6 ตุลาคม 2565 สถานการณ์น้ำท่วม ล่าสุด กรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมพร้อมรับมือ "น้ำเหนือ" และ "น้ำทะเลหนุน" โดยเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ผู้ว่าราชกาากรุงเทพมหานคร ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ พร้อมด้วย รองผู้ว่ากทม. วิศณุ ทรัพย์สมพล ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ร่วมกับผู้อำนวยการเขตดุสิต ที่บริเวณวัดเทวราชกุญชร ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบทั้งหมด 45 หลังคาเรือน จากทั้งหมดกว่า 100 หลังคาเรือน ซึ่งประธานชุมชน ได้เรียกร้องให้มีการทำเขื่อนกันน้ำที่บริเวณนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
นายชัชชาติ อธิบายว่า น้ำท่วมที่ได้รับผลกระทบจาก แม่น้ำเจ้าพระยา ในกทม. 3 รูปแบบ คือ
ดังนั้นระยะยาวต้องตอกชีสพาย เพื่อลดการรั่ว แต่ปัจจุบัน ต้องเอาเครื่องปั๊มน้ำไปติดตั้งเพื่อสูบออก ซึ่งหากจุดไหนที่เขื่อนสมบูรณ์แบบก็ไม่มีปัญหาน้ำท่วม เพราะเขื่อนยังอยู่กว่าระดับน้ำเกือบๆเมตร
ผู้ว่าฯชัชชาติ กล่าวอีกว่า คงต้องรอดูมวลน้ำที่จะเข้ามาเพิ่มและ น้ำทะเลหนุน ซึ่งจะหนุนสูงสุดวันที่ 9 ต.ค.นี้ และมีมวลน้ำจาก เขื่อนป่าสัก และ เขื่อนเจ้าพระยา มาเพิ่ม ทั้งนี้ส่วนตัวอยากให้มวลมาทางเจ้าพระยามากกว่าไปด้านล่างของ กทม.เพื่อไม่ให้กระทบฝั่งหนองจอก มีนบุรี
แม่น้ำเจ้าพระยา กทม.ยังสามารถรับน้ำได้ 3,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งปี 54 น้ำเจ้าพระยามาประมาณ 4,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และปีนี้สถานการณ์ไม่ได้วิกฤตเหมือนปี 54 ยังห่างกันเยอะ และคิดว่าตอนนี้ยังไม่มีปัญหา เพราะเรารู้จุดอ่อน เชื่อว่าสามารถผ่านไปได้ อาจจะมีท่วมชุมชนบ้างนิดหน่อยเท่านั้น
สำหรับกรณีที่ชาวบ้านเรียกร้องให้ทำเขื่อนกั้นน้ำนั้น นายชัชชาติ ยอมรับว่าไม่ได้ง่ายๆ ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งอาจจะต้องหาดูวิธีอื่นที่จะช่วยเหลือ
ส่วนการเฝ้าระวังน้ำในวันที่ 7-9 ต.ค.นี้ นายชัชชาติ บอกด้วยว่า คงต้องเฝ้าระวังน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุน เพราะจะมีระดับเตือนล่วงหน้าอยู่แล้ว ว่ามาถึงบางไทรการไหลของน้ำอยู่ที่เท่าไร
" ส่วนน้ำฝนยอมรับว่า ไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีหรือไม่มี เพราะโลกเปลี่ยนไปเยอะ แต่ขณะนี้เริ่มมีลมหนาวดันบงมาบ้างแล้ว ถ้าไม่มีฝน ก็ต้องเฝ้าระวังเป็นน้ำเหนือ "
นายชัชชาติ ยังบอกอีกว่า ในวันนี้ (6 ต.ค.) จะมีการหารือถอดบทเรียนเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมในปีหน้าด้วย ทั้งการเตรียมเครื่องสูบน้ำ จุดลอกคูคลอง และอื่นๆจะต้องเขียนแผนให้ชัด และมองว่าทำให้กทม.ได้มีเวลาเตรียมพร้อมรับมือมากขึ้น