18 ธันวาคม 2567 ท่าเทียบเรือประภาคาร ด่านศุลกากร บ้านเขาหางหงส์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายทั้งทหาร ตำรวจ ปกครอง พร้อมตัวแทนฑูตจากประเทศเมียนมา ได้สนธิกำลังกัน เพื่อทำการส่งกลับแรงงานวัยหนุ่มสาว อายุตั้งแต่ 18-30 ปี กลับกลับเกาะสองประเทศเมียนมา จำนวน 219 คน ซึ่งแต่ละคนมีคดีต่างกันไปในประเทศไทย
จากการสอบถามหนึ่งในแรงงานเมียนมาที่ถูกจับกุม และถูกส่งกลับประเทสเมียนมา ได้ตอบคำถามที่ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่กลัวหรือถูกส่งกลับประเทศ อาจจะต้องไปเป็นทหาร คำตอบที่ได้รับจากนายอ่าว หนึ่งในแรงงานชาวเมียมา ที่ถูกจับกุมโดยทางไทย และต้องถูกผลักดันกลับคือ พวกเราไม่กลัวการถูกส่งกลับ เราเตรียมเงินไว้คนละ 20 จ๊าดเป็นอย่างต่ำ พ่อแม่พวกเราเตรียมเงินไว้แล้ว บางส่วนก็จ่ายไปแล้วกับทางการ
โดยเมื่อทางการไทยใช้เรือหางยาวไปส่งพวกเราผ่านแดน ไปยังเกาะสองประเทศเมียนมาแล้ว เราก็ตรวจสอบรายชื่อ จากนั้นเราก็ทำหนังสือเดินทางชั่วคราวเพื่อนั่งเรือกลับทันที บางส่วนที่อยากกลับบ้านก่อนก็กลับ แล้วค่อยเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านด่านจังหวัดระนอง และกลับไปทำงาน กลับบ้านครั้งนี้ถือว่าลางานกับนายจ้างแล้ว ซึ่งนายจ้างก็เข้าก็เข้าใจแค่เป็นการลางานเนื่องจากปัญหาดังกล่าว เดี๋ยวเย็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ก็กลับทำงานตามปกติในประเทศไทย ประเทศไทยเข้าง่ายออกง่ายไม่มีปัญหา
ส่วนทางด้านความมั่นคงในจังหวัดระนองรายหนึ่ง คุยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกสำหรับทางไทย เนื่องจากยังมีอีกหลายหน่วยที่เอื้อประโยชน์ ให้กับแรงงานผิดกฎหมายเหล่านี้ ผลักออกก็กลับเข้ามา เพราะเจ้าหน้าที่บางหน่วยรับผลประโยชน์ จากกลุ่มแรงงานและนายจ้างของแรงงาน ปัญหาคงจะยังมีต่อไป และทำให้แรงงานชาวเมียนมารุ่นใหม่ เกิดการท้าทายอำนาจของรัฐ และอำนาจของเจ้าหน้าที่ ในแต่ละพื้นที่ที่ทำการจับกุม
เพราะจับมาใช้เงินเดี๋ยวก็จบ หลายหน่วยงานไทยเจ็บปวดกับเรื่องนี้มาก แต่ไม่มีอำนาจไปก้าวก่าย เพราะเป็นเรื่องแรงงานและเรื่องชายแดน อยากให้ผู้มีอำนาจส่วนกลาง ไม่ว่าฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ลงมาดูและแก้ไข้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นไทยจะตกอยู่ภายใต้อำนาจเงิน ของแรงงานเมียนมาแน่นอนในอนาคต