สรุปไทม์ไลน์ คดี "ฝรั่งเตะหมอ" ที่ภูเก็ต เกิดอะไรขึ้นบ้าง ก่อนศาลตัดสินยกฟ้อง

ภายหลังศาลแขวงภูเก็ตมีคำพิพากษายกฟ้อง คดีที่แพทย์หญิงธารดาว จันทร์ดำ หรือ "หมอปาย" ถูกนายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ เจ้าของปางช้างชื่อดังเมืองภูเก็ต ทำร้ายร่างกายด้วยการเตะถีบเข้าบริเวณหลัง ขณะนั่งบริเวณบันไดของวิลล่าหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นทางลงชายหาดยามู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ต่อมา "หมอปาย" ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายเดวิด ข้อหาทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2567 

"NationTV" สรุปให้ ก่อนหน้านี้คดีดังกล่าวมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง

ปฐมบท "ฝรั่งเตะหมอ"

คดีดังที่สะเทือนเกาะภูเก็ตนี้ เริ่มขึ้นหลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Chaiyachot Uttamang" โพสต์ร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาว ซึ่งเป็นคุณหมออยู่ที่ จ.ภูเก็ต ว่า ถูกชายชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นเจ้าของศูนย์อนุรักษ์ช้างฯ ใช้เท้าเตะบริเวณกลางหลัง ที่นั่งอยู่บริเวณบันไดทางลงชายหาด โดยอ้างว่าเป็นการบุกรุก

หนำซ้ำภรรยาคนไทยของต่างชาติคนดังกล่าว ยังด่าทอลูกสาวด้วยถ้อยคำหยาบคาย อ้างว่าลูกชายเป็นตำรวจ ยิงคนตายก็ไม่ผิด และยังบอกอีกว่ารู้จักนายตำรวจใหญ่ของภูเก็ต จะเอาลูกสาวของตนเองเข้าคุกให้ได้

พ่อของคุณหมอ บอกว่า ลูกสาวของผมเป็นคนสุภาพและถ่อมตนเป็นปกติ เขียนข้อความออกมาจากร่างกายและจิตใจของเธอที่ถูกทำร้าย มีลำดับเหตุการณ์ดังนี้

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2567 เวลาประมาณ 19.30 น. เราไปกินข้าวกับเพื่อนผู้หญิงที่เป็นหมอด้วยกัน ที่ร้าน Taste Yamu หลังกินเสร็จก็ชวนกันไปเที่ยวหาดสาธารณะแถวใกล้บ้านบริเวณ Cape Yamu ปกติไปเดินเที่ยวบ่อยเนื่องจากเป็นหาดที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด และค่อนข้างปลอดภัย

ตอนเราเดินไปที่หาดกับเพื่อนเจอพี่ยามคนนึง แกก็ถามว่าเรามาดูดวงจันทร์ใช่มั้ย เพราะมันเป็นวันมาฆบูชา(ฟูลมูน) เลยตอบไปว่า ใช่ค่ะ พี่ยามก็บอกว่า ครับ เอนจอย ครับ แล้วเดินจากเราไป เรากับเพื่อนเดินดูดวงจันทร์บนชายหาดกันสักพัก รู้สึกเมื่อยและอยากนั่งพัก จึงเดินไปนั่งตรงบันไดที่ปลูกลงมาบริเวณชายหาดที่ต่อลงมาจากวิลล่า หมายเลข 23 เพราะคิดว่าเป็นบันไดของชายหาด โดยที่เท้ายังจุ่มอยู่บนพื้นทราย

ในขณะที่เรานั่งอยู่ รู้สึกเหมือนมีใครเดินมาข้างหลัง จึงหันไปพูดกับเพื่อนว่า รู้สึกเหมือนมีคนเดินมา จากนั้นพลันก็รู้สึกสะเทือนหนักหน่วงไปทั้งร่าง เมื่อได้สติก็ทำให้รู้ว่า เกิดจากหน้าแข้งที่กระหน่ำเตะลงมาที่กลางหลัง จากชายชาวต่างชาติตัวใหญ่น้ำหนักราว 100 กิโลกรัม ในสภาพหน้าแดง เหงื่อท่วม กำลังถือโทรศัพท์เพื่ออัดวิดีโอ และสบถด่าคำหยาบออกมาสารพัด เรากับเพื่อนเลยเดินไปหาพี่ยาม บนป้อมยามบนเนินข้างบน แล้วบอกว่า "พี่คะ หนูถูกทำร้ายร่างกาย" พี่ยามก็ตกใจและพาเราไปยังหน้าวิลล่า 23 ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ

