สภาผู้บริโภค ไม่เห็นด้วยยกเลิกทัศนศึกษา ชี้ กม.ไทยหย่อนยาน รถไม่ปลอดภัย
สภาผู้บริโภค ไม่เห็นด้วยยกเลิกทัศนศึกษา ควรทบทวนปรับให้เหมาะสมตามช่วงวัย ชี้ กฎหมายไทยหย่อนยาน ต้นเหตุปล่อยบัสไม่ปลอดภัยมาวิ่งบนถนน ต้องรับผิดชอบ
วันที่ 2 ตุลาคม 2567 สภาองค์กรผู้บริโภค จัดแถลงข่าว กรณีอุบัติเหตุรถบัสไฟไหม้ ถึงเวลาทบทวนแนวทางการทัศนศึกษาที่ปลอดภัย โดยมองว่าถึงเวลาจริงจังกับการดำเนินการด้านความปลอดภัยของรถสองชั้นในการรับจ้างแบบไม่ใช่รถประจำทาง และต้องเร่งทบทวนมาตรฐานการทัศนศึกษา ให้มีความเหมาะสมกับเด็กนักเรียนในแต่ละช่วงวัย
โดยมีแขกรับเชิญประกอบด้วย
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค
นายคงศักดิ์ ชื่นไกรลาศ ผู้ช่วยเลขานุการคณะอนุกรรมการด้านการขนส่งและยานพาหนะ สภาผู้บริโภค
นายเชษฐา มั่นคง ผู้อำนวยการมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก และเครือข่ายภาคีสร้างสุขภาวะเด็ก
และ นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร ประธานคณะอนุกรรมการด้านการขนส่งและยานพาหนะ สภาผู้บริโภค ร่วมเข้าสายสนทนา
ขณะที่ นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค เป็นผู้ดำเนินรายการ
สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการสำนักงานสภาผู้บริโภค กล่าวว่า ประเทศเราไม่ควรยอมรับการตายในสิ่งที่เราป้องกันได้ สิ่งที่สะท้อนจากอุบัติเหตุในครั้งนี้คือ เราใช้รถที่ไม่ปลอดภัยเลย ดูภายนอกสวยงาม แต่เป็นรถที่จดทะเบียนตั้งแต่ปี 2513 สะท้อนให้เห็นว่ากลไกการใช้กฎหมายหย่อนยานมาก ขอให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการมีรถที่ไม่ปลอดภัยออกมารับผิดชอบอย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม เราสนับสนุนให้มีการทัศนศึกษา ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ทัศนศึกษา แต่อยู่ที่เราใช้รถที่ไม่มีความปลอดภัยเลย ต้องไปรื้อระบบที่ไม่ปลอดภัย เช่น การตรวจสภาพรถในปัจจุบันที่เชื่อถือไม่ได้ ซึ่งกรมการขนส่งทางบกต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ อีกส่วนหนึ่งคือการทำสัญญาของโรงเรียนในการเลือกใช้รถสำหรับการเดินทางไปทัศนศึกษาที่ไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้องเหมาะสม ทำให้เมื่อเกิดเหตุการณ์ในหลายกรณีพบว่าการเยียวยาไม่สมเหตุสมผล ปัจจัยเหล่านี้คือสิ่งที่ต้องเร่งทบทวน
ขณะเดียวกัน ทางสภาผู้บริโภค ได้มีการแถลงข่าวความคืบหน้ากรณียื่นฟ้องคดีแบบกลุ่มกรณีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุงหลายรุ่นจอขึ้นเส้น และมีอาการเครื่องร้อนผิดปกติจนจอดับ ไม่สามารถใช้งานต่อได้ ซึ่งล่าสุด มีผู้บริโภคติดต่อไปยังศูนย์บริการของ Samsung โดยได้รับคำตอบว่าอาจเกิดจากเครื่องหมดประกัน หรืออาจทำเครื่องตกหล่นจนเครื่องเสื่อมสมรรถภาพตามอายุการใช้งาน และต้องส่งซ่อมโดยผู้บริโภคต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายประมาณ 7,000 ถึง 15,000 บาท ด้วยตัวเอง
โดย นายโสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค เปิดเผยว่า ศาลได้กำหนดนัดไต่สวนคดีแบบกลุ่มในวันที่ 7 ตุลาคม 2567 นี้ เวลา 13:30 น. สำหรับผู้บริโภคที่เจอปัญหาลักษณะเดียวกัน สามารถใช้สิทธิร้องเรียนเข้ามาที่สภาผู้บริโภคได้ โดยจะมีการรวบรวมข้อมูลผู้เสียหาย เพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีแบบกลุ่มตลอดจนการรายงานผลการดำเนินคดีแก่ผู้เสียหายอย่างต่อเนื่องโดยภายหลังศาลรับพิจารณาและได้ตัดสินคดีแล้ว ทางสภาผู้บริโภคจะแจ้งไปยังผู้บริโภคเพื่อจะได้ใช้สิทธิตามกฏหมายต่อไป