6 มกราคม 2568 กลายเป็นประเด็นที่สังคมโซเชียลจับตา และถกเถียงกันอย่างมาก ในประเด็นความขัดแย้งระหว่าง "ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช" ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม กับ "อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม" เกี่ยวกับเรื่องคำสอน และการปกป้องพระพุทธศาสนา
กรณีดังกล่าว พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ถึงประเด็นที่ อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม มีการไลฟ์สดพร้อมกับมีการกล่าวว่า เรื่องการไม่เน่า ไม่ย่อยสลายหรือเผาไม่ไหม้ของพระเกจินั้น เป็นเรื่องปรุงแต่งกันไปเอง พร้อมทั้งมีการเปรียบเทียบกับร่างของสุนัขและแมวที่ไม่เน่าเช่นกัน จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักของสังคมในขณะนี้ รวมถึงทางฝั่งของทนายอนันต์ชัย ก็ได้มีการออกมาพูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน
โดย พระพยอม กล่าวว่า หากถามว่าทางฝั่งทนายอนันต์ชัย สามารถที่จะเอาผิดอาจารย์เบียร์ได้หรือไม่นั้น ตนมองว่ามันต้องดูเหตุการณ์ไป มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ผิดก็ว่าไปตามผิด อย่างเรื่องที่อาจารย์เบียร์บอกว่า หมาตายไม่เน่าไม่เปื่อยก็มี ก็ทำให้ตนนึกถึงในสมัยหนึ่งคือสมัยของหลวงพ่อปัญญา ท่านก็ต่อต้านเรื่องของการมีอยู่ของศาลพระภูมิ
ซึ่งตอนนั้นท่านก็ได้มีการยกตัวอย่างขึ้นมา จึงทำให้คนที่เชื่อในเรื่องการบูชาศาลพระภูมิต้องโกรธกันไปทั่ว เนื่องจากท่านได้บอกว่า หากจะตั้งศาลพระภูมิให้เลี้ยงหมายังดีกว่า เพราะหมามันยังเห่าขโมยได้ แต่ศาลพระภูมิเห่าไม่ได้ ซึ่งมันก็จริง ต่างคนต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง
แต่อย่างไรก็ตาม แต่ละฝ่ายควรจะต้องพูดเหตุผล หรืออะไรก็ตาม ที่ไม่ทำให้ไปสะเทือนใจฝ่ายตรงข้าม หรือทำให้คนอื่นต้องทุกข์ใจมากนัก เราจะได้อยู่กันอย่างสงบ
ในประเด็นเรื่องพระเกจิที่ร่างไม่เน่าเปื่อยหรือเผาไม่ไหม้นั้น ในสมัยก่อนมีเยอะมาก โดยเฉพาะพระเกจิอาจารย์จีน แต่ทั้งหมดทั้งสิ้นต้องบอกว่า มันไม่เกี่ยวกับเรื่องดับทุกข์ ร่างไม่เน่าแล้วดับทุกข์ได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ให้สนใจเรื่องของการดับทุกข์ให้มากกว่าเรื่องของร่างพระเกจิจะเน่าหรือไม่เน่า
ตนหวังว่าถ้าทั้งสองฝ่ายได้ฟัง ก็อาจจะเกิดฉุกคิดได้ ถึงการโต้กันไปมาแบบแรงๆ มันจะได้เบาลง คนเราเวลาเกลียดกันนั้น อย่าเกลียดกันมากเผื่อไว้ดีกันบ้าง เช่นเดียวกันกับถ้ารักกันก็อย่ารักกันเต็มที่ เผื่อไว้เกลียดกันบ้าง ไม่แน่เมื่อเข้าใจดีด้วยกันทั้งคู่แล้วก็จะได้ช่วยกันปกป้องจรรโลงพระพุทธศาสนา ซึ่งก็จะได้เป็นพลังบวกเพิ่มต่อไป