ฝรั่งคนนั้นแสดงอาการโกรธ สบถคำด่าออกมาสารพัด จากนั้นภรรยาชาวไทยพร้อมแผงสร้อยเพชรเม็ดโตก็เดินออกมา ตอนนั้นเรากับเพื่อนแอบดีใจเพราะคิดว่าจะเคลียร์กันได้ แต่ประโยคแรกที่ภรรยาชาวไทยพูด ถึงกับทำให้เรากับเพื่อนสตันท์ไป เพราะเธอบอกว่า "นี่อีดอ* สองตัวนี้มานั่งอยู่หน้าบ้านกุ พวกมึ* รู้มั้ยต่อให้พวกกุ ยิงพวกมึ*ตาย กูก็ไม่ผิด เพราะลูกกูเป็นตำรวจ และรู้จักนายตำรวจใหญ่ของภูเก็ต กูจะเอาพวกมุ*เข้าคุกให้ได้ กูจะโทรหาท่านรองเดี๋ยวนี้" จากนั้นเธอก็โทรหาตำรวจยศใหญ่ของเธอว่า ให้ส่งตำรวจมา


ผ่านไปประมาณ 15 นาที มีตำรวจ 2 คนเดินมา คนหนึ่งแต่งตัวนอกเครื่องแบบ ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นตำรวจในเครื่องแบบ ตำรวจหนุ่มทั้งสองพยายามมาเจรจาเคลียร์เรื่อง หลังจากที่ตำรวจมาคุยกับเรา เราก็บอกกับตำรวจว่า เราถูกทำร้ายร่างกาย ชายชาวต่างชาติก็มาพูดกับเราว่า "อ่อเป็นชนพื้นเมือง เป็นคนไทยเหรอ รู้มั้ยชั้นไม่ได้จ่ายค่าเช่าวิลล่าเดือนละล้านบาท มาให้พวกมุ*นั่งหน้าบ้านกุ"

เราก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร หลังจากนั้น ตำรวจก็เดินมาพูดกับเราว่า ตอนนี้มันผิดกันทั้งสองฝ่าย ฝ่ายเราเป็นคนบุกรุกมีโทษหนักกว่าต้องติดคุก 4 ปี ฝ่ายเขาแค่ทำร้ายร่างกาย จ่ายเงินก็จบ เราเลยช็อกไป ตำรวจนายหนึ่งบอกว่าต้องเคลียร์ให้ยอมความกันให้ได้ จะได้ไม่ต้องถึงโรงพัก

เราจึงเสนอให้ 3 ทางเลือก คือ 1. ต่างคนต่างขอโทษแล้วจบ 2. ต่างคนต่างไม่ขอโทษแล้วจบ 3. ไปคุยกันที่โรงพัก ฝั่งนู้นเค้าบอกว่า "#เราขอโทษฝรั่งได้_แต่ฝรั่งจะไม่ขอโทษเรา #และเราจะต้องติดคุก"

หลังจากนั้นเราจึงไปแจ้งความที่ สภ.ถลาง หลังจากแจ้งความ เราได้ทราบชื่อของชาวต่างชาติคนนี้ ซึ่งทำให้เราช็อกมาก เพราะชายคนนี้เป็นชาวสวิส ชื่อ …  เป็นเจ้าของ … ที่เคลมว่าเค้าจะปกป้องดูแลช้างและไม่ทำร้ายช้าง แต่เค้าทำร้ายผู้หญิงค่ะ!

รบกวนขอความยุติธรรมกับเรื่องนี้ด้วยนะคะ เพราะอีกฝั่งเป็นชาวต่างชาติที่มีอิทธิพลในภูเก็ต มีข้อสังเกตว่ามีตำรวจยศใหญ่คอยช่วยเหลือดูแลอยู่เบื้องหลัง และเราคิดว่าเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น #ไม่สมควรมีคนไทยคนไหนโดนชาวต่างชาติทำร้ายร่างกาย #คนไทยผู้เป็นสุจริตชน #ผู้เป็นเจ้าของแผ่นดินไทยค่ะ

จาก #ผู้หญิงไทยคนหนึ่งผู้ถูกชายชาวต่างชาติคนหนึ่งทำร้าย
(28 กุมภาพันธ์ 2567)

ต่างชาติคู่กรณีอ้างสะดุดล้ม แล้วเท้าไปถูกหลังคุณหมอ

เรื่องราวของคุณหมอปายถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะสื่อท้องถิ่นของ จ.ภูเก็ต ที่เฝ้าติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยมองว่าพฤติกรรมทำร้ายคนไทย และยังอ้างถึงตำรวจยศใหญ่ เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้

