หลังมีกระแสข่าวบนโลกออนไลน์ ทำให้คนไทยหลายคนไม่พึงใจกับกระแสข่าวนี้ หลังมีผลการจัดจัดอันดังเมนูอาหาร ข่าว แกงส้มติดเทรนด์ ทำเอาหลายๆ คนถึงกับช็อกกับข่าวนี้
โดยรายงานข่าวนี้มาจาก เว็บไซต์ชื่อดัง TasteAtlas เว็บไซต์ที่คอยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารทั่วโลก ได้ประกาศผลการจัดอันดับ "อาหารยอดแย่ที่สุดในโลก" และหนึ่งในนั้นมีเมนูอาหารไทยติดอันดับที่ 12 ด้วย
กรมอนามัย ร่วม SAVE "แกงส้ม" ชี้คุณค่าโภชนาการเพียบ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วม SAVE แกงส้ม เมื่อแกงส้มของไทย ถูกจัดอับดับให้เป็นอาหารยอดแย่ที่สุดในโลก เผยแกงส้ม เป็นเมนูชูสุขภาพที่อยู่คู่ครัวไทย เพียบพร้อมทั้งคุณค่าทางโภชนาการ และคุณประโยชน์
ดร.นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากประเด็นในโลกโซเชียลเมื่อเมนูแกงส้มของไทย ได้รับการจัดอันดับให้เป็นอาหารยอดแย่ที่สุดในโลกโดยเว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดัง ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งอยู่ในลำดับที่ 12 จากการโหวตให้เมนูแกงส้มมีคะแนน 2.3 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน ส่งผลให้เกิดดราม่าเกิดแฮชแท็ก #SAVEแกงส้มในประเทศไทย กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จึงขอร่วม #SAVEแกงส้ม และอยากขอเชิญชวนให้ผู้บริโภคทั่วโลกเปิดใจรักแกงส้ม รวมทั้งเปิดประโยชน์ และคุณค่าโภชนาการของแกงส้มในฐานะแกงไทยที่ถือเป็นอาหารหลักอยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน
ดร.นายแพทย์สราวุฒิ กล่าวต่อว่า แกงส้มจัดเป็นแกงไทยชนิดไม่ใส่กะทิ มีรสชาติความเป็นไทย ทั้งรสเผ็ด เค็ม เปรี้ยว และหวานปะแล่มครบรส ความโดดเด่น คือ รสเปรี้ยวนำจากมะขามเปียกซึ่งเป็นแหล่งวิตามินซีชั้นดี ตามด้วยสรรพคุณจากพริกแกงไทยซึ่งเป็นการใช้สมุนไพร อาทิ พริก กระเทียม หอมแดง กระชาย กะปิ มาโขลกรวมกัน จึงทำให้มีสรรพคุณหลากหลายมากมาย กระชายมีฤทธิ์ขับลมและยังช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ หอมแดงช่วยบรรเทาอาการหวัดคัดจมูก พริกชูรสชาติและเพิ่มอัตราการเผาผลาญพลังงาน กระเทียมช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด มะขามเปียกมีวิตามินซีสูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย จนแกงส้มได้ชื่อว่าเป็น ‘แกงเพื่อสุขภาพ’ ไม่ใช่เพียงแค่ส่วนผสมของพริกแกงเท่านั้น แกงส้มยังใส่ผักและสมุนไพรหลายชนิดลงไป เช่น ผักกาดขาว ดอกแค แตงโมอ่อน มะละกอดิบ ผักบุ้ง ผักกระเฉด เป็นต้น
