วันที่ 29 สิงหาคม 2567 เวลา 09.00 น. ที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ศาลนัดอ่านคำพิพากษา คดีฆ่าหั่นศพหมอชาวโคลัมเบีย คดีอาญาหมายเลขดำที่ ท118/2566 ที่ พนักงานอัยการ จังหวัดเกาะสมุย เป็นโจทก์ ฟ้อง นายเดเนียล เจโรนีโม ซานโช้ บอลชาโดว์ เชฟชาวสเปน อายุ 30 ปี (จำเลย) และเป็นลูกชายของ "โรดอลโฟ ซานโช" นักแสดงดังชาวสเปน ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือชิ้นส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือเหตุแห่งการตาย หรือทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย ทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งเอกสารของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91, 188, 199, 288, 289
กรณีเมื่อช่วงเดือน ส.ค.2566 จำเลย ได้ก่อเหตุฆ่าหั่นศพ นายเอสวิน อาเรียต้า อาทีก้า อายุ 44 ปี แพทย์ศัลยกรรมชาวโคลัมเบีย แล้วแยกชิ้นส่วนศพผู้ตายทิ้งตามสถานที่ต่าง ๆ บนเกาะสมุย ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามจับกุมตัวจำเลยมาดำเนินคดี เหตุเกิดที่ ต.เกาะพงัน อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ จำเลยให้การปฏิเสธ และถูกคุมขังในเรือนจำมาโดยตลอด ศาลพิเคราะห์คำเบิกความ และพยานหลักฐานทั้งสองฝ่าย ที่นำสืบหักล้างแล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง จึงพิพากษาว่า
ทั้งนี้ หากกระทรวงการคลังปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยโดยตราเป็นพระราชกฤษฎีกาเมื่อใด ให้ใช้อัตราที่ปรับเปลี่ยนไป บวกด้วยอัตราเพิ่มร้อยละสองต่อปี แต่ต้องไม่เกินอัตราร้อยละ 5 ต่อปี ตามคำขออื่นของโจทก์ร่วมทั้งสอง นอกจากนี้ ให้ยกค่าฤชาธรรมเนียมในคดีส่วนแพ่งให้เป็นพับริบของกลาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้านายโรดอลโฟ ซานโช้ ดารานักแสดงชื่อดัง ซึ่งเป็นพ่อของนายแดเนียล ได้เดินทางมารับฟังคำตัดสินของศาล โดยสวมเสื้อเชิ้ตสีดำแขนยาว กางเกงขายาวสีเทา สวมแว่นตาดำ เดินทางมายังจังหวัดเกาะสมุย ท่ามกลางสื่อมวลชนทั้งไทย และต่างประเทศที่มาปักหลักรอรายงานข่าว แต่นายโรดอลโฟ ซานโช้ ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับนักข่าวแต่อย่างใด โดยเมื่อมาถึงบริเวณหน้าศาลได้เดินผ่านนักข่าวขึ้นศาลจังหวัดเกาะสมุยทันที
ต่อมา นางสาว บุษกร แก้วลีเล็ด ทนายโจทย์ร่วมฝั่งผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้มีคำพิพากษาให้จำเลยจำคุกตลอดชีวิต และชดใช้ให้กับทางครอบครัวของผู้เสียหายด้วยในยอดตามเหตุสมควรประมาณ 4 ล้านกว่าบาท ซึ่งทางโจทย์ร่วมมองว่า เมื่อศาลมีคำพิพากษาแบบนี้ก็ถือว่า ได้รับความเป็นธรรมแล้ว แต่ทั้งทางทนายโจทย์ร่วม ก็จะไปหารรือกับทางครอบครัวผู้เสียหายอีกครั้งว่า พอใจกับคำพิพากษาหรือไม่