ต่อมา ชายต่างชาติคู่กรณีคุณหมอ พร้อมทนายความ ได้เดินทางมาที่ สภ.ถลาง และให้สัมภาษณ์เปิดใจกับเพจ "โหดจัง จังหวัดภูเก็ต" เป็นที่แรก โดยบอกว่า "ไม่ได้เตะคุณหมอ แต่เป็นการสะดุดล้มจากบันได ทำให้เท้าไปโดนหลังคุณหมอ และตนเองรู้สึกเสียใจ อยากให้เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้"

ทนายความของชายต่างชาติรายนี้ บอกด้วยว่า มีคลิปวิดีโอที่ลูกความถ่ายเหตุการณ์ไว้ ซึ่งสามารถยืนยันได้ว่า มีการถีบ หรือกระทืบคุณหมอหรือไม่ แต่ยังไม่ขอเปิดเผย ทั้งนี้ ตนเองได้ดูคลิปแล้ว มองว่าคุณหมอไม่น่าจะได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่เป็นเพียงการเห็นจากคลิปเท่านั้น เพราะตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์



"หมอปาย" เข้าแจ้งความ ถูกต่างชาติเตะหลัง ยัน ดำเนินคดีถึงที่สุด 

29 ก.พ. 2567 แพทย์หญิง ธารดาว หรือ "หมอปาย" และ นายเกษม จันทร์ดำ (บิดา) เดินทางเข้าให้ปากคำกับ พ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ถลาง โดยมี พ.ต.อ.ภาสกร สนธิกุล รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ร่วมทำการสอบปากคำด้วย

แพทย์หญิง ธารดาว เปิดเผยก่อนเข้าพบตำรวจ ยืนยันสู้เต็มที่ เอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะไม่ควรมีใครมาโดนเรื่องแบบนี้ ไม่ควรจะมีคนไทยคนไหน ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีก และยืนส่วนที่ต่างชาติจะมีการแจ้งความ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ กรณีที่คุณพ่อโพสต์ผ่านโซเชียล นั้นทุกอย่างคือความจริง ก็ว่ากันไปตามกฎหมาย

ส่วนที่ชาวต่างชาติกล่าวอ้างว่า ลื่นหรือสะดุดล้ม แพทย์หญิง ธารดาว ถามกลับว่า หากลื่นล้มแล้วจะทำอย่างไร ก็ต้องขอโทษใช่ไหม 

"หมอเป็นคนถูกกระทำ มีความเครียด มีความกังวลระดับหนึ่ง อีกอย่างกลัวด้วย เพราะเหมือนว่าเค้ามีแบ็คอัพใหญ่ และดูว่าเป็นคนที่มีเงินเยอะ ส่วนตนเป็นแค่หมอตัวเล็กๆ คนหนึ่ง จึงอยากให้กฎหมาย ความยุติธรรม และตำรวจมาช่วยเหลือให้ได้รับความยุติธรรม ที่คนไทยคนหนึ่งควรจะได้" หมอปาย ระบุ

แพทย์หญิง ธารดาว ยังบอกอีกว่า ไม่ควรมีใครได้รับการเหยียด อีกอย่างเขาเป็นชาวต่างชาติที่มาอยู่ในประเทศไทย มาหากินกับคนไทย เปิดธุรกิจต่างๆ ในผืนแผ่นดินไทย คุณไม่ควรเหยียดใครว่าเป็น local เราควรอยู่กันอย่างสงบสุข ไม่ควรจะเหยียดกัน ต่อให้รวยล้นฟ้าหรือมีอำนาจมากแค่ไหนก็ไม่ควรจะเหยียดใคร จากการตรวจร่างกายยังคงปวด เพราะน้ำหนักของคู่กรณีเกือบ 100 กิโลกรัม และขอบคุณที่ทุกคนช่วยเป็นกำลังใจและได้รับความยุติธรรม

ผกก.ถลาง ยืนยันไม่รู้จักชายต่างชาติ

ส่วนความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.นิกร ชูทอง ผกก.สภ.ถลาง กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุทั้งสองฝ่ายมีการเจรจา แต่ตกลงกันไม่ได้ สายตรวจจึงแนะนำให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย และแจ้งความเมื่อวันที่ 25 ก.พ. 2567

พ.ต.อ.นิกร ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้สนิทสนมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามที่มีการกล่าวอ้าง และเช้าวันที่ 29 ก.พ. 2567 พนักงานสอบสวนได้นัดสอบปากคำคุณหมอ ผู้เสียหาย รวมทั้งรวบรวมเอกสารใบตรวจร่างกาย และหลักฐานจากผู้เสียหาย เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี

