ยังคงร้อนแรง สำหรับกระแสการเมือง หลังเลือกตั้ง66 ที่ทุกวินาทียังคงมีประเด็นร้อนๆ ให้จับตา แน่นอว่าชื่อหนึ่งในตอนนี้ ชื่อที่ถูกพูดถึง ชื่อที่ถูกสืบค้นมากกี่สุด โดยเฉพาะในโลกโซเซียลจะต้องมีชื่อของผู้ชายหน้าตาดี คนหล่อคนนี้ ไม่ใช่ใครแน่นอน หากเอ่ยฉายาที่ว่า "แด๊ดดี้ศิธา" นาวาอากาศตรี ศิธา ทิวารี หรือ "ผู้พันปุ่น" อย่างแน่นอน ล่าสุดผลงานจากวิวาทะทางการเมืองอันเผ็ดร้อนระหว่าง หมอชลน่าน ศรีแก้ว VS ศิธา ทิวารี ว่าด้วยประเด็น Advance MOU ก็ทำให้เกิดแฮชแท็ก #ศิธาทิวารี ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนแด็ดดี้ศิธา
ก่อนหน้านี้ รู้จักคุ้นเคยในนาม "ผู้พันปุ่น" ตามชื่อเล่น ล่าสุด น.ต.ศิธา ทิวารี กลายเป็นขวัญใจมหาชนชาวเน็ตอย่างไว กับฉายา "แด๊ดดี้ศิธา" ของบรรดาผู้สนับสนุนในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจาก พรรคไทยสร้างไทย ที่มี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหัวหน้าพรรคฯ โดยบทบาทหน้าที่ก่อนจะมาเป็นหนึ่งในแคนดิเดตนั้น "แด๊ดดี้ศิธา" ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทยในปี 2565-2566
ส่วนก่อนหน้านั้น ในช่วงที่มีการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร "แด๊ดดี้ปุ่น" ศิธา ทิวารี ก็เป็นหนึ่งในผู้สมัครที่ขันอาสาเข้ามาเป็นพ่อเมืองกทม.ในนามพรรคไทยสร้างไทย อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งในครั้งนั้น เขาต้องพ่ายแพ้ให้กับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
เส้นทางการเมืองของ "แด๊ดดี้ปุ่น" หรือ น.ต.ศิธา ทิวารี หากให้ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น จากนักบินขับไล่ ผันตัวเองมาเป็นนักการเมือง ภายใต้สังกัดพรรคไทยรักไทย ที่มี นายทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค และแค่เลือกตั้งสมัยแรก เขาก็แจ้งเกิดด้วยการเป็น ส.ส.เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ที่ไม่เพียงรูปลักษณ์จะหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว แต่ยังมีผลงานน่าจับตาตามมาเป็นลำดับ
เพราะหลังจากนั้น เขาก็ได้รับโอกาสให้รับบทบาททางการเมืองในหลากหลายหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง อย่างไรก็ตามในปี 2550 "ศิธา ทิวารี" ก็ถูกโชคชะตาสกัดขา เขาถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารของพรรคไทยรักไทย ซึ่งขณะนั้นถูกคดียุบพรรคกการเมือง และภายหลังก็ได้ลาออกและมาร่วมพรรคกับคุณหญิงหน่อย ในนามพรรคไทยสร้างไทย
เปิดประวัติ-ผลงาน น.ต.ศิธา ทิวารี
หากจะมาเจาะในส่วนของประวัติส่วนตัวของ "แด๊ดดี้ศิธา" น.ต.ศิธา ทิวารี เป็นบุตรของ มานพ ทิวารี กับ ม.ร.ว.จารุวรรณ ทิวารี (ราชสกุลเดิม วรวรรณ) เป็นพระนัดดาของ ม.จ.ดุลภากร วรวรรณ พระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรวรรณากร กรมพระนราธิปประพันธ์พงศ์ กับหม่อมอินทร์
น.ต.ศิธา ทิวารี ศิธา ทิวารี หรือ "แด๊ดดี้ศิธา" เกิดวันที่ 6 พ.ย.2507 สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนเซนต์ดอมินิก และมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และโรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 24 โดยได้เป็นประธานรุ่น และปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต จากโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช
ภายหลังจบการศึกษา เขาได้เข้ารับราชการในสังกัดกองทัพอากาศ เป็นนักบินเครื่องบินขับไล่ F-5 และ นักบินเครื่องขับไล่ F-16 โดยรับราชการเป็นนักบินกว่า 8 ปี และตำแหน่งสุดท้ายก่อนลาออกจากราชการ คือ รองหัวหน้าแผนกแผนร่วม กองนโยบายและแผน กรมยุทธการทหารอากาศ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >>
ไม่จบ!"ศิธา" ฟาดกลับ"เพื่อไทย"ถามหามารยาท ทวงเก้าอี้ปธ.สภา
ล่าสุด แด๊ดดี้ไปเปิดใจไว้อย่างน่าฟัง จึงขอนำบางช่วงบางตอนที่น่าสนใจเกี่ยวกับ น.ต.ศิธา ทิวารี ที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการดังมาขยายสู่คอข่าวอีกสักครั้ง
นาวาอากาศตรีปุ่น ศิธา ทิวารี อดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่วันนี้จะมาเปิดใจครั้งแรกถึงฉายา แด๊ดดี๊สายฟาด พร้อมย้อนเล่าอดีต เคยถ่ายโฆษณา ถ่ายแบบ และเล่นละคร มาแล้ว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow
ถามถึงฉายาดีกว่า หลายคนเรียกว่า แด๊ดดี้ ที่มาคืออะไร?
