4 ธันวาคม 2565 เปิดความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรของ “จ้าว เหว่ย” โดยทีมข่าว เนชั่นทีวี ได้ลงพื้นที่ไปเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว โดยได้เดินทางไปยัง หอพระราชวังจำลอง เพื่อสัมภาษณ์พิเศษ “จ้าว เหว่ย” ประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ นักธุรกิจชาวจีน ในวัย 71 ปี ถือว่าเป็นการเปิดตัวออกสื่อไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี
บทสนทนาแรก “จ้าว เหว่ย” บอกกับทีมเนชั่นทีวี ว่า เป้าหมายของเขา คือ การพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำแห่งนี้ ให้มีความเจริญภายใต้ความร่วมมือกับรัฐบาล สปป.ลาว ตลอดหลายปีไม่เคยตอบโต้ใครที่มักจะมองว่า ที่นี่เป็นดินแดนอาชญากรรม วันนี้จะเปิดใจให้กับ ทีมข่าวเนชั่นทีวี ว่า เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในเมืองแห่งนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : Exclusive เปิดใจ“จ้าว เหว่ย” ครั้งแรกรอบ 15 ปี ปัดเอี่ยว"ทุนจีนสีเทา" (มีคลิป)
“จ้าว เหว่ย” นั่งบนเก้าอี้แบบสบาย ๆ และเปิดใจกับ "เนชั่นทีวี" ว่า ที่นี่เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ 1 ใน 17 แห่งของ สปป.ลาว แต่มีความพิเศษคือมีเป้าหมายยกระดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว การค้า การลงทุน ระดับโลก ผ่านมา 15 ปี ตั้งแต่วันแรกที่นี่เป็นแค่พื้นที่ชายแดน ไม่มีความเจริญใด ๆ แต่ปัจจุบันนี้ได้พัฒนาให้กลายเป็นเมืองใหม่ที่อวดศักยภาพชาวโลกได้อย่างไม่อายใคร
ในพื้นที่ เขตเศรษฐกิจพิเศษ มีมูลค่าการลงทุนมากกว่าแสนล้านบาท มีพันธมิตรที่เข้ามาลงทุนทำธุรกิจมากกว่า 200 บริษัท มีที่พักอาศัยในรูปแบบคอนโดมิเนียมมากกว่า 100 แห่ง มีห้างสรรพสินค้า 5-6 แห่ง มีโรงพยาบาล 2 แห่ง มีโรงเรียน มีโรงแรมมากกว่า 10 แห่ง
หลายคนมองว่า ที่นี่เป็นพื้นที่สีเทา แต่ถ้าได้เข้ามาสัมผัสในวันนี้จะรู้ว่าไม่ใช่ ที่นี่มีความปลอดภัย เป็นนโยบายของทางเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ต้องดูแลประชากร 50,000-60,000 คนให้ดีที่สุด และอยู่ภายใต้กฎหมายของรัฐบาล สปป.ลาว
“จ้าว เหว่ย” บอกว่า การลงทุน บ่อนกาสิโน ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้อง ปัจจุบันนี้ได้มีนักลงทุนชาวสิงค์โปร์เข้ามาเช่ากิจการระยะยาว และเปลี่ยนชื่อเป็น ALLUXI CASINO
ขณะที่ทางกลุ่มดอกงิ้วคำ ในเครือ "จินมู่เหมียน" ได้ลงทุนสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ 17 ชั้น จำนวนกว่า 500 ห้อง ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้ากว่าร้อยละ 90 คาดว่าจะเปิดได้ราวปีต้นปี 2566 และได้สร้างตลาดน้ำสไตล์ยุโรป เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวใหม่ในภูมิภาคแถบนี้
“จ้าว เหว่ย” บอกกับ เนชั่นทีวี อีกว่า การพัฒนาของเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำมาไกลเกินกว่าคำว่า "พื้นที่สีเทา" ตอนนี้ได้สร้างสนามบิน รูปทรงนกอินทรีย์ มีพื้นที่ 25,000 ตารางเมตร รันเวย์ขนาด 2,500 เมตร ในอนาคตจะขยายรันเวย์ให้ถึง 4,000 เมตร รองรับผู้โดยสารปีแรกน่าจะไม่ต่ำกว่า 800,000 คน ตอนนี้เปิดบินภายในประเทศ และในปี 2566 จะเปิดบินอย่างเป็นทางการ
นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาพื้นที่อีก 1,000 ไร่ สร้างสนามกอล์ฟระดับโลก มูลค่าการลงทุน 2,000 ล้านบาท และยังมีการพัฒนาสร้างสนามยิงปืน, สนามแข่งม้า และสนามแข่งรถอีกด้วย
เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำยังได้พัฒนาภาคเกษตรแบบวงจร มีการเลี้ยงวัว เลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ และโรงผลิตอาหารสัตว์ รวมทั้งพื้นที่ปลูกผักปลอดสารพิษ เพื่อป้อนให้กับประชากร และที่สำคัญในปี 2566 มีโครงการที่จะสร้างท่าเรือน้ำลึกในแม่น้ำโขง เพื่อเปิดเส้นทางการค้า การขนส่งในแม่น้ำโขงเชื่อมโยงระหว่างลาว-จีน-ไทย ซึ่งจะถือว่าเป็นระบบขนส่งคมนาคมน้ำขนาดใหญ่ โดยมีเป้าหมายว่า จะพัฒนาคู่ขนานไปกับจังหวัดเชียงราย
การเติบโตในมุมมองของ “จ้าว เหว่ย” บอกกับทีมเนชั่นทีวีว่า "พื้นที่แห่งนี้จะมั่งคั่ง และจะไม่ถูกมองข้ามจากสายตาชาวโลก และการเติบโตของ 3 ชาติจะต้องไปพร้อมๆ กัน นั่นคือ หลักการของการพัฒนาที่แท้จริง"
“จ้าว เหว่ย” ทิ้งท้ายอีกว่า ใครจะมองพื้นที่แห่งนี้อย่างไร ตนก็ไม่สนใจ เพราะในความเป็นจริงแล้ว มันยิ่งใหญ่ว่าที่ใคร ๆ คิด และในวันที่จัดงานเทศกาลดอกงิ้วบาน ในเดือนมกราคม 2566 ในวันนั้น ชาวโลกจะเห็นภาพความฝันของเขาเป็นจริงแล้ว และภูมิใจที่ได้เข้ามาพัฒนาให้พื้นที่แห่งนี้ก้าวข้ามไปสู่ความเจริญ และจะมีพันธมิตรทางธุรกิจเข้ามาร่วมงาน ที่ขาดไม่ได้คือ รัฐบาลสปป.ลาว ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวในการพัฒนาให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่มั่งคั่ง และมีความยั่งยืน
ชมคลิป อาณาจักร "จ้าวเหว่ย" ที่สามเหลี่ยมทองคำ
ข่าวโดย สกาวรัตน์ ศิริมา
สำนักข่าวเนชั่น ศูนย์ข่าวภาคเหนือ