วันที่ 31 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนนี้ เวลา 20.00น.(วันที่ 30 ต.ค.2567) พ.ต.ท.นิมมาน นิกูโนสารวัตร(สอบสวน) สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันที่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง พื้นที่ หมู่4 ต.คลองแหอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.สส. ,พ.ต.ท.อดินันท์วงศ์หมัดทอง รอง ผกก.ป.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ต.ธีระพงศ์ วิชิต สว.สส. สายตรวจชุดวิหค และชุดเผชิญเหตุเวหา กำลังตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และชุดสืบสวนภาค9
ที่เกิดเหตุทราบว่ามีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.นฤมล ยิ้มแย้ม อายุ 55 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืน .38 ไทยประดิษฐ์ เข้าปากทะลุแก้มบาดเจ็บจนฟันหลุด หน่วยกู้ชีพคลองแห และญาติได้ช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่
ส่วนคนยิงคือ นายอดิศร กฐินทอง อายุ 30 ปี หรือโต้ ซึ่งเป็นลูกเขย หลังก่อเหตุได้วิ่งหลบหนีไปทางหลังบ้านพร้อมกับอาวุธปืนท่ามกลางความมืด
นอกจากนี้ ยังพบรถเก๋งโตโยต้า โคโรล่ารุ่นเก่าสีเขียว ทะเบียน สงขลา จอดอยู่ริมถนนข้างบ้าน ซึ่งเป็นรถของ นายอดิศร ที่ขับมาที่บ้าน กระจกหน้าแตกเป็นรูโบ๋ เพราะถูกญาติคนเจ็บขว้างก้อนหินใส่ขณะกำลังจะวิ่งหนีไปขึ้นรถ จนต้องทิ้งรถวิ่งหนีไป ตำรวจต้องระดมกำลังปิดล้อมพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาตัว เพราะคาดว่าน่าจะซ่อนตัวอยู่ในบริเวณเกิดเหตุ และใช้โดรนบินเพื่อหาตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากคนร้ายมีปืน และสภาพแวดล้อมที่มืดมาก เวลาผ่านไปกว่า 2 ชม. ก็ยังไม่พบตัวคนร้าย
เบื้องต้น จากการสอบถามสามีผู้ถูกยิง บอกว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอดิศร ซึ่งเป็นลูกเขย ได้ขับรถเก๋งมาหาลูก3คนที่บ้านแต่ตอนนั้นเมียไม่อยู่ และเข้าไปกินข้าวในบ้าน และแม่ยายได้บอกให้กลับได้แล้ว แต่นายอดิศร ขอเวลาอยู่ต่ออีก 5 นาที และแม่ยายไม่ยอมให้อยู่ต่อ เพราะมาที่บ้านนานแล้ว บอกให้กลับ นายอดิศร จึงเดินออกจากบ้านและชักปืนมายิงใส่แม่ยายเข้าที่ปาก และจะวิ่งไปขึ้นรถเก๋ง แต่ว่าถูกญาติๆ และชาวบ้านไล่ตาม จึงต้องวิ่งหนีลงไปในดงผักบุ้งข้างบ้าน
สำหรับนายอดิศร ลูกเขยตน ได้แยกกันอยู่กับลูกสาวตนมา3เดือนแล้ว
ต่อมาเมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา นายอดิศร ได้ยอมเข้ามอบตัวกับตำรวจที่ สภ.ทุ่งลุง ก่อนที่ทางตำรวจชุดสืบสวนสภ.หาดใหญ่ ได้ไปรับตัว และพากลับมาที่บ้านเกิดเหตุเพื่อค้นหาอาวุธปืน .38 ที่ใช้ก่อเหตุ พบว่าได้นำไปซ่อนไว้หลังบ้าน แต่ระหว่างที่ตำรวจคุมตัวชี้จุดเกิดเหตุ ได้มีคุณลุงซึ่งเป็นพี่ชายของแม่ยาย พยายามเข้ามาทำร้าย นายอดิศรด้วยความโกรธ แต่ตำรวจได้กันตัวเอาไว้ และรีบพาขึ้นรถไปยัง สภ.หาดใหญ่ เพื่อป้องกันความวุ่นวายบานปลายจากญาติที่ต่างโกรธแค้น
ส่วนคุณลุง ที่จะเข้ามาทำร้ายถึงกับหน้ามืดทรุดตัวนั่งลงกับพื้น หน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองคลองแห ต้องช่วยปฐมพยาบาล และพาตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่
จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายอดิศร ให้การว่า หลังจากที่ยิงแม่ยายแล้ว ทีแรกจะเดินไปขึ้นรถเก๋งแต่ถูกพ่อตาตามไล่หลังมา และตะโกนให้คนช่วยจับตัว และบอกให้ยิงตน จึงวิ่งหนีมาเรื่อยๆ และมาออกตรงหน้าสวนสาธารณะหาดใหญ่ ทีแรกจะเข้ามอบตัวที่ สภ.หาดใหญ่ แต่ก็กลัวว่าจะไม่ปลอดภัยเพราะญาติพี่น้องของแม่ยายเป็นตำรวจอยู่จึงเดินมาเรื่อยๆ และระหว่างทางก็ขออาศัยรถชาวบ้านบ้าง อ้างว่ารถเสีย จนมาถึงปั้มน้ำมันในพื้นที่ต.บ้านพรุ ระหว่างนั้นได้โทรศัพท์กลับไปหาพ่อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง และขอช่วยให้เด็กปั้มโทรไปหาตำรวจ สภ.ทุ่งลุง เพื่อให้มารับตัวเพราะว่าตนเดินไปมอบตัวไม่ไหวแล้ว เดินจนเท้าเจ็บ
