svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

หนุ่มสุดทน แต่งงานมา 6 ปี จับได้เมียมีชู้ 5 คน ซ้ำถูกขู่ห้ามยุ่ง

หนุ่มผู้ช่วยพยาบาล สุดทน! แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับเมียมา 6 ปี จับได้เมียมีชู้ 5 คน ซ้ำถูกขู่ห้ามยุ่ง อ้างรู้จักคนใหญ่คนโต ตัดสินใจร้องเพจสายไหมฯ ช่วย

วันที่ 2 กันยายน 2567 นายเอ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี ผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง พร้อมพ่อและแม่ภรรยาเดินทางมาร้องเรียนกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ภายหลังภรรยา อายุ 29 ปี นอกใจมีมือที่สามจนท้องแต่ยังเอาลูกไปอยู่ด้วย ซึ่งตนเองอยากฟ้องชู้และขอสิทธิ์เลี้ยงดูลูกแต่เพียงผู้เดียว

โดยนายเอ บอกว่า ตนเองคบกับภรรยา ชื่อ "ฟ้า" มาตั้งแต่ปี 2560 และ จดทะเบียนสมรสกัน ปี 2562 ก่อนจะแต่งงานแต่งงานกันในปี 2563 ซึ่งตนเองเริ่มเห็น ฟ้า มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ช่วงหลังจดทะเบียนสมรส ประมาณปลายปี 2562 ซึ่งชายคนนี้เป็นคนที่รู้จักกันกับแฟนและตนเอง ซึ่งพอตนรู้ก็ไปคุยแต่ฟ้าบอกว่าจะเลิกยุ่งกันไป

ต่อมา ปี 2563 แฟนท้อง และคลอดลูกออกมาช่วงเดือน สิงหาคม 2563 จากนั้นแฟนก็ขอกลับไปทำงาน ส่วนตนเองก็ออกจากงานมาเลี้ยงลูก หลังจากนั้นฟ้ามีพฤติกรรมเปลี่ยนไป จนตนเองมารู้ว่า ฟ้าเริ่มมีคนอื่น จึงเค้นถามแต่ก็บอกว่าไม่มีอะไรและจบกันไปในช่วงปี 63 ซึ่งตนเองยอมรับว่าเสียใจ แต่ก็อยู่เพราะลูก จนตนเองและแฟนออกไปอยู่คอนโดด้วยกัน ซึ่งตนเองยังเป็นคนเลี้ยงลูกเหมือนเดิม

วันที่ 31 ตุลาคม 2564 ตนเองมาทราบว่าแฟนไปเป็นมือที่สามของครอบครัวหนึ่ง เนื่องจากแฟนของชายอื่น (คนที่ 3) ส่งรูปและคลิป ลักษณะกอด จูบ และนอนด้วยกัน ระหว่างแฟนตัวเองและชายอื่น(ที่เป็นแฟนของหญิงที่มาฟ้อง) และภาพถุงยางอนามัย ตอนนั้นตนเองช๊อกและตกใจมาก และมาทราบภายหลังว่า แฟนของชายคนดังกล่าวพยายามพูดคุยตกลงกันหลายรอบ แต่ไม่จบ จึงส่งรูปมาหาตัวเอง

ซึ่งตนเองพยายามขอคุยแทน แต่เรื่องก็ยังไม่จบจนเรื่องไปถึง ผอ.โรงพยาบาล ก็ได้มีการไล่ชายคนนั้นออก ยอมรับว่าตนเองเครียดมากถึงขั้นไปร่ำลาลูกสาว พ่อตา แม่ยาย และแม่ของตัวเอง หวังจะไปจบชีวิตที่สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เคราะห์ดีที่พ่อตา แม่ยาย และแม่ มาห้ามไว้ทัน จึงกลับมาคุยกับฟ้าว่า จะขอดูลูกและอยู่กันเพื่อลูกโดยที่จะยังไม่หย่า เพราะไม่อยากให้ลูกรู้สึกมีปัญหาครอบครัว