พี่ปุ่น : มันผุดขึ้นมาเอง อยู่ๆ ก็เด้งขึ้นมาในอินเตอร์เน็ตแล้วคนก็ตามหมดเลย
ชอบไหม?
พี่ปุ่น : ตอนแรกหงุดหงิด ทำไมไม่เรียกพี่ แด๊ดดี้มันรุ่นพ่อเลยเหรอ เอาพี่แล้วกันนะ พอสักพักชักเยอะ มันแก้ไม่ได้แล้วไง ก็มอบตัวไปเลย ไม่ต้องเป็นลุง เป็นปู่ ก็จะแด๊ดดี้ไปเรื่อย
แต่เป็นแด๊ดดี้สายฟาดคืออะไร?
พี่ปุ่น : เวลาเราพูดเราจะสื่อสารตรงๆ แต่ส่วนมากจะเป็นในเรื่องการเผด็จการ เขาเลยเรียกแด๊ดดี้สายฟาด กับแด๊ดดี้ขยี้เผด็จการ ตอนแรกๆ จะไปรู้จักในกลุ่มที่ติดตามการเมืองก่อน
เมื่อก่อนเราจะเห็นแคนดิเบตหรือการสัมภาษณ์อีกแบบหนึ่ง แต่ว่าคุณศิธาจะมีวิธีการรับมือให้แตกต่าง ของแนวคุณศิธาแตกต่างยังไง?
พี่ปุ่น : เอาจริงๆ ก็ไม่ได้แตกต่างนะครับ แต่มันเหมือนมาปิดกั้นอะไรบางอย่างที่เราอยากจะแสดงออก แล้วผมก็เชื่อว่าความเป็นนักการเมือง เข้าไปเป็น สส.คือไปพูดแทนประชาชน แล้วยิ่งไม่ได้มีตำแหน่ง ไม่ได้มีอะไร ก็ไม่ต้องกังวล เขาเรียกว่าไม่มีกรอบ ผมว่าตอนนี้ผมพูดแทนประชาชนเยอะสุดนะ
แต่ผมว่าที่พี่ไปอยู่ในใจประชาชน คือ 1.พี่พูดตรง 2.พี่หล่อ ?
พี่ปุ่น : เรื่องนี้โทษผมไม่ได้ ผมเลือกเกิดไม่ได้
เป็นคนตรงๆ จะไม่ปิดอะไรเหมือนนักการเมืองสมัยก่อนเลยเหรอ?
พี่ปุ่น : คนที่ปิดมันไม่มีความสุขไปตลอดชีวิตนะ คือตัวกับใจมันต้องอยู่ด้วยกัน ไม่งั้นเราต้องตายไปก่อน เราถึงจะได้ไปที่ชอบๆ
ชีวิตเปลี่ยนไปหลังจากที่เป็นมีมเยอะๆ แบบนี้ ไปไหนคนรุม?
พี่ปุ่น : ไปตามห้าง ไปที่ซอยละลายทรัพย์ พอลงรถตู้ ตอนแรกเจอ 2-3 คน ก็ถ่ายรูป ตอนแรกมาเป็นกลุ่ม สักพักมาเป็นแถว อยู่ข้างหน้าประมาณ 40 กว่านาที ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าๆ
สมัยก่อนเป็นนักบินด้วยถูกต้องไหมครับ?