ส่วนที่มีการระบุว่า คู่กรณีคุณหมออ้างรู้จักกับนายตำรวจยศใหญ่ในพื้นที่ ผกก.สภ.ถลาง ยืนยันว่า ไม่ได้รู้จักกับตำรวจรายใดเป็นพิเศษ คู่กรณีประกอบธุรกิจส่วนตัว อาจจะรู้จักตำรวจที่อื่นเป็นการส่วนตัว แต่สำหรับตนเองไม่รู้จัก เพราะเพิ่งย้ายมาอยู่ที่ สภ.ถลาง

โซเชียลตั้งคำถาม บันไดวิลล่าหรู อยู่ในที่สาธารณะหรือไม่?

อย่างไรก็ตาม จากประเด็นชายต่างชาติทำร้ายร่างกายคุณหมอ เพราะไปบุกรุกวิลล่าหรูของตนเองนั้น แต่จากคำยืนยันของคุณหมอที่บอกว่า เป็นเพียงการนั่งบริเวณบันไดขั้นสุดท้ายทางขึ้นวิลล่า และเท้าจุ่มทราย จึงคิดว่าจุดดังกล่าวเป็นที่ของชายหาดสาธารณะ ทำให้เพจโซเชียลต่างๆ จึงช่วยกันค้นหาข้อเท็จจริง

โดยเพจ "ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคใต้" โพสต์ตั้งคำถามว่าที่ดินบริเวณ Cape Yamu แหลมยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นที่ดินรูปแบบใด เนื่องจากได้ค้นหารูปแปลงที่ดิน (LandsMaps) เบื้องต้นไม่เจอเอกสารสิทธิ

และยังโพสต์เอกสารเรื่องเขตประกาศพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมจังหวัดภูเก็ต ตามประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็จะมีข้อห้ามการใช้พื้นที่ รวมทั้งการกำหนดแนวถอยร่นจากหน้าหาดไปจนถึงชายทะเล ที่ส่วนใหญ่จะต้องไม่มีการใช้ประโยชน์ที่ระยะ 30-50 เมตร รวมทั้งกำหนดเรืองความสูงของอาคาร และกิจกรรมที่กระทบต่อชายหาดด้วย

ด้าน "เพจโหดจัง จังหวัดภูเก็ต" เรียกร้องให้ นายอำเภอถลาง กรมที่ดิน และเทศบาลฯ ตรวจสอบการก่อสร้าง และใบอนุญาตก่อสร้าง รวมไปถึงบันไดที่เกิดเหตุด้วยว่า อยู่ในที่สาธารณะหรือไม่ จนวันที่ 29 ก.พ. 2567 นายอำเภอถลาง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบวิลล่าหรูดังกล่าวแล้ว

หลังจากนั้น "ศูนย์ข้อมูลภูเก็ต Phuket Info Center" ได้โพสต์ข้อความว่า เจ้าหน้าที่อำเภอถลางและปกครองรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงตรวจสอบ พบบันไดดังกล่าวรุกลงในที่สาธารณะ จึงสั่งรื้อภายใน 3 วัน 

นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊ก "อีซ้อขยี้ข่าว" ยังได้แชร์คลิปวิดีโอ พร้อมระบุข้อความว่า..

ผัว-เมียเตะหมอภูเก็ตแช่ขวา ชูนิ้วกลางกร่างใส่รถกู้ชีพ...แต่ที่มันแซ่บไปกว่านั้นฟ้องกลับคู่กรณีเอาผิด พ.ร.บ.คอมกับรถพยาบาลให้เหตุผลว่าผิดกฎจราจรโทษน้อยกว่าเพราะฉันรู้จักตำรวจใหญ่ๆ ภูเก็ตหลายคน

คดีอยู่ที่ สภ.ถลาง - เชิงทะเล จ.ภูเก็ต

แห่ถ่ายรูปจุดเกิดเหตุ "ฝรั่งเตะหมอ"  

2 มี.ค. 2567 ตลอดช่วงเช้า มีประชาชน ทั้งที่เป็นชาวบ้านที่อยู่อาศัยในพื้นที่ตำบลปากคลอกและใกล้เคียง ได้เดินทางมาถ่ายรูปบริเวณบันไดวิลล่าหรู เพื่อเป็นที่ระลึก โดยประชาชนคนหนึ่ง บอกว่า หลังดูข่าวจากทางสื่อต่างๆ จึงอยากมาดูพื้นที่จริง และต้องการมาถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ก่อนที่จะมีการรื้อบันไดบริเวณจุดดังกล่าว

