8 ธันวาคม 2566 จากกรณีการจากไปของ หมอกฤตไท ธนสมบัติกุล ผู้เขียนหนังสือ "สู้ดิวะ" อาจารย์ประจำศูนย์ระบาดวิทยาคลินิกและสถิติศาสตร์คลินิก ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เจ้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจ "สู้ดิวะ" ได้เสียชีวิตจากมะเร็งปอด เมื่อวันที่ 5ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่ามาสาเหตุมาจาก ฝุ่นPM2.5 ในจังหวัดเชียงใหม่ และเป็นปัญหาใหญ่ด้านสิ่งแวดล้อม
ต่อมา "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้โพสต์ข้อความแสดงความเสียใจ ในเพจเฟซบุ๊ก "เศรษฐา ทวีสิน - Srettha Thavisin" มีรายละเอียดว่า
ผมทราบข่าวการจากไปของคุณหมอกฤตไทเมื่อวานนี้ ผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคุณหมอด้วยครับ
ผมเข้าไปอ่านเพจ #สู้ดิวะ ของคุณหมอด้วยความรู้สึกหลายอย่าง สะเทือนใจที่คุณหมอต้องเป็นมะเร็งปอดทั้งที่ไม่สูบบุหรี่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ขณะเดียวกันแม้คุณหมอจะป่วย แต่คุณหมอกลับสามารถส่งแรงบันดาลใจและพลังใจให้กับคนที่ติดตามเพจ เตือนให้เราเห็นคุณค่าของทุกนาทีของชีวิตเรา เตือนให้เราเห็นค่าของทุกนาทีที่เรามีให้กับคนที่เรารัก
ในฐานะนายกรัฐมนตรี ปฎิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้ทำให้ผมตระหนักถึงปัญหา pm 2.5 ซึ่งไม่ใช่ปัญหาที่แก้ได้ง่าย คนไทยได้รับผลกระทบจากปัญหา pm 2.5 ไม่ใช่แค่มลพิษ แต่คือปัญหาสุขภาพที่พรากชีวิตคนที่เรารักไปก่อนเวลาอันสมควร ดังนั้น ผมจะสู้ให้เต็มที่ ร่วมกันผลักดัน พรบ.อากาศสะอาด เพราะอากาศสะอาดต้องเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของเราทุกคน
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวคุณหมอกฤตไทอีกครั้งครับ
ล่าสุด นายไทภัทร ธนสมบัติกุล คุณพ่อของหมอกฤตไท ธนสมบัติกุล ได้เข้ามาตอบกลับในช่องแสดงความคิดเห็น ว่า..
ครอบครัวเรา ขอกราบขอบคุณในน้ำใจของท่านนายกรัฐมนตรี ด้วยจิตคารวะอย่างสูง ครับ
ในฐานะ “พ่อ” เราอยากให้ลูกมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีโอกาสเรียนรู้พัฒนาตนเอง อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี เพื่อจะเติบโตขึ้นเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศ
ใช่ครับ ! แม้ปัญหา pm2.5 จะแก้ได้ไม่ง่ายนัก แต่เราจะไม่ย่อท้อ เราจะ #สู้ดิวะ เราจะร่วมมือป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อให้มีอากาศที่สะอาดให้เราและลูกได้ใช้หายใจร่วมกัน
ขอกราบขอบคุณในความตั้งใจทำงานของท่านนายกรัฐมนตรี และทีมงาน อีกครั้ง
ท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจและเป็นแนวร่วมแถวหน้า ด้วยครับ
ในเวลาต่อมา นายเศรษฐา ได้เข้ามาตอบกลับ นายไทภัทร ว่า..
ขอบพระคุณครับ
ผมเข้าใจหัวใจของพ่อที่อยากเห็นลูกเติบโต มีอนาคตที่ดี และทำประโยชน์ให้กับสังคม ผมรับรู้ได้ถึงความสูญเสียครั้งนี้ ขอแสดงความเสียใจและส่งพลังใจให้อีกครั้งหนึ่งครับ
หัวใจของพ่อที่มีต่อลูก และการสูญเสียในครั้งนี้ จะเป็นสิ่งเตือนใจให้ผมผลักดันวาระการแก้ไขปัญหา pm. 2.5 อย่างเต็มกำลังความสามารถของผม
เพื่อลมหายใจของพวกเรา ลูกหลานของเราครับ
จากนั้น นายไทภัทร ได้เข้ามา ขอบคุณนายเศรษฐา ว่า "ลูกหลานเรา จะขอบคุณและสำนึกในผลงานของ ท่านนายก เศรษฐา และทีมงาน ที่ตั้งใจทุ่มเทสรรพกำลัง เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่เรา ขอกราบขอบคุณ ด้วยจิตคารวะอย่างสูง อีกครั้งครับ"
ทั้งนี้ ในโพสต์ของ นายเศษฐา ยังได้มีชาวโซเชียลได้มาคอมเมนต์ อย่างมากมาย ทั้งแสดงความเสียใจกับครอบครัว "หมอกฤตไท" อยากให้รัฐบาลเอาจริงเอาจังในการแก้ไขปัญหา PM2.5 อย่างเร่งด่วน และหลายรายเสนอแนวคิดในการแก้ไขปัญหา PM2.5 อาทิเช่น