พี่ปุ่น : เป็นนักบินครับ
เป็นนักแสดงด้วย?
พี่ปุ่น : อันนั้นมมันเป็นอุบัติเหตุมากกว่า คือ คุณแซม ยุรนันท์ เขามีศักดิ์เป็นพี่เขย คุณแซมเขาเป็นคนชวน แล้วแซมเป็นคนที่ดูแลตัวเองมาก แล้วโคตรจู้จี้ ปกติผู้กำกับสั่งอะไรก็ต้องเอาตามนั้น แต่แซมบอกว่าไม่ได้ครับ บทต้องเป็นอย่างนี้ ไปแก้บทเขา แล้วเวลาไปว่าเขา เห้ยแซม มึงเยอะขนาดนี้ใครจะมาจ้าง มันก็สวนมา ผมเยอะแบบนี้ผมถึงดูแลตัวเองมาจนทุกวันนี้
แสดงว่าพี่เข้าวงการส่วนหนึ่งก็เพราะพี่แซมด้วยไหม?
พี่ปุ่น : ในบท แซมเล่นคู่จินตหรา แล้วจินตหรามีแฟนเก่า ท้องด้วยกัน แล้วแฟนไปสงครามเป็นนักบินไปรบแล้วก็ตก ซึ่งเขาเขียนบทเอาคนนั้นคนนี้มา ความเยอะของพี่แซม ไม่ได้ครับ ถ้าบทนี้ผมมีตัวจริง เขาก็ชวนไป ผู้กำกับก็งงๆ แต่ก็ยอม ได้ไปเล่น
แล้วเรื่อง"คู่กรรม"ที่บอกว่าพี่เกือบเสียบแทน"พี่โอ"?
พี่ปุ่น : พอเล่นเรื่องนี้ หลังจากนี้มันจะมีหนังคู่กรรม แล้วตอนนั้นคุณโอยังไม่เข้าวงการ เป็นนายแบบ แล้วเขาก็ดูบอกว่าอยากให้ผมไปเล่นอันนี้ได้ไหม คู่กรรม เขาบอกคาแรคเตอร์ได้เป็นทหาร คาแรคเตอร์ได้ แต่ผมแอคติ้งไม่ได้
สมัยก่อนพี่คอเพลย์บอยตัวพ่อของเมืองไทย?
พี่ปุ่น : ผมเป็นตัวน้องคุณพีเคนะ มันก็ไม่ขนาดนั้น
ภรรยาพี่ปุ่นสวยมาก เป็นมิสมอเตอร์โชว์ปี 2005?
พี่ปุ่น : คือบ้านข้างๆ รู้จักกันเอาไปประกวด แล้วเขาไม่เคยประกวดอะไรเลย ก็เกรงใจกัน ไปประกวดแล้วก็ได้ ตอนนั้นผมไม่รู้จักเขา ที่บอกว่าไปเจอกันในงาน คือผมไปงานรับรางวัลอะไรสักอย่างของช่างภาพสื่อมวลชน แล้วเขามาเชิญรางวัล พอเสร็จก็มีงานเลี้ยงต่อ แต่เขาไม่ทาน เขาจะรีบกลับ แต่ก็ไปเจอกันอีกงาน
อายุห่างกันถึง 18 ปีเลย?
พี่ปุ่น : เท่ากัน ตอนแต่งอายุเท่ากันเลย มีเลข 2 กับเลข 4 เหมือนกัน
18 ปี ใช้ชีวิตมีปัญหาอะไรไหม?
พี่ปุ่น : ไม่มี ผมว่าอยู่ด้วยกันไม่ใช่คนนึงยอม คนนึงไม่ยอม มันต้องให้เกียรติและเข้าใจซึ่งกันและกัน คือคนจะเปลี่ยนตัวเองเพื่ออะไรสักอย่าง มันก็จะเปลี่ยนได้แพ๊บนึง มีอะไรก็ว่าไปตรงๆ
ขึ้นเวทีเป็นสายฟาด แล้วอยู่บ้านกับภรรยาฟาดไหม?
พี่ปุ่น : ไม่ฟาดๆ ก็คุยธรรมดาปกติ
คนทั้งประเทศเรียกพี่ว่าแด๊ดดี้ ภรรยามีหึงไหม?
พี่ปุ่น : ไม่มีครับ
มีบ่นไหม?
