svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

'ท่านอ้น' เปิดใจสื่อดัง 'เหมือนฝันที่เป็นจริง' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

ท่านอ้น วัชเรศร วิวัชรวงศ์ เปิดใจสื่อต่างประเทศ เผย “รู้สึกเหมือนฝันที่เป็นจริง” หลังได้กลับประเทศไทยครั้งแรกในรอบ 27 ปี ท่ามกลางประชาชนชาวไทย ที่สุดแสนยินดีในการเดินทางกลับมาแผ่นดินไทยครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน ในวันนี้ (8 ส.ค.2566) ระบุว่า

ท่านอ้น หรือ วัชเรศร วิวัชรวงศ์ โอรสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เดินทางกลับไทยครั้งแรกในรอบ 27 ปี และแวะเยี่ยมเด็กเล็กที่มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

“ผมรู้สึกดีใจที่ได้กลับไทย ผมจากประเทศนี้มานาน 27 ปี มันเหมือนฝันที่เป็นจริงที่ได้กลับมา”

ท่านอ้น เผยกับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ระหว่างเยี่ยมเด็กเล็กที่มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ ในวันนี้

ท่านอ้น ในวัย 42 ปี เดินทางกลับถึงไทยเมื่อคืนวันที่ 6 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ต่อมาโลกออนไลน์พร้อมใจแชร์คลิปวิดีโอขณะ ท่านอ้น วัชเรศร วิวัชรวงศ์ ออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีประชาชนที่ทราบข่าวบันทึกภาพไว้

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

 

ท่านอ้น วัชเรศร วิวัชรวงศ์ โอรสพระองค์ที่ ๒ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๑๐ โดยปัจจุบันพำนักอยู่ที่ประเทศสหรัฐ และทำงานที่บริษัทกฎหมายแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์ก

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

สำหรับการมาเยือนไทยครั้งนี้ ท่านอ้น เดินทางไปสถานที่สำคัญหลายแห่งในกรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. 2566 อาทิ สักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดอรุณราชวราราม โดยมีประชาชนที่ทราบข่าว ขอถ่ายภาพกับท่านอ้น ซึ่งท่านอ้นก็ถ่ายรูปร่วมกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะแวะรับประทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายโส่ย ย่านท่าพระอาทิตย์อีกด้วย

ชมคลิป >> ฝันที่เป็นจริง "ท่านอ้น" 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

ประวัติท่านอ้น-วัชเรศร วิวัชรวงศ์ เป็นโอรสพระองค์ที่ 2 ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวง ร.10 

ชวนคนไทยมาร่วมเปิดประวัติ ท่านชายวัชเรศร วิวัชรวงศ์ หรือ "ท่านอ้น" พระราชโอรสพระองค์ที่ 2 ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

ท่านอ้น หรือ ท่านชายวัชเรศร วิวัชรวงศ์ ประสูติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2524 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 2 ในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติแต่ สุจาริณี วิวัชรวงศ์ ทรงเป็นพระเชษฐาใน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา และเป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ปัจจุบันท่านอ้น พำนักอยู่ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา 

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

เมื่อแรกประสูติ ท่านอ้น มีพระยศที่ “หม่อมเจ้า” พระนามว่า หม่อมเจ้าวัชเรศร มหิดล มีพระโสทรเชษฐาและกนิษฐา รวม 4 องค์ ได้แก่ จุฑาวัชร วิวัชรวงศ์, จักรีวัชร วิวัชรวงศ์, วัชรวีร์ วิวัชรวงศ์ และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา

ท่านอ้น หรือ ท่านชายวัชเรศร ทรงศึกษาที่โรงเรียนอนุบาลจุไรรัตน์ จากนั้นทรงศึกษาต่อที่โรงเรียนจิตรลดา จนกระทั่งช่วงเวลาที่บินไปพำนักที่สหรัฐอเมริกา ทรงศึกษาต่อที่ Trinity Preparatory School ประเทศสหรัฐอเมริกา ในระดับปริญญาตรี ท่านอ้นทรงสำเร็จการศึกษาในสาขานิติศาสตร์ จาก Stetson University College of Law ประเทศสหรัฐอเมริกา และทรงศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ในสาขานิติศาสตร์ จาก Stetson University College of Law ประเทศสหรัฐอเมริกา

