3 ธันวาคม 2565 เวลา 13.00 น. พ.ต.อ.วัลลภ กลางวันทิพย์ ผกก.สภ.เกาะช้าง จังหวัดตราด ได้รับแจ้งเหตุ เพลิงไหม้โรงแรมเรือร้าง (เกาะช้างแกรนด์ลากูน่า) พื้นที่ หมู่ 1 บ้านบางเบ้า ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด โดยเพลิงได้ลุกไหม้ที่บริเวณท้ายเรือ และกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ขอให้ส่งพนักงานสอบสวนเดินทางมาตรวจสอบ ผกก.สภ. เกาะช้าง จึงประสานงานไปทาง นายจักรกฤษ สลักเพชร นายกเทศบาลตำบลเกาะช้างใต้ และรายงานไปยังนายอำเภอเกาะช้าง นายนริศ ปาลกวงศ์ ณ อยุธยา เพื่อเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมประสานรถดับเพลิงของทางเทศบาลตำบลเกาะช้างใต้ เพื่อเดินทางไปช่วยดับเพลิง เนื่องจากระยะทางห่างไกลจากพื้นที่ และอยู่บริเวณท้ายเกาะช้าง
นายจักรกฤษ สลักเพชร กล่าวหลังจากที่เดินทางไปยังที่เกิดเหตุพบว่า สถานการณ์เพลิงไหม้มีความรุนแรงมากกว่าที่ได้รับรายงาน รถดับเพลิงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 50 คน ต่างระดมการช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถที่จะดับเพลิงที่มีความรุนแรงได้ เนื่องจากเพลิงได้ลุกไหม้จากชั้นล่างไปยังชั้นบน คือชั้นที่ห้า และกำลังลุกลามจากท้ายเรือไปยังหัวเรือ ซึ่งมีความเสียหายไปแล้วเกือบ 50%
นอกจากนี้ ยังมีลมพัดกระโชกแรงที่บริเวณที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง ทำให้เพลิงลุกไหม้รุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยในเวลา 13.45 น. ได้ประเมินสถานการณ์ร่วมกับนายอำเภอเกาะช้าง ผู้นำท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้างแล้ว น่าจะไม่สามารถที่จะดับเพลิงให้ดับลงได้ เนื่องจากไฟไหม้รุนแรงมากเกินไป รวมทั้งโรงแรมเรือร้างแห่งนี้ เป็นไม้ที่มีสภาพที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้ไม่สามารถที่จะดับเพลิงได้ จึงทำได้แต่เพียงควบคุมเพลิงไว้ไม่ให้ลุกลามไปยังบริเวณข้างเคียง คาดว่าทั้งหมดจะดับลงในเวลา 3 วัน
นายจักรกฤษ กล่าวอีกว่า ในส่วนของความเสียหาย ยังไม่สามารถประเมินได้ ต้องรอหารือกับทางผู้บริหาร หรือเจ้าของ คือนายโอฬาร อัศวฤทธิกุล ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานงาน ในส่วนของนักท่องเที่ยวที่เข้าไปชมโรงแรมเรือนี้ ทราบว่าระหว่างเกิดเหตุไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปชมแต่อย่างใด
สำหรับโรงแรมร้างแห่งนี้ นายโอฬาร อัศวฤทธิกุล ที่เป็นนักลงทุนอยู่ที่จังหวัดเพชรบุรี ได้นำไปประกอบธุรกิจที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อ 40 ปีที่ผ่านมา แต่หลังจากสถานการณ์ภายในประเทศกัมพูชา มีความน่าไว้วางใจ จึงได้ถอนการลงทุน และมาซื้อที่ดินที่บริเวณบ้านบางเบ้าติดกับคลองกลอย และนำเรือลำนี้ ที่เป็นเรือที่มีห้องพักสามารถรับนักท่องเที่ยวให้มาพักผ่อนได้ พร้อมลงทุนทำโรงแรมที่เรียกว่าโรงแรมเรือ หรือ "โฟร์ติ้ง Hotel" และเปิดบริการให้กับนักท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม สภาพธุรกิจที่ไม่ดีในหลายปีก่อน ทำให้นายโอฬาร เคยประกาศขายธุรกิจที่พื้นที่แห่งนี้ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ยังไม่มีการซื้อขายอย่างเป็นทางการ
ชมคลิป