พี่ปุ่น : ไม่มีครับ เขาเข้าใจแล้วให้เกียรติกัน แล้วรู้ว่าผมอยู่ในการเมืองมานานแล้ว เขาจะรู้ว่าต้องลงพื้นที่ ต้องอยู่กับชาวบ้าน
แต่ที่ผ่านมาไม่ค่อยเห็นพี่ปุ่นลงรูปกับภรรยาหรือโพสต์อะไรสักเท่าไหร่?
พี่ปุ่น : ภรรยาผมเขามีไอจี มีโซเชียลของเขานะ แต่ว่าคนที่เข้าไปดูได้มี 2 คนคือผมกับลูกสาว แล้วเขาเอาไว้ส่องคนอื่น เขาจะชอบความเป็นส่วนตัว
กับเส้นทางเรื่องของการเมืองเป็นยังไง?
พี่ปุ่น : เรามีประสบการณ์การเมือง แต่เราต้องปล่อยให้คนรุ่นใหม่เป็นคนบริหาร เป็นคนทำ ทุกวันนี้คือบริหารในองค์กรใหญ่ๆ หรือแม้กระทั่งมหาเศรษฐีของโลก 10 อันดับแรกเป็นคนรุ่นใหม่ 8-9 คนแล้ว เพราะฉะนั้นมันเป็นเศรษฐกิจสมัยใหม่ เป็นสิ่งที่เขารู้ เขาเกิดมากับสิ่งนี้ เราก็พยายามปรับตัว แต่ว่าสิ่งที่เราจะช่วยได้คือเรื่องประสบการณ์ การบริหารคน เราควรจะทำตัวเป็นเหมือนนั่งร้าน เหมือนเกาะให้กับคนรุ่นใหม้ได้ทำงาน
พี่อยากอยู่เบื้องหลังคอยดันคนรุ่นใหม่?
พี่ปุ่น : ไม่ถึงกับอยากอยู่เบื้องหลัง จะอยู่เบื้องหน้าก็ได้ อะไรก็ได้ แต่เราจะไม่ฝืน ไม่ดันทุรัง จะมีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่งก็ได้ แล้วทำให้ประเทศมันดีขึ้นได้ก็ทำ
โซเชียลจับตากระแสร้อนเมื่อคืนนี้
ล่าสุด น.ต.ศิธา ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องการแย่งชิงเก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้ง โดยระบุว่า
"คือกุ 6 เสียง ผู้เชียร์พรรคฝ่าย ปชต. ยิ่งกว่าเชียร์พรรคตัวเองมาตลอด พอออกมาพูด อยากให้ฝ่ายประชาธิปไตยได้รักกัน, หมั้นกัน, แพ็คกัน ให้แน่นเท่านั้นแหละ ด่ากุไม่มีมารยาท จะต่อยกุ ให้กุไปพูดหลังบ้าน, ห้ามออกสื่อ ไม่งั้น 141 จะทบทวนตัวเอง ทั้งที่กุไม่ได้พูดเพื่อพรรคตัวเองสักนิด
แต่พอตัวเองอยากเป็น ปธ.สภาฯ ปล่อยลูกน้องออกมาโต้ผ่านสื่อพรึ่บ เต็มฟีดทุกแพลตฟอร์ม แย่งชิงตำแหน่งกันแบบไม่อายลุงมัยไม่ถามหา #มารยาทบ้างอ่ะ"
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2566 น.ต.ศิธา โพสต์เรื่องการโต้ตอบกันระหว่างเจ้าตัวกับ นพ.ชลน่าน ลั่นวาจายินดีลาออกจากพรรค หากต้องการเสียงของไทยสร้างไทย เข้าร่วมรัฐบาล แต่ติดขัดที่เจ้าตัว โดยระบุว่า
"#พรรคไทยสร้างไทย พูดชัดเจนมาโดยตลอด ว่าเรายินดียกมือสนับสนุน ให้พรรคเพื่อไทย และ พรรคก้าวไกล ได้จับมือกันตั้งรัฐบาล ไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล หากต้องการเสียงของไทยสร้างไทย เข้าร่วมรัฐบาล แต่ติดขัดที่ตัวผม ผมยินดีลาออกจากพรรคให้ทันที ยืนยันว่าเราไม่ใช่เงื่อนไข ที่จะทำให้ ปชต. ต้องหยุดชะงัก ครับ"
ที่มาภาพ: เพจเฟซบุ๊ก น.ต.ศิธา ทิวารี - Sita Divari
ชมคลิป >>
ชมคลิปฉบับเต็ม ขอขอบคุณที่มารายการคุยแซ่บshow มา ณ โอกาสนี้