30 พฤศจิกายน 2567 ความคืบหน้าเหตุเหตุสยอง โครงถักเหล็ก หรือ "ทรัส" (Steel launching Truss) ก่อสร้างทางยกระดับบนถนนพระราม 2 พังถล่ม จนมีผู้เสียชีวิต 6 ราย และบาดบาดเจ็บจำนวนมาก เมื่อช่วงเช้ามืดวานนี้ (29 พ.ย.) โดยล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ร่างของ นายอภิวัฒน์ หรือโจ้ อายุ 30 ปี ชาว จ.นครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งในเหยื่อที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ ได้เดินทางถึงภูมิลำเนา หมู่ 9 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม
โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า นายสำเริง อายุ 48 ปี และ นางกันนิกา อายุ 48 ปี พ่อแม่ของนายโจ้ ได้ปัดกวาดจัดเก็บสิ่งของเพื่อเตรียมรอรับร่างลูกชาย มีญาติและเพื่อนบ้านมาให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย ตั้งแต่เช้าจรดค่ำท่ามกลางอากาศหนาวเย็น มีอุณหภูมิ 16 องศาเซลเซียล จึงต้องก่อไฟผิงคลายหนาว
กระทั่งเวลาเที่ยงคืนเศษ ของคืนที่ผ่านมา รถตู้ได้นำร่างไร้วิญญาณของนายโจ้ เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายมาถึงบ้าน โดยพ่อแม่รวมถึงญาติพี่น้อง ได้ประกอบพิธีรับศพตามประเพณี มีภาพสะเทือนใจ ที่นางกันนิกา ร่ำไห้สะอึกสะอื้นตลอดเวลา เมื่อเห็นโลงศพของลูกชาย จากนั้นก็ย้ายโลงศพไปวางไว้ในบ้าน นายสำเริงผู้เป็นพ่อพยายามกลั้นน้ำตาไว้ จุดธูปหน้าโลงศพด้วยมือสั่นเทา พร้อมบอกลูกชายว่า “ถึงบ้านเราแล้วนะลูก”
นอกจากนี้ภาพสะเทือนใจที่สุด คือยังมีลูกชายทั้ง 3 คน ของนายโจ้ คนแรกอายุ 14 ปี คนที่สองอายุ 13 ปี และคนที่สามอายุ 9 ปี นั่งร่ำไห้รอรับศพพ่อ และจุดธูปไว้ศพพ่อด้วยความเสียใจ ส่วนน้องข้าวฟ่างลูกสาวคนสุดท้องอายุแค่ 3 ขวบ นอนหลับอยู่ในที่นอน ยังไม่รู้ว่าพ่อเสียชีวิต ทั้งนี้ทางครอบครัว วอนผู้เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ ตามความเหมาะสม ห่วงที่สุดคือ ทุนการศึกษา อนาคตของลูกผู้เสียชีวิตทั้ง 4 คน เพราะผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว ปกติจะทำงานรับจ้าง หารายได้มาส่งเสียดูแลลูกและครอบครัว แต่พอขาดเสาหลักกระทบความเป็นอยู่แน่นอน
ทั้งนี้ ในการเยียวยาเบื้องต้นของผู้เสียชีวิตจากคานเหล็กถล่มครั้งนี้ ค่าทำศพสำหรับคนงานชาวไทย รายละ 50,000 บาท เงินทดแทนรายละ 792,792 บาท และเงินบำเหน็จไม่รวมดอกผล ส่วนผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวเมียนมา 2 ราย ได้เงินเยียวยาเหมือนคนไทย ยกเว้นเงินบำเหน็จเพียงอย่างเดียว