svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

“วันคริสต์มาส” สำคัญอย่างไร ทำไมถึงเป็นเทศกาลแห่งความสุข ?

เมื่อถึงวันคริสต์มาส จะนึกถึงอะไรบ้าง ซานตาคลอส? กวางเรนเดียร์? ของขวัญ? ต้นส้น? งานรื่นเริง? สิ่งเหล่านี้ใช่สิ่งที่อยู่ในวันคริสต์มาสจริงหรือไม่ ทีมข่าวเนชั่นสรุปความหมาย ความสำคัญของวันคริสต์มาสมาให้อ่านกัน

วันคริสต์มาสตรงกับวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี เป็นเทศกาลที่เฉลิมฉลองวันประสูติของพระเยซู ปรากฏใน "ปฏิทินแห่ง ค.ศ. 354" ในต่างประเทศที่มีผู้คนนับถือศาสนาคริสต์ จะถือว่าเอาช่วงเวลานี้เป็นวันหยุดยาว เพื่อให้ชาวคริสต์ได้กลับไปใช้ชีวิต สังสรรค์ และได้ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวของพวกเขาในช่วงเวลาสำคัญแห่งปี และแน่นอนวันคริสต์มาสก็ทำให้เกิดประเพณี หรือวัฒนธรรมปฏิบัติมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการห้อยถุงเท้า การตกแต่งต้นคริสต์มาส เกิดเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ประจำเมืองต่างๆ ในปัจจุบันวันคริสต์มาสได้เผยแพร่ไปเกือบทั่วทุกมุมโลก 

 

“วันคริสต์มาส” สำคัญอย่างไร ทำไมถึงเป็นเทศกาลแห่งความสุข ? (แฟ้มภาพ)

 

ทั้งนี้ "Christmas" แปลว่า "บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า" โดยมีรากศัพท์มาจากคำว่า Christes Maesse เนื่องจากวันคริสต์มาสเป็นวันที่คริสต์ศาสนิกชนนิยมทำพิธีมิสซา 

 

ทำไมถึงเป็นวันที่ 25 ธันวาคม ?

เป็นเวลาหลายศตวรรษที่นักเขียนชาวคริสเตียนยอมรับว่าวันคริสต์มาสนั้นตรงกับวันประสูติของพระเยซู อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 ก็เริ่มมีนักวิชาการนำเสนอคำอธิบายเพิ่มเติม 

 

-ไอแซก นิวตัน ให้ความเห็นว่าวันคริสต์มาสนั้นถูกเลือกขึ้นมาเพื่อให้สอดคล้องกับช่วง วันที่มีกลางวันสั้นที่สุด (winter solstice) ซึ่งในอดีตได้กำหนดไว้ให้ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม

 

-ปี 1743 Paul Ernst Jablonski ชาวเยอรมันที่นับถือคริสต์นิกายโปแตสแตนต์ ให้ความเห็นว่าวันคริสต์มาสนั้นระบุให้ตรงกับวันที่ 25 ธันวาคม เพื่อให้สอดคล้องกับวันหยุด Roman Solar Holiday Dies Natalis Solis Invicti และโดยเหตุการณ์นั้น พวกนอกรีตได้ทำให้โบสถ์ดูไม่น่าเลื่อมใส และหมดความศรัทธา

 

-ปี 1889 Louis Duchesne กล่าวว่าวันคริสต์มาสถูกคำนวณจากวัน Annunciation ไปอีก 9 เดือน วัน Annunciation ตรงกับวันที่ 25 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่ระลึกถึงการกลับชาติมาเกิดของนางฟ้ากาเบรียล ซึ่งจุติเป็นพระแม่มารี ซึ่งตามประเพณีแล้วถือว่าเป็นวันแห่งการลงมาจุติยังโลกมนุษย์

 

ความสำคัญของวันคริสต์มาส

 

“วันคริสต์มาส” สำคัญอย่างไร ทำไมถึงเป็นเทศกาลแห่งความสุข ?