เทศบาลพบบุกรุกที่สาธารณะ 4 จุด  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณบันไดจุดเกิดเหตุ ได้มีการติดประกาศคำสั่งให้รื้อถอนในส่วนของแนวบันได ที่รุกล้ำชายหาดออกไป ภายในระยะเวลา 30 วัน นับตั้งแต่มีการปิดประกาศ ซึ่งได้มีการปิดประกาศไว้เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 2567

นายปัณยา สำเภารัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุ และมอบหมายให้นิติกรเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับบริษัทเอกชน เจ้าของวิลล่า เนื่องจากพบว่า ได้มีการก่อสร้างอาคารรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ (ชายหาด) หน้าวิลล่าหลังเกิดเหตุ ประกอบด้วย 

• แนวบันไดไม้ ขนาดกว้างประมาณ 1.23 เมตร ยาว 4.70 เมตร จำนวน 1 แห่ง
• ลานนั่งเล่นไม้ ขนาดกว้างประมาณ 4.80 เมตร ยาว 4.70 เมตร จำนวน 1 แห่ง
• แนวบันไดคอนกรีต ขนาดกว้างประมาณ 3.38 เมตร ยาว 1.60 เมตร จำนวน 1 แห่ง
• แนวกำแพงกันดินหินกล่อง สูงประมาณ 1.00 เมตร ยาว 18.90 เมตร 

สำหรับการรื้อถอนต้องกระทำภายใน 30 วัน นับจากวันที่มีการแจ้งความดำเนินคดี โดยผู้ถูกร้องสามารถอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวได้ แต่ถ้าไม่อุทธรณ์คำสั่งภายใน 30 วันและไม่มีการรื้อถอน ทางเทศบาลจะเข้าไปดำเนินการรื้อถอนเอง

ชาวภูเก็ตไม่ขอทน รวมตัวขับไล่ "เดวิด"

3 มี.ค. 2567 ประชาชนคนภูเก็ตและชาวบ้านยามู ได้มีการนัดหมายรวมตัวกัน เพื่อแสดงจุดยืนถึงความไม่พอใจพฤติกรรม ของชายชาวสวิสเซอร์แลนด์ คู่กรณีของหมอปาย ซึ่งเป็นผู้เช่ารีสอร์ทจุดเกิดเหตุ ต้องการให้ออกจากพื้นที่

โดยก่อนหน้านี้ ประชาชนในพื้นที่ ได้มีการระบุถึงพฤติกรรม เคยมีปากเสียงทะเลาะกับชาวบ้านในชุมชนบ้านยามู ถึงขั้นเปิดประตูลงมาจากรถ และโชว์ให้เห็นว่ามีอาวุธปืน ชาวบ้านเห็นแล้วรับไม่ได้กับพฤติกรรมการก้าวร้าว เมื่อเกิดเหตุการณ์ "ฝรั่งเตะหมอ" ชาวบ้านยามูยิ่งรับไม่ได้ มีรวมตัวก่อม็อบกันที่บริเวณสวนสาธารณะ ห่างจากวิลล่าประมาน 500 เมตร 

โดยเมื่อช่วงสายของวันนั้น ที่บริเวณหาดยามู หลังชาวโซเชียลนัดรวมตัวกันทวงคืนหาดยามู ภายใต้สโลแกน "get out David" ปรากฏว่า ตั้งแต่เวลา 09.30 น. มีมวลชนกว่า 300 คน ทยอยเดินทางมาที่บริเวณชายหาดยามู ตรงจุดบันไดที่เกิดเหตุพิพาท ระหว่างแพทย์หญิง และชายต่างชาติชาวสวิสเซอร์แลนด์ โดยผู้ชุมนุมมีการจัดกิจกรรมเขียนป้าย และแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ พร้อมตะโกนขับไล่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการนำอาหาร และเครื่องดื่มมาแจกจ่ายด้วย โดยยืนยันว่า จะไม่มีการเปิดรับบริจาคเพื่อจัดกิจกรรมแต่อย่างใด

ขณะที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชายชาวต่างชาติคู่กรณีแพทย์หญิง ยังเก็บตัวเงียบคาดว่า ไม่ได้อยู่ภายในวิลลาตั้งแต่เมื่อคืนก่อน เนื่องจากสังเกตว่า ไม่พบรถหรูป้ายแดงที่เคยจอดไว้ภายในบ้าน