วัชเรศร เคยเป็นนักรักบี้ของโรงเรียนมัธยมฮาร์โรว์ที่อังกฤษ และได้ลงแข่งให้ทีมมหาวิทยาลัยสเต็ตสันที่สหรัฐฯ ด้วย

ปัจจุบัน วัชเรศร ทำงานกับบริษัทที่ปรึกษากฎหมาย แมนีย์ กอร์ดอน เซลเลอร์ (Maney Gordon Zeller, P.A.) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองแทมปา รัฐฟลอริดา โดยท่านชายวัชเรศร หรือ ท่านอ้น มีกำหนดการอยู่ในประเทศไทย 1 สัปดาห์

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี
ท่านอ้น วัชเรศร วิวัชรวงศ์ เป็นผู้ที่มีจิตใจเมตตาทำงานด้านสาธารณกุศลและงานด้านส่งเสริมพระพุทธศาสนา ตั้งกฐิน ปฏิบัติธรรมเจริญจิตภาวนา ในสหรัฐอเมริกาและประเทศต่างๆ อาทิ ตั้งกองทุนการศึกษา Thai Heritage Scholarship Fund of New York สำหรับนักเรียนไทยในนครนิวยอร์ก อุปสมบทถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง รัชกาลที่ ๙ เป็นประธานทอดกฐินสามัคคี เนื่องในโอกาสครบรอบ 17 ปี ของสมาคมรวมไทย ประเทศฮ่องกง

นอกจากนี้ ท่านอ้น ได้พบปะกลุ่มคนไทยที่พำนักในสหรัฐอเมริกา รวมทั้งคณะคนไทยที่เดินทางไปสหรัฐอเมริกาอยู่เสมอ ดังปรากฏภาพจากกองประกวด Miss Universe Thailand เผยแพร่ภาพเหล่าสาวงาม นำโดยแอนนา เสืองามเอี่ยม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 มานิต้า ดวงคำ ฟาร์เมอร์ เจ้าของตำแหน่งนางสาวไทย 2565 โอปอล สุชาตา ช่วงศรี รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 และเรเน่ เวโรนิก้า ปากาโน่ รองอันดับ 4 มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 เดินทางไปร่วมงานแฟชั่นวีค NeoRama by TPN Global และงานแฟชั่นโชว์ New York Fashion Week 2022 ที่มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 5-18 กันยายน 2565

ทั้งนี้ ในระหว่างปฏิบัติภารกิจดังกล่าวของเหล่าสาวงามและกองประกวด Miss Universe Thailand แวะรับประทานอาหารไทยในนิวยอร์ก ทำให้ได้พบกับท่านอ้น วัชรเรศร และร่วมถ่ายภาพ ณ ร้านอาหารไทย เป็นที่ระลึก

ปัจจุบัน ท่านอ้น วัชเรศร ทรงงานเป็นที่ปรึกษากฎหมาย บริษัท แมนีย์ แอนด์ กอร์ดอน (Maney & Gordon, P.A., Tampa) โดยทรงพำนักอยู่กับ พระมารดา พระเชษฐา และพระอนุชา ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

ย้อนทุกความประทับใจในหัวใจคนไทยอีกครั้ง

เมื่อวานนี้ 8 สิงหาคม 2566 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า "ท่านอ้น" วัชเรศร วิวัชรวงศ์ เดินทางมาเยี่ยมเด็กเล็กที่มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัม ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

โอกาสนี้ ท่านอ้น ทักทายพูดคุยกับเด็ก ๆ ซึ่งอยู่ในระหว่างรับประทานอาหารมื้อเที่ยงอย่างเป็นกันเอง  อีกทั้งนำอาหารและสิ่งของ อาทิ ข้าวสาร แพมเพิส กระดาษชำระ และของใช้สำหรับเด็ก มามอบให้แก่มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ 