ต่อมาช่วงธันวาคม 2565 ฟ้าก็กลับมามีพฤติกรรมแบบเดิมอีก แต่ครั้งนี้ได้ให้ทนายความ นัดมาคุย ซึ่งตนเองก็เอะใจเพราะเสียงของทนายความคุ้นเหมือนเคยได้ยินแฟนคุยในห้องน้ำที่คอนโด และตอนนัดคุยกัน ตนก็ถามจะฟ้องหย่าตนในประเด็นอะไร แฟนก็บอกว่า ตนเองคุกคามทางเพศลูกสาว ซึ่งตนเองก็แย้งไปว่าเป็นพ่อ เลี้ยงดูลูกมาตั้งแต่เด็กจนโต ทั้งอาบน้ำ และลูกเพิ่งอายุไม่กี่ขวบ ตนก็ต้องสอนวิธีการทำความสะอาดร่างกายในฐานะคนเป็นพ่อและทำงานด้านการแพทย์  ซึ่งตนก็แย้งไป แต่กลับฟังไม่ขึ้น และเขาก็เอาลูกไปอยู่บ้านพ่อตา แม่ยาย ตนเริ่มสงสัย จึงถามว่าผู้ชายที่มา มาช่วยเป็นทนายจริงหรือไม่ ฟ้าก็ยืนยันว่าเป็นทนาย แต่ตนไปหาประวัติกลับไม่พบ ก็เก็บความสงสัยไว้ในใจ

ช่วงกุมภาพันธ์ ปี 2567 พ่อกับแม่ของแฟนก็เห็นว่าแฟนพาทนายคนนี้มานอนที่บ้าน ซึ่งตนก็ตกใจ และช่วงเดือนมีนาคม 2567 ซึ่งเป็นช่วงวันเกิดของตนเอง ก็เห็นว่าแฟนไปเที่ยวเมืองจีนกับชายคนที่ 5 มีการถ่ายรูปลงโซเชียลกันอย่างเปิดเผย ทั้งที่ยังไม่ได้หย่ากับตนเอง ถึงขั้นพาลูกไปอยู่ที่บ้านของชายคนที่ 5 ซึ่งตนพยายามขอพบลูกแต่ก็ถูกกีดกัน แม้กระทั่งพ่อตาแม่ยายก็ถูกกีดกันไม่ให้พบหลาน

โดยฟ้ามักพูดว่าอย่ามายุ่งกับเธอและครอบครัวใหม่ แต่ด้วยความเป็นพ่อ และตายายจึงแอบไปดูหลาน แต่ก็ถูกข่มขู่กีดกัน อ้างรู้จักกับคนใหญ่ คนโตในจังหวัดอยุธยา และผู้กำกับสน. ในกรุงเทพมหานคร ทำให้ตนเอง และพ่อตาแม่ยายรู้สึกกลัวและกังวล

กระทั่งเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ฟ้า โทรมาหาพ่อตาแม่ยาย บอกว่า เธอและลูกสาว อายุ 4 ขวบ ถูกชู้คนที่ 5 ทำร้าย เนื่องจากชู้คนที่ 5 จับได้ว่า แฟน ไปมีชู้อีกคนซ้อนกัน ซึ่งเป็นชู้คนที่ 4 ที่เป็นอาจารย์หมอ  ทำให้คนที่ 5 ระแวงและทำร้ายฟ้า ซึ่งตอนนี้ฟ้า ก็ท้องกับชายคนที่ 5 ได้ประมาณ 2 เดือน