(แฟ้มภาพ)

 

คริสต์มาส เป็นวันที่มีความสำคัญอย่างยิ่งวันหนึ่งในศาสนาคริสต์ ไม่ใช่เป็นวันสำคัญฝ่ายร่างกายจัดงาน รื่นเริงภายนอกเท่านั้น แต่แก่นแท้อยู่ที่ความรัก ของพระเจ้า มีต่อโลกมนุษย์ คือ พระเจ้าทรงรักมนุษย์ มากจน ยอมส่งพระบุตรองค์เดียว ของพระองค์ ให้มาเกิดเป็น มนุษย์ มีเนื้อหนังมังสา ชื่อว่า "เยซู"

 

การที่พระเจ้าได้ ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อช่วยมนุษย์ให้รอดพ้นจากการเป็นทาส ของความชั่ว และบาปต่างๆ นั่นเอง ความสำคัญของวันคริสต์มาสจึงอยู่ที่การฉลองความรักที่พระเจ้ามีต่อโลกมนุษย์

 

ซานตาครอสมาจากไหน ?

ว่ากันว่า ก่อนจะมีซานตาคลอส มีเรื่องราวของ “นักบุญนิโคลัส” หรือเซนต์นิโคลัส ชื่อเต็ม นักบุญนิโคลัสแห่งไมรา (Saint Nicholas of Myra) หรือ ชื่อในภาษากรีก คือ Agios Nikolaos แปลว่า ชัยชนะของปวงชน ท่านเป็นบิชอปชาวกรีกในเมือง Myra แคว้น Lycia ซึ่งปัจจุบันอยู่ในประเทศตรุกี ท่านเป็นนักบุญที่มีชื่อเสียงที่สุดองค์หนึ่ง ในนิกายอีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ และโรมันคาทอลิก

 

ท่านเกิดที่เมืองปารารา ดินแดนอานาโตเลียในปี ค.ศ. 270 หรือ พ.ศ 813 โดยชีวิตช่วงวัยหนุ่มท่านได้จารึกแสวงบุญไปอียิปต์และปาเลสไตน์ พอกลับมาได้ไม่นานก็ได้รับแต่งตั้งเป็นบิชอปแห่งมิรา ท่านได้เข้าร่วมสภาสังคายนาไนเซียครั้งที่หนึ่ง และถึงแก่มรณกรรมเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 886 ว่ากันว่าในปี 1630 ปัจจุบันศพของท่านถูกพ่อค้าชาวอิตาลีขโมยจากเมืองมิรามาไว้ที่เมืองบารีประเทศอิตาลี

 

เซนต์ นิโคลัส แห่งเมืองไมรา เป็นที่รู้จักเรื่องความมีเมตตาต่อเด็ก และมักแอบมอบของขวัญแก่เด็กๆ จึงค่อยๆ เป็นที่รู้จักในยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 16 ในฐานะบิดาแห่งคริสต์มาส ผู้มอบของขวัญให้เด็กๆ โดยชาวดัตช์ซึ่งเดินทางไปถึงสหรัฐฯ เรียก เซนต์นิโคลัสว่า “ซินเตอร์คลาส” ก่อนจะกลายมาเป็น “ซานตาคลอส” เหมือนปัจจุบัน ในประวัติตอนหนึ่งเล่าว่า นักบุญของเราคนนี้ มีชื่อเสียงในเรื่องของการให้ทานแบบแปลกๆ เช่นใส่เหรียญไว้ในรองเท้าแก่ผู้ที่ถอดออกมายื่นให้แก่ท่าน ซึ่งเป็นที่มาของรูปแบบในการขอของขวัญจากซานตาคลอส ที่เรามักเอาถุงเท้าไปแขวนไว้ที่ปล่องไฟนั่นเอง

 

“วันคริสต์มาส” สำคัญอย่างไร ทำไมถึงเป็นเทศกาลแห่งความสุข ?

