svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"ชัชชาติ" เร่งตรวจสอบเหตุ "ไฟไหม้โรงแรม" ย่านข้าวสาร

"ชัชชาติ"เร่งตรวจสอบเหตุไฟไหม้ "โรงแรมใกล้ ย่านข้าวสาร" เบื้องต้นพบได้มาตรฐานการหนีไฟ ส่วนอาคาร ไม่เข้าเกณฑ์ที่จะติดตั้งสปริงเกอร์

จากกรณีเกิดเพลิงไหม้ที่โรงแรมดิเอมเบอร์ ถนนตานี แขวงตลาดยอด เขตพระนคร เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย โดยเป็นผู้เสียชีวิตในห้องพักชั้น 5 ที่เกิดเหตุ 1 ราย และผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลอีก 2 ราย เมื่อกลางดึกวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา

30 ธันวาคม 2567 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากทม. พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่ากทม. นายโกศล สิงหนาท ผอ.เขตพระนคร ฝ่ายวิศวกรโยธากรุงเทพ พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารที่เกิดเหตุ

นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้นเพลิงคาดว่ามาจากชั้น 5 ห้องหมายเลข 511 แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้แน่ชัด เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบ พบว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารดัดแปลงจำนวน 11 ห้องแถว พื้นที่รวมประมาณ 1,500 ตารางเมตร มีการขอยื่นใบอนุญาตเมื่อปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 แล้วเปิดบริการให้บริการ เดือน เม.ย.65

 

ซึ่งจากการตรวจสอบทางหนีไฟเบื้องต้น พบว่ามีทางหนีไฟ 2 จุด มีถังดับเพลิงติดตั้ง ตามจุดต่างๆครบถ้วน แต่อาคารหลังนี้ไม่เข้าเกณฑ์ที่จะติดตั้งสปริงเกอร์ เนื่องจากเป็นอาคารขนาดไม่ใหญ่มาก ส่วนสัญญาณเตือนต่างๆติดตั้งได้มาตรฐาน  แต่อย่างไรก็ตามสาเหตุเพลิงไหม้ต้องรอความชัดเจนจากฝั่งวิศวกรและพิสูจน์หลักฐานถึงสาเหตุเพลิงไหม้ที่แน่ชัด สำหรับยอดผู้เสียชีวิตยืนยันอยู่ที่ 3 ราย เป็นผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เพศหญิง สัญชาติบราซิล เพิ่งถูกแฟนขอแต่งงาน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วและเดินทางมาเที่ยวด้วยกันแต่แฟนหนุ่มรอดชีวิต และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 2 ราย เป็นเพศชายทั้งคู่ เสียชีวิตที่วชิรพยาบาลและโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์

 

ส่วนยอดผู้บาดเจ็บเบื้องต้นมีทั้งหมด 5 ราย แบ่งเป็นบาดเจ็บเล็กน้อย 1 ราย เพศชาย ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เป็นชาย 1 ราย สัญชาติแคนาดากระดูกซี่โครงหัก หญิง 1 รายมีอาการสำลักควัน ทั้งคู่นำส่งโรงพยาบาลกลาง  และได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย เป็นชาย 1 ราย ส่งโรงพยาบาลกลาง กับหญิง 1 ราย ส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว 

 

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์เมื่อคืน มีผู้เข้าพัก 75 คน หนีขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า 34 คน ทาง กทม. ใช้รถกระเช้าช่วยลงมาได้ ส่วนผู้รอดชีวิตที่เหลือที่พักชั้นล่างหนีออกมาทางปกติได้ทัน นอกจากนี้ตนยังเน้นย้ำในเรื่องมาตรการการรักษาความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นอาคารโรงแรมหรืออาคารพานิชย์ต่างๆรวมถึงร้านอาหารร้านค้ายิ่งในช่วงใกล้เทศกาลส่งท้ายปีเก่าที่อาจจะต้องมีการเฉลิมฉลองขอให้ทางผู้ประกอบการเจ้าของธุรกิจตรวจสอบในเรื่องของความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะแรกที่จะสามารถเรียกความเชื่อมั่น ต้องให้ผู้ประกอบการไปตรวจสอบในเรื่องของสัญญาณเตือนและป้องกันอัคคีภัยให้ได้มาตรฐานและใช้งานได้จริง ส่วนระยะยาว ต้องแก้ไขในเรื่องของกฎหมายควบคุมวัสดุภายในอาคาร

 

ด้านนายอมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการตรวจสอบโครงสร้างเบื้องต้นพบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ที่ชั้น5ห้อง511 เพลิงไหม้เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ไม่กระทบกระเทือนกับโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด โดยเพลิงลุกไหม้เฉพาะภายในห้องเท่านั้น ฝ้าคดงอ ปูนฉาบเพดานและผนังห้องหลุดร่อนบางส่วน สายไฟแค่ฉนวนละลาย ทองแดงยังไม่ถึงจุดหลอมละลาย เหล็กโครงสร้างยังไม่เสียรูป จุดที่เสียหายมากที่สุดในห้องคือ เตียงนอน เพลิงเผาจนเหลือแต่สปริง ซึ่งคาดว่าจุดเกิดเหตุน่าจะอยู่บนเตียงนอน ซึ่งจะต้องรอผลการตรวจสอบอย่างแน่ชัด

 

 


ตร.สอบชาวเกาหลี 3 คนห้องต้นเพลิงแล้ว ยังไม่พบสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้

 

หลังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบภายในโรงแรมย่านข้าวสาร ถนนตานีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อคืนนี้ มีรายงานว่า จากนี้ต้องให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนำข้อมูลที่ได้ไปตรวจสอบอย่างละเอียด ถึงจะระบุสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ได้ คาดว่าใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 1-2 วัน 

 

ส่วนกรณีของผู้พักห้อง 511 ซึ่งเป็นห้องต้นเพลิง พบว่าเป็นชายชาวเกาหลีใต้ 3 ราย โดยจากการสอบสวนทราบว่า ทั้งสามคนได้เข้ามาเช็คอินที่โรงแรมเมื่อเวลา 15.00 น. แล้วหลังจากนั้นในช่วงหัวค่ำ ทั้ง 3 คนก็ได้ออกไปเที่ยวข้างนอก ก่อนที่ช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. โดย 1 ใน 3 คน ได้เดินทางกลับมาที่ห้องก่อน แต่พบว่าไฟไหม้โรงแรมแล้ว

ก่อนที่ในเวลาต่อมาทางตำรวจจะตามอีก 2 คนที่เหลือมาสอบปากคำ ซึ่งทั้งหมดให้การยืนยันว่า ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ที่โรงแรม ไม่ได้เสียบปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าและก่อประกายไฟทิ้งเอาไว้ ตอนนี้ยังไม่ถือว่าทั้ง 3 คนเป็นผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด 

 

สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายนั้น ล่าสุดได้รับการยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ที่เสียชีวิตที่โรงพยาบาล เป็นชายสัญชาติสหรัฐอเมริกาและยูเครน 

 

โดยจะนำร่างชายชาวยูเครนไปชันสูตรพลิกศพที่นิติเวช โรงพยาบาลวชิรพยาบาล ส่วนร่างชายสัญชาติสหรัฐอเมริกา จะนำส่งไปชันสูตรพลิกศพที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมกับร่างหญิงชาวบราซิลที่เสียชีวิตที่เกิดเหตุ