ในการนี้ ท่านอ้น วัชเรศร วิวัชรวงศ์ ได้เปิดใจกับสื่อต่างประเทศว่า 

"ผมรู้สึกดีใจที่ได้กลับไทย ผมจากประเทศนี้มานาน 27 ปี มันเหมือนฝันที่เป็นจริงที่ได้กลับมา"

อีกทั้ง ยังได้เปิดเผยความรู้สึกเพิ่มเติมว่า อยากกลับมาเมืองไทยนานแล้ว มาเรียนรู้วัฒนธรรมและความเป็นอยู่แบบไทย

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี ส่วนวันนี้เดินทางมามูลนิธิฯ ก็เพื่อมาดูความเป็นอยู่ของเด็กๆ ที่นี่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ที่ได้กลับมาเมืองไทยคราวนี้ ก็ได้รับความต้อนรับอย่างอบอุ่น ตั้งแต่เครื่องลงแล้วมองจากนอกหน้าต่างเครื่องบินก็รู้สึกตื้นตันและมีสำนึกถึงพระคุณของประเทศชาติ

อยู่เมืองนอกมานาน ไม่เคยลืมเลยว่าเราเป็นคนไทย ไม่เคยลืมความสำคัญของวัฒนธรรมไทย อยู่เมืองนอกผมก็ใช้เวลาส่งเสริมวัฒนธรรมไทยเพื่อให้ฝรั่งเขารู้ว่า เรามีมรดกอันล้ำค่า เป็นสมบัติของประเทศเรา กลับมาเมืองไทยคราวนี้อยากจะหาความรู้เข้าตัวมากขึ้นเพื่อไปเผยแพร่วัฒนธรรมของเราในต่างแดนต่อไป ดีใจมากที่ได้กลับมาครับ

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี ผู้สื่อข่าว รายงานเพิ่มเติมว่า บรรยากาศที่บริเวณมูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ นั้น ทันทีที่ประชาชนในชุมชนบริเวณโดยรอบทราบข่าวว่าท่านอ้นเดินทางมาถึงมูลนิธิดังกล่าว ต่างให้ความสนใจออกมาต้อนรับเป็นจำนวนมาก พร้อมใจเปล่งเสียงทรงพระเจริญซึ่ง ท่านอ้น กล่าวว่า

อย่าใช้คำนี้ เราไม่ได้มีฐานะนั้น ไม่ต้องหมอบกราบ พร้อมกับยกมือไหว้ประชาชนอย่างนอบน้อม

ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานว่า ท่านอ้น ได้เดินทางกลับถึงไทยเมื่อคืนวันที่ 6 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา หลังโลกออนไลน์แห่แชร์คลิปวิดีโอขณะท่านอ้นออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยมีประชาชนที่ทราบข่าวบันทึกภาพไว้ 

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

สำหรับการมาเยือนไทยครั้งนี้ ท่านอ้นเดินทางไปสถานที่สำคัญหลายแห่งในกรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. 2566 อาทิ เข้าสักการะศาลหลักเมืองกรุงเทพฯ และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดอรุณราชวราราม โดยมีประชาชนที่ทราบข่าว ขอถ่ายภาพกับท่านอ้น ซึ่งท่านอ้นก็ถ่ายรูปกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง

ก่อนจะแวะรับประทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายโส่ย ย่านท่าพระอาทิตย์อีกด้วย รวมทั้งยังมีภาพท่านอ้นแต่งกายด้วยเสื้อโปโล กางเกงยีนส์ ในลุคสบายๆ เดินทางไปศาลท้าวมหาพรหม สถานที่ประดิษฐานบูชาท้าวมหาพรหมโรงแรมแกรนด์ไฮแอทเอราวัณ บริเวณสี่แยกราชประสงค์ถนนราชดำริ เพื่อกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมืองไทย ถ่ายภาพกับนางรำเป็นที่ระลึก

ขณะที่ในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว Vacharaesorn Vivacharawongse ยังได้โพสต์ภาพ "ท่านอ้น" นั่งรถตุ๊กตุ๊ก โดยมีผู้เข้ามากดไลก์ กดแชร์ และแสดงความชื่นชมยินดีกับการกลับมาเยือนไทยในครั้งนี้อย่างล้นหลาม