นอกจากนี้แกงส้มยังมีโปรตีนจากเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อปลาหรือกุ้ง ที่นิยมนำมาโขลกรวมกับพริกแกงหรือใส่แยกต่างหาก ซึ่งแกงส้มของแต่ละภาคจะมีขั้นตอนการปรุงอาหารแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในท้องถิ่นผักหลากหลายชนิด ทำให้แกงส้มมีไขมันต่ำ อุดมด้วยใยอาหารช่วยการทำงานของระบบขับถ่าย ผักมีวิตามินเอที่ช่วยการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย วิตามินซีช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก ต่อต้านอนุมูลอิสระป้องกันเลือดออกตามไรฟัน วิตามินบี 12 จากเนื้อสัตว์จะช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง และการทำงานของระบบประสาทและสมอง
“สำหรับคุณค่าโภชนาการของแกงส้ม สำหรับบุคคลทั่วไปที่มีน้ำหนักตัวปกติ สามารถกินข้าวสวยแกงส้มผักรวมร่วมกับอาหารอย่างอื่นได้อีก เพราะแกงส้มจัดเป็นอาหารให้พลังงานต่ำ และอาหารที่นิยมกินกับแกงส้มมักจะเป็นไข่เจียว แต่เนื่องจากแกงส้มถ้าใส่กุ้งสดจะให้โคเลสเตอรอลสูง เมื่อทานรวมกับไข่เจียวอีก 1 ฟอง อาจจะให้โคเลสเตอรอลเกินปริมาณโคเลสเตอรอลที่แนะนำในแต่ละวันได้ ซึ่งปริมาณที่แนะนำ คือ ไม่ควรเกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน จึงอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาโคเลสเตอรอลในเลือดสูง ดังนั้น ถ้ากินแกงส้มผักรวมกุ้งสด ควรเลือกกินกับอาหารอื่นที่ให้โคเลสเตอรอลต่ำ หรือถ้าต้องการกินแกงส้มกับไข่เจียว แนะนำให้เปลี่ยนจากเนื้อกุ้งเป็นเนื้อปลาแทน อีกข้อควรระวัง คือ ปริมาณโซเดียม ซึ่งอยู่ในเครื่องแกงและเครื่องปรุงรสของแกงส้มจะค่อนข้างสูง สำหรับกลุ่มที่มีปัญหาโรคความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่ต้องจำกัดปริมาณโซเดียมในอาหาร ต้องระวังหากกินมาเกินไป จะทำให้ได้รับโซเดียมเกินได้ ที่สำคัญ ต้องกินเมื่อปรุงสุกใหม่ เพื่อความอร่อยถูกใจ อนามัยไม่ถูกลืม” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
โดยการจัดอันดับครั้งนี้ ครอบคลุมทั้ง ประเภทอาหาร ส่วนผสมท้องถิ่น และ ร้านอาหาร ที่จัดอันดับเดือนกุมภาพันธ์ ปีนี้
และเมนูอาหารไทยที่ติดอันดับอาหารยอดแย่ของโลกได้แก่เมนู "แกงส้ม" ซึ่งเมนู แกงส้ม ติดอันดับอาหารยอดแย่ของโลกลำดับที่ 12 จาก 50 อันดับเลยทีเดียว
ในขณะที่เมนูที่ติดอันดับที่ 1 ได้แก่ Indigirka Salad จากรัสเซีย และ อันดับที่ 2 คือ Pizza Cake 0kd จาก แคนาดาซึ่งหลังการประกาศผลครั้งนี้ทำให้คนไทยหลายๆ คน พากันแชร์โพสต์ของทางเว็บไซต์ดังกล่าวออกไป พร้อมใจระดมสรรพกำลังพากัน Saveแกงส้ม กันเป็นจำนวนมากในขณะนี้
ล่าสุด มีหลายความคิดเห็น หลายๆ คน พากันตั้งข้อสงสัย ว่า แกงส้ม อันถือว่าเมนูโปรดของคนไทย ทำไมถึงได้ติดอันดับดังกล่าว นอกจากนี้ คนไทยหลายคนบอกว่า หากแกงส้มติด ต้องมีเมนูซุปกิมจิด้วยเพราะรสชาติและส่วนผสมอะไรก็คล้ายๆ กัน รวมถึงหลายคนก็ได้เข้าไปคอมเมนต์ไม่เห็นด้วยกับการจัดอันดับแบบนี้
ขอขอบคุณที่มา: thainews