 

ยังมีความเชื่ออีกมุม ซึ่งสามารถสืบย้อนไปได้ถึง ค.ศ. 1820 ว่าซานตาคลอสนั้น เป็นชายชรา เคราขาวร่างท้วมผู้ร่าเริงสนุกสนาน สวมโค้ดสีแดงกับคอเสื้อสีขาว กางเกงขายาวสีแดง เข็มขัดและรองเท้าหนังสีดำ

 

มีบ้านอาศัยที่ขั้วโลกเหนือ พร้อมกับเอลฟ์ มีเวทมนตร์จำนวนมากและกวางเรนเดียร์เหาะเก้าตัว แนวคิดนี้จึงส่งอิทธิพลให้เกิดเพลง “ซานตาคลอสกำลังมาเมือง” ในปี 2477

 

โดยเชื่อกันว่าซานตาคลอส ได้ทำรายชื่อเด็กทั่วโลก และแบ่งประเภทพวกตามพฤติกรรม “ดื้อ” หรือ “น่ารัก” และมอบของขวัญ รวมทั้งของเล่นและลูกกวาดสำหรับเด็กประพฤติดีในโลก และบางครั้งส่งถ่านหินไปให้เด็กดื้อ

 

ภายในคืนวันคริสต์มาสอีฟคืนเดียว เขาสำเร็จได้ด้วยความช่วยเหลือของเอลฟ์ผู้ทำของเล่นในโรงงาน และกวางเรนเดียร์ที่ลากเลื่อนหิมะของเขา

 

“วันคริสต์มาส” สำคัญอย่างไร ทำไมถึงเป็นเทศกาลแห่งความสุข ?

 

ทำไมเป็น “ต้นส้น” ในวันคริสต์มาส?

ต้นคริสต์มาส คือ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่ขาดไม่ได้เมื่อพูดถึงวันคริสต์มาส ต้นคริสต์มาสเดิมนั้นทำมาจากต้นสน ซึ่งหาได้ง่ายในทวีปยุโรปและอเมริกา แต่ในปัจจุบันยังมีการใช้ต้นคริสต์มาสปลอมที่ทำจากพลาสติกด้วย เนื่องจากสามารถนำกลับมาใช้ได้หลายปี

นิยมตกแต่งด้วยการห้อยของประดับต้นคริสต์มาส ในรูปต่างๆ ที่หลากหลาย เช่น ลูกบอล ดาว กล่องของขวัญชิ้นเล็กๆ พร้อมทั้งประดับไฟสีสันสวยงาม 

 

“วันคริสต์มาส” สำคัญอย่างไร ทำไมถึงเป็นเทศกาลแห่งความสุข ? (แฟ้มภาพ)

 

ตามความเชื่อในสมัยโบราณ ชาวคริสต์เชื่อว่าต้นคริสต์มาส คือ ต้นไม้ในสวนเอเดน (Garden of Eden) หรืออุทยาน​ของ​พระ‍เจ้า ที่อดัมและอีฟหยิบผลไปกินนั่นเอง

 

รู้กันหรือไม่ว่ามีต้นไม้ที่ชื่อว่า “ต้นคริสต์มาส” อยู่ด้วยจริงๆ ตามตำนานในงานฉลองวันประสูติ เหล่าสาวกและผู้คนทั้งหลายล้วนมอบของขวัญที่วิเศษที่สุดให้กับพระเยซู

แต่มีเด็กหญิงชาวเม็กซิกันผู้ยากไร้ ไม่มีของขวัญใดแม้เพียงสักชิ้นเดียวในมือ มีเพียงดวงใจที่เปี่ยมด้วยศรัทธา แม้ของที่ด้อยราคา อาจจะมีค่าในสายตาพระเยซูเจ้าได้ เธอจึงก้มลงเก็บวัชพืชริมทางเพื่อนำไปเป็นของขวัญ

ด้วยศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของเธอ วัชพืชนั้นกลับงอกงาม กลายเป็นช่อดอกไม้สีแดงสดสวยงามจึงได้ชื่อว่า Flores de Noche Buena หรือ Flowers of the Holy Night  ตามภาษาเม็กซิกันซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของต้นไม้ชนิดนี้ แต่คนไทยเรียกว่า ต้นคริสต์มาส และมีอีกชื่อคือ  Poinsettia 

 

“วันคริสต์มาส” สำคัญอย่างไร ทำไมถึงเป็นเทศกาลแห่งความสุข ?

