จากกรณี กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน ฝนตกหนักถึงหนักมากในภาคใต้ และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย ฉบับที่ 6 ตั้งแต่วันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2566
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณ ชายหาดชะอำ จ.เพชรบุรี พบว่ามีลมแรง และมีคลื่นสูงขนาด 3-4 เมตร พัดเข้าหาชายฝั่งตลอดแนวชายหาดยาว 1 กิโลเมตร กัดเซาะชายหาดจนโคนต้นสนโผล่ ส่งผลให้ผู้ประกอบการริมชายหาดชะอำไม่สามารถตั้งเตียงผ้าใบให้บริการนักท่องเที่ยวได้ ขณะเดียวกันได้มีขยะทะเลลอยมาติดชายฝั่งเป็นจำนวนมาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงออกประชาสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยว ห้ามลงเล่นน้ำในช่วง 3-4 วันนี้
นางติ๋ว ทองเท่ง ผู้ประกอบการเตียงผ้าใบหาดชะอำเหนือ กล่าว่า หาดชะอำคลื่นลมแรง 2-3 วันนี้ ผู้ประกอบการตั้งเตียงผ้าใบให้บริการนักท่องเที่ยวไม่ได้ เพราะคลื่นลมแรงพัดเตียงผ้าใบจมทราย จึงอยากเตือนนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว อย่าลงเล่นน้ำทะเลช่วงนี้ ให้เดินเล่นริมชายหาดเท่านั้น เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้
นอกจากนี้ยังมีเรือลากจูงถ่านหินจำนวนหลายโป๊ะ ลอยลำอยู่ในทะเลตั้งแต่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ไม่สามารถนำโป๊ะถ่านหินเข้าฝั่งได้ เนื่องจากเมื่อกลางดึกน้ำทะเลลดลง เรือลากเข้าคลองไม่ได้ จนถึงรุ่งเช้าก็ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น แต่ก็เกิดคลื่นลมแรงในทะเล เรือลากจูงจึงตัดสินใจลากโป๊ะเข้าฝั่งอย่างทุลักทุเล เนื่องจากหวั่นว่าเรือโป๊ะจะอับปางกลางทะเล
ขณะที่ชาวเรือประมงพื้นบ้านในชุมชนคลองเทียน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี กว่า 200 ลำ ต่างพากันนำเรือเข้าจอดบริเวณแพปลาสะพานยก เพื่อหลบคลื่นลมแรงในทะเล หยุดออกเรือทำการประมงหลังมีการแจ้งเตือนว่าทะเลมีลมแรงคลื่นสูง 3-4 เมตร ชาวประมงพื้นบ้านจึงไม่กล้านำเรือออกทำการประมง เนื่องจากหวั่นถูกคลื่นซัดเรือจมได้ ช่วงนี้เรือเล็กงดออกจากฝั่งเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและอันตรายที่อาจเกิดเรือล่มได้
ส่วนที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก็มีลมหนาวกำลังแรงพัดเข้ามาในพื้นที่ และเกิดปรากฏการณ์คลื่นลมแรง ที่คาดว่าเกิดจากอิทธิพลลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ โดยตลอดแนวชายหาดความยาวกว่า 200 กิโลเมตร ตั้งแต่ชายหาด อ.หัวหิน ถึง อ.บางสะพานน้อย มีคลื่นสูง 2-4 เมตร พัดเข้าถล่มชายฝั่ง โดยเฉพาะอ่าวประจวบฯ เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ มีคลื่นทะเลสูงประมาณ 4 เมตร ตลอดแนวชายหาดยาว 8 กิโลเมตร ซึ่งน้ำทะเลได้ข้ามสันเขื่อนกันคลื่นและไหลบ่าเข้าท่วมผิวการจราจร ทำให้ร้านค้า ร้านอาหารบริเวณแนวชายหาด ต้องปิดให้บริการชั่วคราว
ทั้งยังทำให้มีน้ำผุดขึ้นจากท่อระบายน้ำบริเวณถนนเลียบหาด โดยเฉพาะบริเวณหน้าสวนสาธารณะเทศบาล ซึ่งชาวบ้านในระแวกดังกล่าวบอกว่าเป็นปรากฎการณ์แปลกใหม่ ทั้งนี้ถนนดังกล่าวเป็นสถานที่จัดถนนคนเดินในช่วงเย็นวันศุกร์และเสาร์ จึงเป็นที่สนใจจากนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไป ที่ส่วนใหญ่ได้ถ่ายภาพเอาไว้เป็นที่ระลึก อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงเย็นวันนี้ หลังจากน้ำทะเลลดลง สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
ขณะเดียวกัน หลังเกิดคลื่นสูง 4 เมตร พัดถล่มชายฝั่งตลอดแนว ทำให้เรือประมงชายฝั่งขนาดเล็กกว่า 100 ลำ ต้องจอดหลบคลื่นในคลองบริเวณเขาตาม่องล่าย และที่เชิงเขาล้อมหมวก บริเวณชายหาด กองบิน 5 พื้นที่ของทหารอากาศ โดยเจ้าหน้าที่ทหารได้ระดมกำลังออกช่วยลากเรือประมงที่ประสบภัยพิบัติจากคลื่นลมแรงขึ้นฝั่ง เพื่อป้องกันความเสียหาย
ส่วนที่หาดทุ่งประดู่ นายก อบต.ทับสะแก ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่นำกระสอบทรายจำนวนมาก วางเป็นแนวป้องกันคลื่นทะเลที่่ซัดถล่มบริเวณชายหาด เพื่อป้องกันความเสียหายของชายฝั่ง ซึ่งถูกคลื่นทะเลพัดถล่มอย่างต่อเนื่อง ใกล้ถึงถนนสายหลัก จากตลาดทับสะแกไปบ้านทุ่งประดู่
ล่าสุดรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้แจ้งไปยังฝ่ายปกครองอำเภอ เทศบาล และ อบต. เพื่อแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งทะเล ให้ระมัดระวังอันตรายที่เกิดจากแรงลม และคลื่นทะเล ที่พัดถล่มเข้าหาฝั่งในระยะนี้ พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ฯ สำรวจบ้านเรือน และสิ่งปลูกสร้าง บริเวณชายหาด ที่ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์คลื่นลมทะเลแรง จนได้รับความเสียหายอย่างเร่งด่วนต่อไป