ในวันดังกล่าว ประชาชนทยอยหมุนเวียนกัน มาทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ตร.ภูเก็ต รวบรวมหลักฐานส่ง ตม. พิจารณาเพิกถอนวีซ่า "เดวิด"


4 มี.ค. 2567 พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 กล่าวถึงกรณี "เดวิด" ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย "หมอปาย" ขณะนั่งอยู่บริเวณชายหาดยามู สภ.ถลาง รวมทั้งอยู่ระหว่างสอบสวน ขับรถประมาทหวาดเสียว ข่มขู่ และร้องทุกข์กล่าวหาพลขับ รพ.ถลาง หมิ่นประมาทฯ ปัจจุบันถอนคำร้องทุกข์ ที่ สภ.เชิงทะเล เมื่อ 2 มี.ค. 2567

และยังมีปัญหาเรื่องการบุกรุกที่ดินสาธารณะ การออกเอกสารสิทธิ์ครอบครองที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบต้องตรวจสอบอีก ปัญหาขัดแย้ง-ทะเลาะวิวาท ผู้ให้เช่าอาคารที่ตั้งสำนักงาน แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ข่มขู่คู่กรณี รอการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม

ทั้งนี้ นายเดวิด ได้รับการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรด้วยเงื่อนไข "มีเหตุจำเป็นทางธุรกิจ" และ "เป็นคู่สมรสของผู้มีสัญชาติไทย" พักอาศัยอยู่ที่ ซอยเชิงทะเล 1 ถ.ศรีสุนทร ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต 

พฤติกรรมของนายเดวิด มีเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมละเมิดกฎหมาย ข่มขู่จะก่อเหตุร้ายอันตรายต่อความสงบสุข หรือความปลอดภัยของประชาชน ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 12(7) ขณะนี้ ภ.จว.ภูเก็ต รวบรวมพยานหลักฐานส่ง ตม.จว.ภูเก็ต เพื่อขอเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของคนต่างด้าว หากได้รับผลการพิจารณาคดีอาญาจะส่งเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ต่อไป

ส่วนกรณีการกล่าวอ้างนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เข้าไปหยุงเหยิงกับพยานหลักฐาน อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง สิ่งเกิดขึ้นเป็นการกระทำของบุคคล ทั้งใช้กำลังประทุษร้าย ดูหมิ่น ดูแคลน เกินสมควร จึงเกิดการทวงถาม ถึงการได้รับความคุ้มครอง ความสุภาพ และเคารพ ซึ่งกันและกัน ตลอดจนความยุติธรรมในการสืบสวนสอบสวนคดีที่เกิดขึ้น

รื้อบันได

5 มี.ค. 2567 บริษัทเอกชน เจ้าของวิลล่า ได้นำคนงาน และแบ็คโฮ เข้ามารื้อถอนแนวบันไดเจ้าปัญหา ซึ่งก่อสร้างด้วยคอนกรีต ขนาดกว้างประมาณ 3.38 เมตร ยาว 1.60 เมตร เป็นที่เรียบร้อย

นอกจากนี้ยังมีการรื้ออีก 3 จุด ที่ถูกตรวจพบภายหลังว่ารุกล้ำที่สาธารณะเช่นกัน ได้แก่ 

• แนวบันไดไม้ ขนาดกว้างประมาณ 1.23 เมตร ยาว 4.70 เมตร จำนวน 1 แห่ง
• ลานนั่งเล่นไม้ ขนาดกว้างประมาณ 4.80 เมตร ยาว 4.70 เมตร จำนวน 1 แห่ง
• แนวกำแพงกันดินหินกล่อง สูงประมาณ 1.00 เมตร ยาว 18.90 เมตร 

ด้าน นางสาวณปภัช เศรษบุบผา ประธานชมรมสตรอง จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า เบื้องต้นพอใจที่มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างมี่ลุกล้ำชายหาด และอยากให้เป็นกรณีตัวอย่างสำหรับหาดอื่นๆ เพื่อให้คนทั่วไปสามารถเข้าไปใช้ได้

ตม.เพิกถอนวีซ่า

7 มี.ค. 2567 พ.ต.อ.ปริญญา กลิ่นเกษร รอง ผบก.ตม.1 ในฐานะรองโฆษก สตม. เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 6 มี.ค. 2567 พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 ได้ลงนามอนุมัติเพิกถอนวีซ่าของนายเดวิด ตามที่ ตม.จว.ภูเก็ต เสนอแล้ว