 

 

ทำไมต้องให้ของขวัญในวันคริสต์มาส?

เป็นระยะเวลากว่าศตวรรษแล้ว ที่เทศกาลคริสต์มาสเป็นช่วงเวลาแห่งการมอบของขวัญให้กันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมอบของขวัญให้เพื่อน ๆ และสมาชิกในครอบครัว

ซึ่งจำนวนของชาวคริสเตียนและบุคคลที่เป็นตำนานได้ถูกสมมติขึ้นมาให้สอดคล้องกับเทศกาลและการมอบของขวัญ ซึ่งรู้จักกันทั่ว ๆ ไป ในชื่อของ “บิดาแห่งคริสต์มาส”  ชื่อได้แก่ ซานตาครอส, เซนต์ นิโคลัส 

การให้ของขวัญเป็นหนึ่งในแง่มุมหลักของการเฉลิมฉลอง คริสต์มาสสมัยใหม่ ทำให้เป็นช่วงทำกำไรสูงสุดของปีสำหรับผู้ค้าปลีกและธุรกิจทั่วโลก

การให้ของขวัญเป็นปกติในการเฉลิมฉลองแซเทิร์นนาเลีย (Saturnalia) เทศกาลโบราณของโรมันซึ่งจัดขึ้นในปลายเดือนธันวาคมและอาจมีอิทธิพลต่อประเพณีคริสต์มาส

การให้ของขวัญถูกห้ามโดยคริสตจักรคาทอลิกในยุคกลางเพราะสงสัยประเพณี ดังกล่าวว่ามีต้นกำเนิดมาจากเพเกิน(ลัทธินอกศาสนา หรือนอกรีต) ภายหลังคริสตจักรใช้เหตุผลตัดสินบนพื้นฐานว่าเป็นการเชื่อมโยง นักบุญนิโคลัส กับ คริสต์มาส และของขวัญที่เป็นทองคำ กำยานได้มอบถวายแด่พระกุมารเยซูโดยนักปราชญ์ทั้งสาม

 

“วันคริสต์มาส” สำคัญอย่างไร ทำไมถึงเป็นเทศกาลแห่งความสุข ?

“วันคริสต์มาส” สำคัญอย่างไร ทำไมถึงเป็นเทศกาลแห่งความสุข ?
(แฟ้มภาพ)

 

ปัจจุบันการให้ของขวัญในวันคริสต์มาสถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันปกติ จะเห็นได้ว่าในประเทศไทยเองก็มีการจัดงานเทศกาลฉลองวันคริสต์มาสด้วยเช่นกัน

รวมถึงการใช้วันคริสต์มาสเป็นโอกาสทางการค้าได้ด้วย เช่น นำสินค้าออกมาขายในเทศกาลคริสต์มาส การคุมธีมสินค้าช่วงเทศกาล การผลิตสินค้าเฉพาะที่มีแค่ช่วงเทศกาล เป็นต้น รวมไปถึงการจัดงานในสถานที่ต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน สถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ 

 

ทุกเทศกาลนั้นมีที่มา มีความสำคัญ มีจุดเปลี่ยน และสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ ความเชื่อ และวิถีชีวิตของคนตั้งแต่อดีต-ปัจจุบัน "วันคริสต์มาส" เป็นเทศกาลที่ผู้คนทั่วโลกต่างให้ความสำคัญ ให้ความสุข ให้ความสนใจ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีผู้คนก็ต่างสนุกกับวันคริสต์มาสเสมอ สุขสันต์วันคริสต์มาส 2567

 

ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก : อุทยาหลวงราชฤกษ์ / กรมประชาสัมพันธ์