22 สิงหาคม 2567 เพจเฟซบุ๊ก "กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ดุหยง" ซึ่งเป็นเครือข่ายอาสาสมัครอนุรักษ์พะยูน พื้นที่เกาะลิบง ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นแหล่งอาศัย หรือเมืองหลวง ของพะยูนฝูงใหญ่ของประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความ พร้อมแนบหลักฐานภาพถ่ายพะยูนตัวที่เก็บข้อมูลไว้จากการบินสำรวจที่เกาะลิบง โดยระบุว่า
"หลังจากที่ได้เห็นภาพพะยูนจากคลิปที่ท่าเรือหาดราไวย์ จ.ภูเก็ต และเปิดดูหลายรอบ และจากภาพจำจนชินตา และค่อนข้างคุ้นเคย พบว่า จากตำหนิรูปพรรณบริเวณแผ่นหลังสีขาวขนาดใหญ่ ลักษณะท่าทางการว่ายน้ำ รูปร่าง ลีลา จังหวะการขึ้นมาหายใจ ท่วงท่าที่คุ้นเคย และดูย้อนภาพเก่าทั้งวิดิโอและรูปมาเทียบเคียงดู เชื่อว่า พะยูนที่พบที่ท่าเรือราไวย์ จ.ภูเก็ต คือ "เจ้าหลังขาว…แห่งเขาบาตู" (เขาบาตูปูเต๊ะ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ) ที่เราเคยถ่ายได้ในแต่ละครั้ง
ล่าสุด เราถ่ายภาพเจ้าหลังขาว วันที่ 22 มี.ค. 2567 หลังจากนั้นเราไม่เจอน้องอีกเลยเป็นระยะเวลา 4 เดือนกว่าแล้ว เผื่อเป็นข้อมูลให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบได้บ้าง โดยที่ผ่านมา ปกติ หากอากาศดี เราจะบินเดือนละ 2-3 ครั้ง โดยชื่อพะยูนบนเกาะลิบงที่เราคุ้นเคย และตั้งชื่อให้ มี 4 ตัว คือ
ทั้ง 4 ตัวจะมีลักษณะรูปร่างจำเพาะ ลักษณะการว่ายน้ำ ท่วงท่า ลีลา การขึ้นลงหายใจจะไม่เหมือนกัน และจะเจอเฉพาะที่ของแต่ละตัว โดยที่ผ่านมา พวกเราได้มีวิธีการเก็บข้อมูลในการสังเกต เก็บข้อมูล รูปภาพ ที่พอเป็นประโยชน์ ที่สำคัญเราได้มีความผูกพันกับพะยูนมากยิ่งขึ้นไปอีก
พร้อมส่งสารจากเกาะลิบง..ถึงภูเก็ต ฉายาน้องคือ เจ้าหลังขาว…แห่งเขาบาตู..น้องอพยพไปไกลมาก เห็นแล้วอดใจหายไม่ได้ น้ำตาพาลจะไหล จำรอยข้างหลังได้อย่างแม่นยำ ลายไม่เหมือนตัวอื่นๆที่เจอ คนเกาะลิบงจะจำมันได้ การว่ายน้ำ รูปร่าง ลักษณะการขึ้นมาหายใจ จำมันได้ชัดเจน บินกี่รอบก็มาให้เจอน้องทุกรอบ ไม่ไปไหน ถึงคราวนี้เดินทางไปไกลแสนไกล ว่าทำไม 4 เดือนแล้วบินกี่รอบก็ไม่เคยเห็นเจ้าหลังขาวเลย
น้องเป็นตัวที่ไม่ค่อยกลัวเสียงเรือ ต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง..คิดถึงนะ…ขอให้รอดปลอดภัย..หญ้าทะเลลิบงฟื้นคืนเมื่อไหร่..คนลิบงยังคิดถึงเจ้าเสมอนะ…ฝากคนภูเก็ตดูแลน้องหลังขาวด้วยนะ"
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของหญ้าทะเลได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้างในหลายจังหวัด ทั้ง จ.ตรัง, จ.กระบี่ ,จ.พังงา และจ.ภูเก็ต ทำให้พะยูนมีการว่ายน้ำหาแหล่งหญ้า จึงมีโอกาสเข้าใกล้เรือ และเข้าใกล้คนมากขึ้น จึงขอให้พี่น้องชาวประมง เรือทุกชนิด ประชาชนและนักท่องเที่ยวช่วยกันระมัดระวังทั้งเครื่องมือประมง และอุบัติเหตุจากเรือ และช่วยกันสอดส่อง เพื่อความปลอดภัยของสัตว์ทะเลหายากของไทยเรา
อัปเดตอาการพะยูนน้อยพลัดหลงแม่
ส่วนการอนุบาลน้องพะยูน เพศผู้ อายุ 2 เดือนเศษ ที่อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ที่ รพ.สัตว์น้ำราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง ผ่านมาแล้ว 13 วัน เจ้าหน้าที่ก็ยังดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พบว่าสุขภาพแข็งแรงขึ้นตามลำดับ น้ำหนักตัว 15.95 กก. จากวันแรกที่พบ 10 ส.ค.น้ำหนักเพียง 13.8 กก.เท่านั้น การขับถ่ายและลักษณะอุจจาระอยู่ในเกณฑ์ปกติ สัตว์แพทย์ยังคงปรับสูตรนมรายวัน เพื่อให้น้องได้พลังงานที่เพียงพอต่อความต้องการ และหญ้าบดละเอียด เพราะน้องยังกินหญ้าไม่เป็น
แต่ขณะดำน้ำที่ก้นบ่อ พบว่ามีการพยายามใช้ปากขยับถูไปกับพื้นบ่อ เหมือนสัญชาติญาณในการกินหญ้าทะเลที่พื้น และนอนมากในแต่ละวัน โดยทางเจ้าหน้าที่และทีมสัตวแพทย์ยังคงติดตามสังเกตพฤติกรรมของน้องอย่างใกล้ชิด พร้อมประกาศรับสมัครอาสาสมัครที่จะมาช่วยเสริมการทำงานของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากต้องจัดเวรหมุนเวียนทำงานต่อเนื่องตลอด 24 ชม.ต่อไป
ขอบคุณภาพและข้อมูลบางส่วนจาก : เพจเฟซบุ๊ก กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ดุหยง