพื่อเพิ่มพื้นที่อนุบาลสัตว์น้ำ
ภาพ : NationPhoto