โลกโซเชียลร้อนฉ่า!! แชร์คลิป เจ้าของร้านขายของชำสแกนใบหน้าของพระสงฆ์รูปหนึ่งในหมู่บ้าน เพื่อจ่ายเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่สแกนยังไงก็ไม่ผ่านจนลูกค้าในร้าน นำเทปพันสายไฟสีดำมาติดเป็นคิ้วให้กับพระ สุดท้ายสแกนใบหน้าผ่านฉลุยทันที จนกลายเป็นกระแสดังไปในสื่อโซเชียลต่างๆ
3 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่ "ร้านเทียนทอง" ในพื้นที่บ้านโนนทอง ม.5 ต.คำม่วง อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ได้พบกับ นางฐิติภา อายุ 46 ปี เจ้าของร้าน
โดย นางฐิติภา เล่าว่า ขณะขายของอยู่ที่ร้านตามปกติ ก็มีลูกค้าเข้ามาซื้อของหลายคน จนกระทั่ง หลวงพี่หลอดเข้ามาซื้อของ ซึ่งก่อนที่หลวงพี่หลอดจะบวชนั้นก็เป็นลูกค้าที่ร้านและมาซื้อของบ่อย
โดยจ่ายเงินผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่หลังจากที่หลวงพี่หลอดซื้อสินค้าเสร็จขั้นตอนที่จ่ายเงินปรากฏว่าไม่สามารถสแกนใบหน้าของพระได้ เนื่องจากใบหน้าไม่ตรงกัน
ตนได้สแกนใบหน้า เพื่อให้ผ่านให้ได้ แต่สแกนยังไงก็ไม่ได้ จนคิดว่าจะให้หลวงพี่หลอดกลับวัดก่อนแล้วค่อยมาทำการสแกนจ่ายเงินใหม่ภายหลัง แต่ก็ไม่ละความพยายามจึงคิดว่าจะเอาเทปพันสายไฟสีดำตัดแปะที่คิ้ว ลักษณะเหมือนคิ้วชินจัง
พอดีมีลูกค้าอีกคนมาซื้อของในร้าน จึงบอกว่าให้ตัดเป็นรูปทรงคิ้วดีๆ ก่อนที่ลูกค้าจะตัดแล้วนำมาแปะที่คิ้วปรากฏว่า สแกนปุ๊ลผ่านปั๊บ จนตนหลุดขำออกมา จึงนำคลิปดังกล่าวมาโพสต์จนกระทั่งกลายเป็นกระแส
ส่วนตัวก็กังวลว่าจะทำให้หลวงพี่หลอดเดือดร้อนหรือไม่ แต่พระสงฆ์ก็มาซื้อแต่ของที่ใช้ในกิจของสงฆ์เท่านั้นและตนเองเห็นว่าเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเพื่อให้การสแกนใบหน้าผ่าน
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่ วัดแห่งหนึ่ง ห่างจากร้านค้าไปไม่ไกลได้พบกับ หลวงพี่หลอด อายุ 45 ปี พระลูกวัดในคลิปที่มาซื้อของ
โดย หลวงพี่หลอด เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ได้มาซื้อของใช้ในกิจของสงฆ์ที่ร้านค้าใกล้วัดซึ่งปกติตอนที่เป็นฆราวาสก็จะมาซื้อของที่ร้านนี้เป็นประจำกระทั่งได้มาบวชที่วัดแห่งนี้เมื่อไม่นานมานี้ ก็กลับมาซื้อของที่ร้านนี้อีกครั้ง หลังจากเลือกของเสร็จตอนที่จ่ายเงินด้วยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ปรากฏว่าสแกนหน้าไม่ผ่านสักที ทั้งเปลี่ยนมุมถ่าย ทั้งกระพริบตา จนเจ้าของร้านปวดแขน จนในใจคิดว่าจะกลับวัดก่อนดีกว่า
กระทั่งโยมที่มาซื้อของได้แนะนำว่า ลองติดเทปสีดำให้เป็นคิ้วดู จึงได้ลองทำปรากฏว่าได้ทันที ก่อนจะกลับมาที่วัดกระทั่งมาทราบข่าวเมื่อช่วงเช้าวันนี้ว่าได้ออกข่าว
หลังจากที่ใช้วิธีการติดเทปดำที่คิ้วแล้วสแกนใบหน้าผ่าน ทำให้ตอนนี้เกิดความกังวลว่าจะถูกตำหนิแต่ก็ยอมรับในผลที่จะเกิดขึ้น
ขณะที่โลกโซเชียลแห่ชมคลิป แล้วได้แต่ขำท้องแข็ง พร้อมคอมเมนต์ในเชิงขำขันมากกว่า จนมีการแชร์คลิปจำนวนมาก