โดยเห็นว่า การกระทำของนายเดวิดมีพฤติการณ์เป็นที่น่าเชื่อว่าเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม หรือจะก่อเหตุร้ายให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขและความเรียบร้อยของประชาชน หลังจากนี้ ตม.จังหวัดภูเก็ต จะทำเป็นหนังสือแจ้งให้เจ้าตัวทราบและทำการควบคุมตัวไปยังห้องกัก ตม.จังหวัดภูเก็ต 

แต่อย่างไรก็ตาม นายเดวิด ยังอยู่ระหว่างการต่อสู้คดีกรณีทำร้ายร่างกายฯ ยังสามารถใช้สิทธิประกันตัวเพื่อออกมาต่อสู้คดีความจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ซึ่งขอยืนยันว่า ทาง ตม.จังหวัดภูเก็ต พร้อมที่จะดำเนินการตามอำนาจภายใต้กรอบกฏหมาย 

ตม.ให้ประกัน - "เดวิด" ขออุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนวีซ่า

พ.ต.อ.ปริญญา เปิดเผยด้วยว่า ภรรยาของนายเดวิด ได้ยื่นขอประกัน นายเดวิด ผู้ต้องหาคดีทำร้ายหมอที่ จ.ภูเก็ต พร้อมวางเงินประกันจำนวน 100,000 บาท โดยให้เหตุผลว่าอยู่ในระหว่างต่อสู้คดีในชั้นศาล 

ภายหลังรับเรื่อง ผบก.ตม.6 พิจารณาอนุมัติให้ประกันตัวได้ 30 วันตามระเบียบ โดยมีเงื่อนไข 

1. ต้องพักอาศัยอยู่ในบ้านพักที่มีการยื่นคำร้องไว้กับทาง ตม.จว.ภูเก็ต เท่านั้น 
2. ต้องมารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ทุก 15 วัน 
3. ห้ามรับจ้าง ทำงาน หรือกระทำการใดอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายเด็ดขาด 
4. ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร

นอกจากนี้ นายเดวิดยังได้มอบอำนาจให้ผู้แทนยื่นคำร้องขออุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรต่อคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมืองอีกด้วย

พ.ต.อ.ปริญญา กล่าวอีกว่า เป็นสิทธิ์ของนายเดวิด ที่จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งเพิกถอน ตม.จว.ภูเก็ต ไม่ได้มีความกังวลอะไร และมั่นใจในพยานหลักฐานที่ใช้เป็นเหตุผลในการเพิกถอน ขอยืนยันว่า สตม. ทำตามหลักเกณฑ์ของกฎหมาย และอยู่ในกรอบอำนาจหน้าที่ โดยยึดถือความสงบสุขของสังคมและประชาชนเป็นที่ตั้ง

"เดวิด" ได้ประกันแล้วยังไงต่อ?

สำหรับขั้นตอนหลัง "เดวิด" ได้ประกัน จะต้องอยู่ไทยอีกนานแค่ไหน? กว่าคดีจะสิ้นสุด

กรณีแรก การยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งเพิกถอนวีซ่า สามารถยื่นได้เพียง 1 ครั้ง ภายใน 48 ชั่วโมง หลังจากได้รับคำสั่งจากเจ้าพนักงาน ซึ่งกรณีนี้นายเดวิด ยื่นกับคณะกรรมการพิจารณาคนเข้าเมือง คณะกรรมการชุดนี้มีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน เรื่องจะผ่านไปตามขั้นตอน ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ จะมีการประชุมเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อพิจารณาว่าจะรับอุทธรณ์ หรือไม่รับอุทธรณ์ ถ้ายกอุทธรณ์ นายเดวิด ต้องไปร้องศาลปกครองภายใน 90 วัน และกระบวนการอาจต้องไปจบที่ศาลปกครอง ซึ่งยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะใช้ระยะเวลากี่ปี

กรณีที่สอง การต่อสู้คดีเตะหมอในชั้นศาล ซึ่งคดีนี้ เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2567 พนักงานสอบสวน สภ.ถลาง ได้นำตัวนายเดวิด พร้อมสำนวนที่มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา ในความผิดฐาน "ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายฯ" ส่งให้กับอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงภูเก็ต ซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวนนายเดวิด ให้การปฏิเสธ

คดีนี้หลังผ่านการพิจารณาของอัยการ จะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาในชั้นศาล ซึ่งไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้อย่างชัดเจน ว่าจะใช้เวลากี่เดือน กี่ปี จะถึงวันฟังคำพิพากษา