นอกจากนี้ นายอดิศร เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ต้นตอของเรื่องนี้มาจากการที่แม่ยาย พาลูกเมียของตนกลับมาอยู่ที่บ้านเพื่อให้ห่างกันและบอกว่ากำลังจะมีคนมาขอเมียตนแต่งงาน เพราะอยู่กับตนลำบาก ซึ่งตนช็อกมาก เพราะอยู่กินกันมา13ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน อายุ 5 ปี 7 ปี และ 10 ปี และตนกับเมียก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรกัน ที่ผ่านมา ก็ทำงานหาเลี้ยงครอบครัวคนเดียว ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นโดนแยกกันอยู่กับเมียมาประมาณ2เดือน
เรื่องนี้เริ่มจากเมื่อ 2 เดือนก่อน แม่ยายไปรับลูกเมียของตนจากบ้านมากินหมูกะทะ แต่พอตนจะไปรับกลับ แม่ยายก็ไม่ให้กลับบอกว่าไม่ให้อยู่ด้วยกันแล้ว เมื่อไม่ยอมให้ลูกเมียกลับไปอยู่ที่บ้าน ตนก็ขอมาทำงานและอยู่กับลูกกับเมียที่บ้านแม่ยาย แต่แม่ยายก็ไม่ยอมให้อยู่ ซึ่งตอนนั้นตนยังไม่รู้ว่ามีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่มารู้จากลูกเล่าให้ฟังว่ามีคนมารับเมียรับลูกไปกินข้าว และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ตนไปเห็นเต็มตา และเข้าไปพูดกับชายคนนั้นตรงๆว่า อย่ามายุ่งกับลูกกับเมียตน
ซึ่งถ้าตนคิดร้ายจริงๆ หรือพกปืนทุกวัน คงยิงชายคนนั้นตั้งแต่วันนั้นไปแล้วไม่ดีกว่าหรือ ทั้งที่รู้ว่าทำกันแบบนี้ แต่ก็ทนเจ็บสะสมมามาก จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (30 ต.ค.2567) แม่ยายบอกว่า จะมีคนมาสู่ขอเมียตน ซึ่งฟังแล้วมันแทงใจดำมาก และตนขอมานอนที่บ้านแม่ยาย1คืน เพื่อขอคุยกับเมียว่า ถ้าไม่อยู่ด้วยกันแล้วก็บอกตรงๆตนจะได้ทำใจ แต่ว่าเมียกลัวเสียความรู้สึกไม่กล้าบอกตรงๆ และบอกว่าจะให้คำตอบในวันนี้ตอนค่ำ ก็เลยขับรถมาหาเมียที่บ้านแม่ยาย
นายอดิศร กล่าวอีกว่า ความตั้งใจจริงไม่ได้จะมายิงแม่ยาย แต่จะมายิงหัวตัวเองในบ้านแม่ยาย ด้วยความที่เจ็บใจทั้งเมียและแม่ยาย และก่อนหน้านี้ก็คุยกับเมียทางมือถือไว้ก่อนแล้วว่า ถ้าตนตายก็ให้มาร่วมงานศพ และบอกให้ซื้อของมาเตรียมไว้ และยังบอกกับแม่ยายด้วยว่า ถ้าไปงานศพตนอย่าไปทะเลาะกับแม่ตน และยังได้ลาพ่อลาแม่มาแล้วด้วยเพราะเหนื่อยกับชีวิตมามาก และตอนที่มาที่บ้านแม่ยายก็บอกกับเมียว่า ขอกินข้าวด้วยกันเป็นมื้อสุดท้ายด้วยความที่เจ็บใจ และคำตอบที่ได้จากปากเมียคือ มันเป็นไปไม่ได้แล้วที่จะกลับไปเหมือนเดิม ตนถึงกับกินข้าวไปร้องไห้ไป และถึงกับกราบตีนเมียอ้อนวอนขอให้กลับมาอยู่ด้วยกันเพราะรักเมียรักลูกมาก
และตอนที่นั่งคุยกับเมีย กลับถูกแม่ยายไล่ให้กลับ และทีแรกตนก็ตั้งใจจะกลับเดินออกไปใส่รองเท้าแล้ว แต่ถูกแม่ยายด่าไล่หลัง บอกไม่ต้องกลับมาเหยียบที่นี่อีก พอได้ยินคำนี้จึงชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ทันทีโดยที่แทบไม่ได้เล็งและถึงตอนนี้ นายอดิศร บอกว่า ที่ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เสียใจยอมรับผิด ขอโทษกับทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ตอนนั้นห้ามใจตัวเองไม่ได้ ถ้าย้อนเวลากลับได้จะไม่ทำ
หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ได้ทำบันทึกการจับกุมพร้อมกับคุมตัวดำเนินคดี 4 ข้อหาคือพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา,พกพาอาวุธปืนติดตัวเข้าไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ,มีอาวุธปืนซึ่งนายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครอง,ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรเร่งด่วน