19 กรกฎาคม เมื่อเวลา 11.30 น. "คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ" ได้มีการการประชุม มีวาระการประชุมที่สำคัญ คือ การพิจารณา เรื่อง คณะกรรมการการเลือกตั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของ "นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ (เรื่องพิจารณาที่ 23/2566) (กค. 5)
"ศาลรัฐธรรมนูญ" ได้มีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 พิจารณารับเรื่องดังกล่าวไว้แล้วและขอให้ "นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว
เอกสารแถลงข่าวระบุผลการพิจารณาว่า ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาจากข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสี่ประกอบวรรคหนึ่งและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7 ( 5 )
จึงสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยและให้ผู้ถูกยื่นคำร้องชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้องตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญพ.ศ 2561 มาตรา 54
สำหรับคำร้องของผู้ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรค 2 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 2 เห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องปรากฏเหตุอัน ควรสงสัยว่า มีกรณีตามที่ถูกร้องประกอบกับการปฏิบัติหน้าที่รัฐสภา และที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้
จึงมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันที่ วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา "ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก" รองเลขาธิการ กกต. และพ.ต.ต.ณัฐวัฒน์ เสงี่ยมศักดิ์ รองเลขาธิการ กกต. พร้อมเจ้าหน้าที่ กกต. นำคำร้อง พร้อมหลักฐาน 3 กล่อง มายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามมติของ กกต. ที่มีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ "นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" สส. บัญชีรายชื่อ และแคนดิเนตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล กรณีถือครองหุ้นไอทีวี จำนวน 42,000 หุ้น ตามมาตรา 82 วรรค 4 ที่ห้าม สส. ถือครองหุ้นสื่อ ซึ่งจะมีผลให้จากสมาชิกภาพ สส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ประกอบมาตรา 101 (6) หรือไม่