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง


ขอขอบคุณที่มา: ฐานเศรษฐกิจ / REUTERS
ภาพจาก Facebook : Vacharaesorn Vivacharawongse
ภาพจาก Facebook Page : Royal World Thailand–รอยัล เวิลด์ ประเทศไทย

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี \'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี \'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

สายใยรักถักทอข้ามขอบฟ้า
ท่านอ้น หรือ วัชเรศร ท่านมีความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องของ กฎหมายสิทธิมนุษยชนและกิจการผู้ลี้ภัย ทั้งยังเป็นประธานและผู้ก่อตั้งกองทุนการศึกษา Thai Heritage Scholarship Fund of New York ซึ่งมอบทุนการศึกษา “มรดกไทย” ให้กับนักเรียนไทยที่ขาดแคลน เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนไทยได้ระลึกถึงประเทศบ้านเกิดของตัวเองและทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติ

เว็บไซต์ของกองทุน ระบุว่า

ในปัจจุบันมีนักเรียนไทยในอเมริกาที่ยังขาดแคลนทุนทรัพย์ในระหว่างการศึกษาอยู่อีกเป็นจำนวนมาก และเพื่อสนองนโยบายของกองทุนที่มุ่งส่งเสริมวัฒนธรรมไทย รวมทั้งเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้กับนักเรียนไทย จึงได้จัดให้มีการรับบริจาคทุนการศึกษา โดยมีเป้าหมายที่จะมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนผู้มีความภาคภูมิใจและมีความสนใจในมรดกวัฒนธรรมไทยเป็นประจำทุกปี เพื่อใช้สำหรับการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับภาษาและวัฒนธรรมไทย

ในงานระดมทุนครั้งที่ 7 ที่ร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2562 วัชเรศร กล่าวเปิดใจกับสมาชิกชุมชนคนไทยในต่างแดนที่มาร่วมงานว่า

“มีคนหลายคนถามว่า มีแรงบันดาลใจอะไร อะไรเป็นแรงผลักดันให้เปิดไทยสกอลาร์ชิปฟันด์นะครับ... ก็มาจากประสบการณ์ของตัวเองนะฮะ เวลาเราผ่านความลำบากมาเนี่ย เราก็จะเข้าใจว่าคนอื่นที่กำลังลำบากอยู่ก็ต้องการความช่วยเหลือด้วยนะครับ”

“ผมมาอเมริกา 22 ปีที่แล้ว มีแต่คุณแม่ มีแต่น้อง ๆ มีแต่พี่ชาย ไม่รู้จักใคร ไม่มีใครอยากจะช่วยเหลือ ไม่มีทรัพยากรนะครับ มาในฐานะผู้ลี้ภัยเรฟิวจี (refugee) ไม่มีที่จะอยู่ มาในประเทศใหม่ที่ไม่รู้ภาษานะครับ เป็นเวลาที่ลำบากมาก ไม่มีทางออก ยกเว้นจะต้องช่วยเหลือตัวเอง ต้องหาความรู้เข้าตัว ต้องหาอะไรที่มาเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองให้ได้ มันไม่ใช่สิ่งที่ง่ายเลยนะครับ”

“ก็ต้องทำงานช่วยเหลือตัวเอง ต้องยืมเงินเรียนนะครับ ไม่มีค่าซื้อหนังสือก็ต้องทำงาน ผมยังจำได้งานแรกของผมเลยในอเมริกาเนี่ย ก็ไม่พ้นการทำอาหารขาย งานแรกของผมคือขายฮอตดอกที่เดย์โทนาไฟว์ฮันเดรด ที่เดย์โทนาบีชนะครับ เป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน งานที่สองคือขายเครื่องดูดฝุ่น เพราะฉะนั้นถ้าเผื่อไม่เป็นทนายเนี่ย ผมก็เป็นแม่บ้านได้ ทั้งทำความสะอาดทั้งทำอาหารนะครับ คือเวลาผ่านมากับตัวเอง แล้วได้รู้สึกประสบการณ์ชีวิตเนี่ย นับว่าชีวิตนี้เป็นครูเป็นอาจารย์จริง ๆ”