ที่ผ่านมา ตนเองได้ผลกระทบเรื่องการจ่ายค่าบ้าน ที่ฟ้าไปกู้ธนาคาร มา 2.5 ล้านบาท แรกๆยังส่งค่าบ้านปกติ หลังจากนั้นขาดการส่งค่าบ้านมา 4-5 งวด ทำให้ตนเองต้องวางเงินส่วนตัว 80,000 บาท เพื่อจ่ายค่างวดบ้าน เพราะกลัวบ้านถูกยึด จนตอนนี้ตนเองไม่จ่ายค่างวดบ้านแล้ว จะปล่อยให้ทางกฎหมายดำเนินการ โดยศาลเรียกคุยกัน 30 กันยายนนี้  เพราะแฟนเอาเงินที่กู้ และที่เหลืออยู่ ไปใช้ส่วนตัวแล้ว

ส่วนที่เดินทางมาร้องเพจสายไหมฯ วันนี้ เพราะต้องการ ให้นายเอกภพ ช่วยเหลือเรื่องของการฟ้องชู้ เพราะตนต้องการดูแลบุตรแต่เพียงผู้เดียวอีกทั้งชายคนที่ 5 มีพฤติกรรมข่มขู่อ้างว่ารู้จักกับคนใหญ่คนโตซึ่งตนเองก็กลัวเรื่องความไม่ปลอดภัย

นอกจากนี้ จากการถาม พ่อตา แม่ยาย บอกว่า ล่าสุด พ่อตาแม่ยายได้คุยกับลูกสาว ลูกสาวต้องการเลิกกับชายคนที่5 และนายเอ อยากเป็นอิสระกับทุกคน และออกมาเลี้ยงลูกคนเดียว และที่ตนเองออกมาร้องสายไหมพร้อมกับลูกเขยเพราะสงสารหลาน และสงสารลูกเขย

พ่อตา เล่าว่า ตนเองไม่ทราบว่าลูกสาวไปรู้จักยังไงกับชายคนที่ 5 แต่เท่าที่รู้คือ ตอนนั้นลูกสาวอยากฟ้องหย่ากับลูกเขย จึงไปปรึกษาทนาย และหลังจากนั้นก็อะไรยังไงตนก็ไม่ทราบ และมารู้ทีหลังว่า ลูกสาวไปเที่ยวและคบหากับคนที่เป็นทนายความ และออกไปอยู่ด้วยกัน และกีดกันทุกคนไม่ให้ไปยุ่ง บอกอย่ายุ่งกับครอบครัวใหม่ของเธอ และไม่ให้เจอกับหลาน ตนในฐานะคนที่เลี้ยงหลานมาตั้งแต่เกิด เลี้ยงมาร่วมกับพ่อของหลานก็รู้สึกสงสารไปช่วยกันตามหา

จนกระทั่ง 24 สิงหาคม ที่ผ่านมา ลูกสาวโทรมาบอกว่าถูกทำร้าย และอยากให้พ่อไปช่วย ตนและลูกเขย จึงรีบพยายามติดต่อกับตำรวจ สภ.บางไทร ให้เข้าไปช่วยคุย สุดท้ายชายชู้ ก็ปล่อยลูกสาว และหลานออกมา จึงไปลงบันทึกประจำวันไว้ และหลังจากที่ลูกสาวกลับมาอยู่บ้านชายคนนั้นก็พยายามมาดักรอ ซึ่งเธอก็กลัว และมีการพูดข่มขู่พ่อแม่ของเธอด้วย

ด้าน นายเอกภพ บอกว่าหลังจากนี้ จะประสานไปยัง สน.และ สภ.ที่มีการฟ้องดำเนินคดีต่างๆไว้ และจะประสานทนายความเรื่องฟ้องชู้ให้กับผู้ร้องด้วยและจะไปคุยกับพรรคการเมือง ที่ชายคนที่ 5 ทำงานเป็นอนุกรรมธิการว่า รับคนแบบนี้อยู่ในพรรคได้อย่างไร มีพฤติกรรมข่มขู่แบบนี้ รวมถึงจะพาผู้เสียหายไปเข้ากระบวนการคุ้มครองพยานที่กระทรวงยุติธรรม