ทั้งนี้ นายเดวิด ถูกแจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย จะมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โดยระหว่างนี้นายเดวิด จะต้องมารายงานตัวตามเงื่อนไขการประกันตัวที่กำหนด และเมื่อคดีความสิ้นสุดลงแล้ว ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด นายเดวิด จะต้องถูกควบคุมตัวส่งมาที่ ตม. เพื่อทำการผลักดันออกนอกประเทศต่อไป และถูกขึ้นแบล็กลิสต์ ไม่สามารถเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยได้อีก

ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ชี้แจงปมร้อน

9 มี.ค. 2567 นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวสรุปตั้งแต่เกิดเหตุฝรั่งเตะหมอว่า ทุกหน่วยลงไปในพื้นที่ ตนได้สั่งการผ่านทางโทรศัพท์กับรองผู้ว่าราชการฯ ซึ่งรักษาราชการแทน กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เรื่องทำร้ายร่างกายได้ดำเนินการตามกฎหมายทั้งหมด ส่วนพื้นที่ของวิลล่าที่รุกล้ำมาในที่สาธารณะ ได้แจ้งความดำเนินคดีและมีการรื้อถอนบันไดออกไป

ส่วนเรื่องวีซ่า ทาง ตม. ได้เพิกถอนแล้ว เรื่องกำลังจะเข้าบอร์ดคณะกรรมการอีกชุดของ สตม. ซึ่งจะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ตอนนี้ถือว่านายเดวิด ถูกเพิกถอนวีซ่าแล้ว มีการประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี ส่วนเรื่องปางช้าง มีหลายหน่วยเข้าไปตรวจสอบ พบว่าจดทะเบียนถูกต้อง เรื่องการเสียภาษี สรรพากรตรวจสอบแล้วพบว่า มีการเสียภาษีบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลครบถ้วนทุกปี และเรื่องของช้างมีทั้งหมด 14 เชือก มีตั๋วรูปพรรณถูกต้อง

สำหรับการก่อตั้งมูลนิธิฯ ซึ่งมีคณะกรรมการของบริษัทฯ ไปเป็นกรรมการมูลนิธิฯ ด้วย เท่าที่ดูข้อเท็จจริงมีโลโก้ของมูลนิธิ และบริษัทเหมือนกัน ทางจังหวัดจึงทำหนังสือแจ้งไปยังมูลนิธิฯ ให้ชี้แจงภายใน 30 วัน ตอนนี้คิดว่าจะเข้ามูลเหตุการเอามูลนิธิฯ ไปแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งขัดต่อกฎหมาย หลังจากเขาชี้แจงมาแล้วเราจะยื่นไปยังอัยการ ให้อัยการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อยกเลิกมูลนิธิ

ส่วนประเด็นที่นายเดวิด ครอบครองอาวุธปืน 2 กระบอก นายโสภณ กล่าวว่า อาวุธปืนสั้น มีชื่อนายเดวิด ครอบครอง ส่วนอาวุธปืนยาว ขอในนามมูลนิธิฯ ซึ่งกฎหมายไม่ได้ห้ามต่างชาติมีอาวุธปืน การพิจารณาออกใบอนุญาตครอบครองต้องดูเป็นรายๆ ไป ตามหนังสือสั่งการของกระทรวงมหาดไทย เช่น มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง มีครอบครัวเป็นคนไทยหรือไม่ มีพฤติกรรมขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือไม่ ซึ่งนายเดวิด มาจดทะเบียนทำธุรกิจเลยไปขอใบอนุญาตดังกล่าว

ทั้งนี้ นายอำเภอถลาง ซึ่งเป็นนายทะเบียนอาวุธปืน ได้ตรวจสอบพฤติกรรมของนายเดวิด เข้าข่ายเป็นอันตรายต่อความสงบเรียบร้อยของพี่น้องประชาชน จึงได้เพิกถอนทะเบียนอาวุธปืนทั้งสองกระบอกเรียบร้อยแล้ว



ศาลยกฟ้อง คดี "ฝรั่งเตะหมอ" ยกประโยชน์ความสงสัยให้ "เดวิด"

ล่าสุด วันนี้ (3 ก.ย.2567) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลได้มีคำพิพากษาคดีฝรั่งเตะ "หมอปาย" ขณะนั่งตรงบันไดทางลงชายหาดที่วิลล่าหรูภูเก็ต โดยยกฟ้องนายเดวิด และยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย 



ขอบคุณข้อมูล : เพจโหดจัง จังหวัดภูเก็ต, ชมรมSTRONGต้านทุจริตภาคใต้, ศูนย์ข้อมูลภูเก็ต Phuket Info Center