หลังก่อนหน้านี้ โพสต์รัวๆ แทบไม่ยั้งประเด็น บั้งไฟพญานาค
โพสต์ล่าสุดในวันนี้ "อ.เจษฎ์" คนดังในข่าว ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ได้ออกมาย้ำเตือนประชาชน สืบเนื่องจากกรณี หมอไท หรือ "หมอกฤตไท" เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "สู้ดิวะ" ที่คุณหมอไท กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็ง ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ทั้งๆ ที่อายุยังน้อย ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่ง คงจะหนีไม่พ้นจากผลกระทบภาวะมลพิษทางอากาศ ฝุ่นพิษ PM2.5
โดยในโพสต์ อ.เจษฎ์ หรือ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ระบุว่า
ต้องขอแสดงความเสียใจ และขอให้กำลังใจกับคุณหมออย่างเต็มที่ด้วย
เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์เกี่ยวกับสภาพอากาศในบ้านเราได้ดีเลยทีเดียว ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของคนไทย อย่างคุณหมออยู่ที่เชียงใหม่ ซึ่งเราเคยคิดว่าเชียงใหม่น่าจะอากาศดี
แต่ตอนนี้เราก็รู้ว่าเชียงใหม่มีปัญหาด้านมลพิษทางอากาศ เรื่องฝุ่นควันค่อนข้างรุนแรง และเป็นตลอดทั้งปี แม้ว่าจะออกกำลังกาย ร่างกายเข้มแข็ง ดูเป็นคนหนุ่มสาว แต่ก็มีโอกาสเสี่ยงจะทำให้ป่วยหนักได้
ผลกระทบจากเรื่องมลพิษทางอากาศ ผู้ใหญ่เอง ก็สามารถเกิดได้เช่นกัน ทุกเพศทุกวัย
ได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด อาจจะเกิดปัญหาที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควร
มีปัญหาเรื่องสุขภาพ สุภาพหัวใจ โรคที่เกี่ยวกับสมองขาดเลือด สโตรก สุขภาพทางด้านระบบทางเดินหายใจแน่นอน
เรื่องของโรคมะเร็ง เกี่ยวกับปอด และ โรคเรื้อรังอื่น ๆ รวมทั้งสุขภาพจิตก็มีปัญหาได้
จริง ๆ แล้วผลกระทบเรื่องพวกนี้ มันคือเกี่ยวกับเรื่องของมลพิษทางอากาศได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ฝุ่น PM2.5 หรือ ไม่ว่าจะเป็น ก๊าซพิษในอากาศ ไนโตรเจนไดออกไซด์ เป็นผลของการที่ใช้รถยนต์ ยานพาหนะ แม้แต่ก๊าซโอโซน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเข้าใจผิดว่าเป็นอากาศที่ดี แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ มันเป็นก๊าซพิษ ซึ่งเป็นผลกระทบอย่างหนึ่ง ที่มาจากเรื่องของอุตสาหกรรม เรื่องเหล่านี้ ชัดเจนว่าส่งผลต่อสุขภาพมาก ๆ
หลายคนบอกว่า ไม่ได้สูบบุหรี่ รักษาสุขภาพมาตลอด
มีคำถามว่า ทำไมถึงเป็นมะเร็งปอด
ส่วนหนึ่งก็เพราะตัวมลพิษในอากาศ มันเข้าไปและไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในเนื้อเยื่อในปอดได้ ยิ่งใครมีพันธุกรรม ที่มีความเสี่ยงสูงที่ทำให้เกิดมะเร็ง...ก็ยิ่งมีโอกาสเป็นมากขึ้น
ก็คงต้องทั้ง 2 ทาง
