วันที่ 2 ธันวาคม 2567
ภาพจากอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ของทีมตอ
บโต้ภัยพิบัติ “มูลนิธิเพชรเกษม” แสดงให้เห็นว่าที่บ้านป่าบอน หมู่ 4 ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา ยังมีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 140 หลังคาเรือน ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 400 ชีวิต ชาวบ้านต้องอยู่ในสภาพน้ำท่วมสูงเกือบมิดหลังคาชั้น 2 กว่าหนึ่งสัปดาห์ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดกับ “พรุลายควาย” ซึ่งเป็นลักษณะแก้มลิงทางธรรมชาติ มีเนื้อที่กว่า 15,000 ไร่ มีมวลน้ำจากวังพญา และแม่น้ำสายบุรีบางส่วน ไหลมารวมกัน ทำให้มีน้ำท่วมสูงในพื้นที่กว่า 3 เมตร
ชาวบ้านป่าบอน มีอาหารเพื่อประทังชีวิตได้เพียงวันละมื้อเท่านั้น เนื่องจากเสบียงอาหารมีจำกัดและถูกตัดขาดจากโลกภายนอก การช่วยเหลือยากต้องใช้เรือเดินทางเข้าออกเพียงอย่างเดียว จึงร้องขอความช่วยเหลือจากทีมตอบโต้ภัยพิบัติ มูลนิธิเพชรเกษม ขออาหารและน้ำดื่ม เนื่องจากยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปช่วยเหลือ มีเพียง อบต.ท่าธง ที่คอยช่วยเหลืออาหาร แต่ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ประสบภัย เนื่องจากอาหารมีจำนวนจำกัดจำเป็นต้องแบ่งไปช่วยเหลือในหลายๆ หมู่บ้าน
พ.ต.อ.สรุนาท วงศ์พรหมชัย นวท ( สบ5 ) ศพฐ.10 ( 2 ) พร้อมกำลังพลในสังกัด และทีมตอบโต้ภัยพิบัติ “มูลนิธิเพชรเกษม” เดินทางเข้าพื้นที่พร้อมอาหารและน้ำดื่มทันที หลังได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ทั้งข้าวสาร น้ำดื่ม และไข่ไก่ นำลงจากรถบรรทุกช่วยเหลือผู้ประสบภัย ของทางมูลนิธิเพชรเกษม ลำเลียงโดยเรือกู้ภัยนำเข้าไปให้ชาวบ้านผู้ประสบภัย ที่ติดอยู่ในบ้านที่ไม่สามารถออกมาหาอาหารได้ เนื่องจากหลายหลังคาเรือนบ้านบางหลังถูกน้ำท่วมสูงจนเกือบมิดหลังคา
ชาวบ้านป่าบอน หมู่ 4 ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลา 50 กว่าชีวิต ต้องเข้าไปอาศัยอยู่ในป่าใกล้หมู่บ้านเป็นลักษณะเนินดินที่น้ำท่วมไม่ถึง เมื่อทีมตอบโต้ภัยพิบัติ เดินทางด้วยเรือกู้ภัยเข้าไปยังพื้นที่ พบว่ามีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ใช้เพียงผ้าใบเท่านั้นทำเป็นที่หลบฝน หลบแดด ชาวบ้านอาศัยอยู่ในป่ามานานกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว ทีมตอบโต้ภัยพิบัติ มูลนิธิเพชรเกษม ได้นำข้าวสาร ไข่ไก่ และน้ำดื่มเข้าไปทำการช่วยเหลือ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในป่าพากันดีใจบางคนถึงกับร้องไห้ เพราะเป็นหน่วยงานแรกที่เข้าไปช่วยเหลือ
นายอับดุลเลาะห์ อาบู ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ตำบลท่าธง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา บอกว่า
ชาวบ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอก การที่จะเข้ามาถึงในหมู่บ้านจะต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียว เพราะน้ำท่วมสูง 3 ถึง 4 เมตร มาเป็นหลายวันแล้ว ชาวบ้านมีอาหารและน้ำดื่มจำนวนจำกัด อบต.ท่าธง สามารถช่วยเหลือข้าวกล่องได้เพียงวันละมื้อต่อคน เนื่องจากเสบียงอาหารมีไม่เพียงพอกับชาวบ้าน
ปกติในพื้นที่นี้น้ำจะท่วมทุกปี แต่สำหรับปีนี้น้ำท่วมสูงในรอบ 30 ปี และจะมีชาวเมืองยะลา นำความช่วยเหลือมาให้ แต่ปีนี้ในเขตเมืองยะลาก็ถูกน้ำท่วมเช่นกัน จึงไม่สามารถเข้าปฏิบัติการช่วยเหลือชาวบ้านได้ทันที
จึงประสานงานไปยังทีมตอบโต้ภัยพิบัติ มูลนิธิเพชรเกษม ให้นำความช่วยเหลือมาให้ชาวบ้าน และรู้สึกดีใจที่ทางมูลนิธิเพชรเกษมนำความช่วยเหลือมาให้ชาวบ้าน และเป็นกู้ภัยหน่วยแรกที่เดินทางเข้ามาให้ความช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัย
ด้านนายอุสมาน อาบู ประธานเยาวชนจิตอาสาบ้านป่าบอน ต.ท่าธง เปิดเผยกับทีมตอบโต้ภัยพิบัติ มูลนิธิเพชรเกษม ได้บอกว่า
หลังจากที่หน่วยงานด้านนอกไม่สามารถเดินทางเข้ามาช่วยเหลือได้ พวกเขาได้รวบรวมเยาวชนในตำบลท่าธง ตั้งเป็นชมรมเยาวชนจิตอาสา เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับชาวบ้าน คอยให้ความช่วยเหลือชาวบ้านเท่าที่สามารถจะทำได้ และขอบคุณพี่น้องคนไทยที่ไม่ทอดทิ้งพี่น้องสามจังหวัดชายแดนใต้ในสถานการณ์วิกฤตน้ำท่วม
ส่วนสถานีตำรวจภูธรท่าธง ก็กลายเป็นผู้ประสบภัยเช่นกันมีมวลน้ำล้อมรอบสูงเกือบ 2 เมตร ไม่สามารถให้บริการประชาชนได้ชั่วคราว หากจะเดินทางไปแจ้งความหรือติดต่อชาวบ้านจะต้องใช้เรือเพียงอย่างเดียวจึงจะสามารถเข้าไปได้ นอกจากนี้อุปกรณ์สำนักงานบางอย่างเกิดความเสียหาย ทีมตอบโต้ภัยพิบัติ มูลนิธิเพชรเกษม ต้องลำเลียงอาหาร และน้ำดื่มเข้าไปมอบให้ตำรวจภูธรท่าธง จ.ยะลา เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
สำหรับในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ หลายอำเภอขณะนี้ยังต้องการความช่วยเหลือ ในด้านอาหาร - น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นจำนวนมาก ประชาชนชาวไทยที่ต้องการร่วมให้ความช่วยเหลือ
สามารถบริจาคผ่านเลขที่บัญชี : ธ.สิกรไทย 272-104-254-8
ชื่อบัญชี : มูลนิธิเพชรเกษม