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

“ตอนสมัยอยู่เมืองไทย โตขึ้นมาในวังเนี่ย ผมไม่เคยนึกเลยว่ามหาดเล็กคนที่มาวันนี้เขาตื่นกี่โมง เขาเหนื่อยไหม เขาง่วงไหม กว่าที่เขาจะยกอาหารมาที่โต๊ะทานข้าวเนี่ย เขาเดินกี่ก้าว เขาทำช้อนหล่นไหม หรือว่าทหารตำรวจที่เดินเป็นอารักขาเนี่ย เขาต้องมาถึงที่ทำงานกี่โมง ที่บ้านเขาต้องดูแลลูกหรือเปล่า ไม่เคยนึกเลย” วัชเรศร กล่าว

“แต่ตอนมาอยู่เมืองนอกใช้ชีวิตเหมือนสามัญชน ทำให้นึกขึ้นได้ว่าต้องเอาใจเขาไปใส่ใจเรา ต้องรู้ว่าการเซอร์วิส (บริการ) คนอื่นนี่เป็นยังไง การเป็นทนายก็นับว่าเป็นเซอร์วิสอินดัสทรี (อุตสาหกรรมการบริการ) นะครับ เราก็ต้องบริการลูกค้า”

“การที่มีความรู้หรือประสบการณ์ว่า เราต้องช่วยเหลือคนอื่นหรือทำเพื่อคนอื่นเนี่ย เป็นสิ่งที่ต้องประสบกับตนเอง ไม่มีใครสอนได้ ซึ่งผมก็รู้สึกตื้นตันใจจริง ๆ ที่ชีวิตนี้มีโอกาสเรียนรู้ว่า หิวแปลว่าอะไร เหนื่อยแปลว่าอะไร การทำเพื่อคนอื่นแปลว่าอะไร”
 

วัชเรศร หรือ ท่านอ้น ยังมีบทบาทโดดเด่นในการส่งเสริมงานเผยแผ่พุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมไทยในต่างแดน โดยเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่แสดงออกถึงความสามัคคีและยึดมั่นในสถาบันที่เป็นศูนย์รวมใจของชาวไทย ทั้งในนครนิวยอร์ก นครลอสแอนเจลิส และในประเทศอื่น ๆ ซึ่งในปี 2560 วัชเรศร ยังได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ผู้เป็น “ทูลกระหม่อมปู่” ด้วย

วัชเรศร เคยกล่าวในงานระดมทุนเพื่อการศึกษาของนักเรียนไทย เมื่อปี 2562 ว่า “สังคมเราเป็นพี่น้องกัน สิ่งที่ผมไม่มีทางลืมเลยในชีวิตนี้นะฮะ ทูลกระหม่อมพ่อเคยสั่งสอนผมกับพี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนว่า เราต้องรักพี่เราต้องรักน้อง ถ้าเผื่อเราไม่รักพี่รักน้องเนี่ย จะมีใครมารักเรา สังคมนี้ก็เหมือนพี่ ๆ น้อง ๆ ผมทุกคน ผมมีพี่ชายหนึ่งคน น้องชายสองคน พี่สาวหนึ่งคน น้องสาวอีกหนึ่งคน ถึงจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทุกคนก็ต้องรักกันด้วยใจ เหมือนกับสังคมนี้”

ห่วงใยสถานการณ์ในประเทศไทย

แม้ตัวจะอยู่ต่างแดน แต่ วัชเรศร ก็ได้เฝ้าติดตาม สถานการณ์ในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด และได้ส่งข้อความแสดงความห่วงใยประชาชนชาวไทยอยู่เสมอ เช่น ในวิกฤตการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 วัชเรศร หรือ ท่านอ้น ได้ลงคลิปวิดีโอในหน้าเฟซบุ๊ก Vacharaesorn Vivacharawongse เมื่อวันที่ 4 เม.ย. 2563 ซึ่งเขากล่าวในคลิปวิดีโอดังกล่าวว่า

“ในเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่รัฐบาลควรจะให้ข้อมูลสำคัญกับประชาชน มีความโปร่งใสและก็นึกถึงประชาชน ควรจะมีนโยบายต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือประชาชนที่เสียรายได้ ที่ตกงาน และช่วยเหลือธุรกิจต่าง ๆ ให้กลับมาได้ หลังจากโรคร้ายนี้ไปแล้ว”

“ในการนี้ พวกเราทุกคนก็ทำตัวให้เป็นประโยชน์ได้กับสังคม การที่เราไม่ออกไปข้างนอก เก็บตัว และทำตามนโยบายของรัฐบาลนั้น ก็เป็นการละทิ้งในสิทธิส่วนบุคคลของเราเพื่อส่วนรวม ขอให้ทางรัฐบาลและข้าราชการทุกท่านจงซาบซึ้งว่า สิ่งที่ท่านได้รับจากประชาชนนั้นมีคุณค่า และตอบสนองประชาชนด้วยนโยบายและการปฏิบัติ ที่จะตอบสนองความเชื่อมั่นและความเสียสละจากประชาชนด้วย”

“ผมก็เข้าใจว่าช่วงนี้เป็นเวลาที่เราจะหวาดเกรง ตัวผมเองก็เป็นคนที่ทำงานเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่มาประเทศนี้ ก็เข้าใจว่าการที่เราไม่มีงานทำหรือการที่เราเสียรายได้ มันเป็นสิ่งที่น่ากลัว และผมก็มีความเชื่อว่า ประชาชนชาวไทยทุกคนเป็นผู้แข็งแกร่ง ทำงานด้วยกันได้ และจะประสบผลสำเร็จ”

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

นอกจากนี้ วัชเรศร ยังได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย โดยเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2566 เขาได้โพสต์ภาพและข้อความทางเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการพบปะนายคริสเตียน วูล์ฟ (Christian Wulff) อดีตประธานาธิบดีเยอรมนี ผู้มีบทบาทอย่างสูงในการให้ความช่วยเหลือผู้อพยพลี้ภัย ทั้งเคยเป็นผู้แทนของเยอรมนีเข้าร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9

วัชเรศร บอกว่านายวูล์ฟ

“หวังว่าผลการจัดตั้งรัฐบาลของประเทศไทยจะเป็นที่พึงพอใจ และเคารพการตัดสินใจของประชาชนคนไทย”

ก่อนหน้านั้นในวันที่ 10 ก.ค. 2566 วัชเรศร ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ทั่วโลกกำลังจับตามองประเทศไทย อยากจะให้ประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลายมองเห็นว่ากฎหมายและความยุติธรรมเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในประเทศไทย” พร้อมกับลงข้อความบางส่วนจากนิตยสาร The Economist ซึ่งเขียนวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นสมาชิกวุฒิสภาใช้สิทธิออกเสียงคัดค้าน เพื่อยับยั้งการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลที่ชนะการเลือกตั้ง

เนื้อหาบางตอนจาก The Economist ที่ท่านอ้น วัชเรศร นำมาเผยแพร่ต่อ ชี้ว่า

“การกระทำของบรรดา ส.ว.เป็นเรื่องวู่วามและเป็นสิ่งที่ผิด เพราะไม่ช้าก็เร็วระบอบประชาธิปไตยของไทยจะต้องฟื้นคืนกลับมาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ การสกัดกั้นกระแสประชาธิปไตยนั้น เสี่ยงจะทำให้เกิดความวุ่นวายในช่วงเปลี่ยนผ่าน เพราะความโกรธแค้นที่ชาวไทยแสดงออกผ่านการเลือกตั้ง จะแปรรูปกลายเป็นการแสดงออกด้วยความรุนแรงบนท้องถนนแทน”

ขณะที่สำนักพระราชวังยังไม่แสดงความเห็นต่อการเดินทางกลับไทยของ "ท่านอ้น"

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี

\'ท่านอ้น\' เปิดใจสื่อดัง \'เหมือนฝันที่เป็นจริง\' ได้กลับไทยครั้งแรก ในรอบ 27 ปี