"สลากเสมอภาค"เพื่ออนาคตการศึกษาของเด็กและเยาวชนฉบับแรกของประเทศ เป็น"สลากการกุศล" ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 23 ก.ค.67 ที่รัฐบาลสนับสนุนให้ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ใช้ในการดำเนินงานตามมาตรการ "Thailand Zero Dropout" วงงบประมาณ 135.98 ล้านบาท เพื่อพาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา จำนวน 5,750 คนเข้าสู่ระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่น ตอบโจทย์ชีวิต และสนับสนุนเยาวชนอีกจำนวน 456 คน ได้ทุนเรียนต่อหลักสูตรระยะสั้น 1 ปี สาขาผู้ช่วยพยาบาล และผู้ช่วยทันตแพทย์ใน 15 สถาบันทั่วประเทศ เมื่อสำเร็จการศึกษาจะช่วยให้มีรายได้ออกจากกับดักความยากจนข้ามรุ่นได้สำเร็จในรุ่นของพวกเขาทันที
เพราะ"กสศ."เชื่อว่า การให้โอกาสทางการศึกษา คือการลงทุนที่ไม่มีวันขาดทุน และทุกคนสามารถร่วมด้วยช่วยกันได้
นอกจากการขับเคลื่อนผ่าน "สลากการกุศลเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา"แล้ว ที่ผ่านมา กสศ. ยังได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่าย มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมทางการเงินและการคลัง เพื่อสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนร่่วม ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในอีกหลายรูปแบบ เช่น บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) ภาคเอกชนแห่งแรกของประเทศไทยที่ออกหุ้นกู้เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การริเริ่มโมเดลการจ่ายเงินตามความสำเร็จ หรือ Outcomes Based Contract รวมถึงการริเริ่มข้อเสนอต่อรัฐบาลหรือบริษัทเอกชนออกพันธบัตรหรือตราสารหนี้เพื่อสังคม
นอกจากนี้ ทุกคนยังสามารถสมทบความช่วยเหลือไปกับ กสศ. เพิ่มเติม พร้อมได้สิทธิลดหย่อนภาษี 2 เท่า ได้ที่ https://www.eef.or.th/donate/
"กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา" หรือ "กสศ." เป็นองค์กรที่มุ่งสนับสนุนเด็ก เยาวชน ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาสสามารถเข้าถึงการศึกษาและการเรียนรู้ที่มีคุณภาพอย่างเต็มตามศักยภาพ โดยในแต่ละปี กสศ.ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายสามารถป้องกันเด็ก และเยาวชนจำนวน 1.2 ล้านคน ไม่ให้หลุดจากระบบการศึกษา
#กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา #กสศ
#ThailandZeroDropout