ช่วยกันทำยังไงให้มลพิษทางอากาศน้อยลง การเผาไหม้ทางการเกษตรให้มีความจำกัดมากขึ้น การใช้ยานพาหนะ เชื้อเพลิงต่าง ๆ ลดน้อยลง อาจจะมุ่งไปที่เรื่องของไฟฟ้ามากขึ้น และอาจจะป้องกันตนเองด้วย มีความตระหนักว่ามันมีอันตรายนะ ไม่ใช่ว่าแค่สูดดมธรรมดาก็อยู่ได้ ต้องรู้ว่าต้องจัดการยังไง การใช้หน้ากากอนามัย การใช้เครื่องฟอกอากาศ ให้รู้ว่ามันเป็นเรื่องที่จำเป็นแล้วครับ
ส่องโพสต์ล่าสุด อ.เจษฎ์ เมื่อ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา
"เมื่อเช้านี้ แค่หมอกลงจัดครับ ไม่ใช่ฝุ่นปกคลุมเมือง"
หลายท่านแจ้งข่าวเข้ามา ว่าเมื่อเช้านี้ อากาศแย่มาก เห็นเป็นหมอกควันเต็มไปหมด โดยเฉพาะทางฝั่งธน พุทธมณฑล ฯลฯ เกรงว่าจะเกิดปัญหามลพิษอากาศร้ายแรงหรือเปล่า (ดูภาพประกอบ)
แต่เท่าที่เช็คข้อมูลมา มันเป็น "หมอกไอน้ำ" ครับ มีความชื้นในอากาศสูงครับ ไม่ใช่ฝุ่นควัน PM2.5 ปิดเมืองหรือมลพิษอะไรทำนองนั้น
ส่วนค่าปริมาณฝุ่น PM 2.5 จากการวัดของกรมควบคุมมลพิษ อยู่ที่ 36 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์คุณภาพปานกลาง ตามมาตรฐานใหม่ (ที่เข้มขึ้นในปีนี้)
แต่ๆๆ ก็อย่าประมาทนะครับ นี่ก็ใกล้หมดฤดูฝนแล้ว (ปีนี้หมดช้า) และเมื่อเข้าฤดูหนาว อากาศปิด ฝุ่น PM2.5 กลับมาหนักแน่นอน .. ใครจะตุนเครื่องฟอกอากาศ หน้ากากอนามัย เปลี่ยนแผ่นฟิลเตอร์เครื่องฟอก รีบทำตอนนี้ ราคายังไม่แพงครับ
ดูรายงานข่าวเช้านี้นะครับ จาก https://mgronline.com/onlinesection/detail/9660000101067
---------------------
(รายงานข่าว) ช้านี้พุทธมณฑลสาย 1 หมอกลงจัด วัด PM 2.5 ส่งผลกระทบปานกลาง
บรรยากาศบริเวณพุทธมณฑลสาย 1 เต็มไปด้วยหมอกและฝุ่นจิ๋วจำนวนมาก รถประชาชนสัญจรลำบาก ต้องเปิดไฟหน้าและชะลอความเร็วเนื่องจากทัศนียภาพไม่ปลอดภัย เผยเริ่มมีอากาศเย็นปกคลุมในพื้นที่
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 10 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณถนนพระเทพ (พรานนก-พุทธมณฑล สาย 4) ช่วงตั้งแต่แยกไฟฉาย ถึงพุทธมณฑลสาย 1 ตัดออกถนนราชพฤกษ์ ว่า เต็มไปด้วยหมอกและฝุ่นจำนวนมาก รถประชาชนสัญจรลำบากต้องเปิดไฟหน้าและชะลอความเร็วเนื่องจากทัศนียภาพไม่ปลอดภัย ประกอบกับเริ่มมีอากาศเย็นปกคลุมในพื้นที่
ทั้งนี้ เว็บไซต์ Air4Thai ของกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ มีรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณริมถนนพุทธมณฑล สาย 1 เขตตลิ่งชัน, กรุงเทพฯ พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) มีค่า 36 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์คุณภาพปานกลาง
โดยมีข้อแนะนำด้านสุขภาพ คือ ประชาชนทั่วไปสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ตามปกติ ขณะที่ประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก คนชรา หญิงมีครรภ์ ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวในกลุ่มโรคทางเดินหายใจ และโรคหัวใจและหลอดเลือดควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง