13 กันยายน 2566 ความคืบหน้า ประเด็นร้อน พฤติกรรมสุด "เหิมเกริม" ขบวนการ "แก๊งมอดไม้พะยูง" ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่ส่อว่าจะมีการร่วมกับ จนท.รัฐ ที่ "ยิ่งแฉ ยิ่งเห็นภาพใหญ่" มีข้าราชการในพื้นที่ "ทุจริต" อาจมีเอี่ยว "ฟอกไม้" โดยใช้ช่องว่างกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
โดยเฉพาะจาก ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ที่ไม่ปฏิบัติตาม คำสั่งของกรมธนารักษ์ เกี่ยวกับการตัดไม้มีค่า แถมยังปรากฏภาพกลุ่มคน อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนารักษ์ ใช้สว่านเจาะดูแก่น "ไม้พะยูง" ภายใน รร.โคกกลางเหนือพิทยา อ.ห้วยเม็ก ซึ่งเมื่อหลังถูกจับตาหนัก "แก๊งมอดไม้" ที่ได้รับคำสั่งจาก นายทุนจีน ได้เบนหน้าไปตัดไม้มีค่าชนิดอื่น ๆ แทน ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาฬสินธุ์ สนธิกำลังหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.4 (ภูพระ), หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.5 (บัวขาว), หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.1 (ดงมูล) พร้อมอาวุธครบมือ ออกปฏิบัติลาดตระเวน เฝ้าตรวจการกระทำผิดกฎหมาย เกี่ยวกับป่าไม้และสิ่งแวดล้อม บริเวณเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงมูล บ.สร้างแก้ว หมู่ที่ 2 ต.กุงเก่า อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ พบขบวนการมอดไม้ไม่ทราบจำนวน กำลังก่อเหตุลักลอบตัดไม้ประดู่ป่า จึงแสดงตัวเข้าตรวจ คนร้ายไหวตัวทัน อาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้
นายอดิสร คงสมกัน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันตรวจยึดไม้ประดู่ ซึ่งถูกตัดสองต้นอายุประมาณ 60 ปี เตรียมขนย้าย สภาพถูกหั่นออกเป็นท่อนรวม 7 ท่อน ปริมาตร 2.656 ลบ.ม. มูลค่าความเสียหายของรัฐ เป็นเงินจำนวน 92,650 บาท
เจ้าหน้าที่จึงได้นำไม้ของกลางที่ตรวจยึด ไปลงบันทึก และร้องทุกข์กล่าวโทษ กับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าคันโท เพื่อหาตัวผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ในความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐานทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต , พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11 ฐานทำไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 69 ฐานมีไม้ท่อนหวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครอง จากนั้นนำไม้ของกลาง ไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กส.4 (ภูพระ)
นายอดิสร กล่าวอีกว่า ในช่วงที่ผ่านมา จากการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ทำการลาดตระเวน ตรวจตรา ป้องกันกลุ่มคนร้ายลักลอบ ตัดไม้พะยูงอย่างเข้มข้น ส่งผลให้ขบวนการมอดไม้ หันไปตัดไม้ประดู่ป่า ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่ ส.ป.ก.เพื่อชดเชย เหตุลักลอบตัดไม้พะยูงไม่ได้
ซึ่งงจากการติดตามความเคลื่อนไหว เชื่อว่า เป็นขบวนค้าไม้ข้ามชาติ ที่ก่อเหตุแถวรอยต่อ จ.กาฬสินธุ์ จ.ร้อยเอ็ด จ.มหาสารคาม จ. ขอนแก่น จ.อุดรธานี ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังจะต้องขอความร่วมมือ จากประชาชนในการแจ้งเบาะแส หากพบบุคคลแปลกหน้า ต้องสงสัย หรือพบการก่อเหตุ ตัดไม้ทำลายป่า สามารถแจ้งเหตุมาได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่ หมายเลข 095-6616419 ทั้งนี้ หากได้ตัวผู้กระทำผิด และคดีสิ้นสุด ยังมีรางวัลนำจับ ตามระเบียบของทางราชการ ให้กับผู้แจ้งเหตุอีกด้วย
อึ้งตัดไม้พะยูง รร. ธนารักษ์ประมูลขายเกลี้ยง
ส่วนกรณีการตัดไม้พะยูง ที่ รร.หนองแวงบ่อแก้ว ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด ล่าสุด นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ หัวหน้าชุดเฉพาะกิจติดตามปัญหาตัดไม้พะยูงในโรงเรียน พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบหลักฐาน การตัดไม้พะยูงในโรงเรียน โดยมีนายเอกรัตน์ มิสา นายอำเภอยางตลาด มอบหมาย นายอัมรินทร์ ถิตย์รัตน์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และทางโรงเรียน อำนวยความสะดวกและให้ข้อมูล
นายธวัชชัย รอดงาม รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การเข้ามาตรวจสอบครั้งนี้ ตามข้อร้องเรียนของชาวบ้าน และเครือข่ายคนรักษ์ต้นไม้ แจ้งมาที่ฝ่ายความมั่นคงว่า มีกรณีของการตัดไม้พะยูงใน รร.หนองแวงบ่อแก้ว เพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่ง มีการตัดไปถึง 6 ต้น
จากการตรวจสอบหลักฐานและเอกสาร แบ่งออกเป็น 2 กรณี คือ กรณีแรกทางโรงเรียน มีหนังสือรายงาน การรื้อถอนและขนย้าย แจ้งส่งสำเนาซื้อขายไม้พะยูงถึง สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 เพื่อทำการตัดไม้พะยูง ที่ ยืนต้นตาย 4 ต้น เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 65
และกรณีที่สอง เกิดเหตุคนร้าย เข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูง 2 ต้น เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 66 ที่ผ่านมา โดยจากการตรวจสอบ พบหลักฐานจำนวน 6 ตอ เป็นตอไม้พะยูงที่ตายซาก 3 ตอ มียอดเกิดขึ้นใหม่ 3 ตอ
นอกจากนี้ ยังพบหนังสือโต้ตอบ ระหว่างสำนักงานธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ กับ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 หนังสือลงวันที่ 27 มิ.ย. 66 เรื่องอนุญาตให้จำหน่ายต้นไม้ ที่ได้จากที่ราชพัสดุ เพื่อขายทอดตลาดจำนวน 17 ท่อนอีกด้วย ทั้งนี้ ยังได้ให้กำลังใจ ผู้อำนวยการโรงเรียน บุคลากร ครู นักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาด้วย ซึ่ง เรื่องทั้งหมดสามารถตรวจสอบและชี้แจงได้ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย
จับพิรุธต้นพะยูงอาจไม่ได้ยืนต้นตาย
นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพตอไม้พะยูง ที่ทางโรงเรียนระบุว่า ยืนต้นตาย 4 ต้น และถูกลักลอบตัด 2 ต้น โดยเฉพาะตอที่ยืนต้นตายนั้น เป็นที่น่าสังเกตคือ เป็นไปได้ไหม ที่ไม้พะยูง ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว เป็นต้นไม้ที่แข็งแรง จะยืนต้นตายพร้อมกัน หรือในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 4 ต้น จากการวัดขนาดตอไม้พะยูงพบว่า มีขนาดรอบลำต้นขนาดใหญ่ 2 ตอ และขนาดกลาง 2 ตอ โดย 1 ใน 4 ตอมีลูกไม้หรือกิ่งไม้เกิดขึ้น
ซึ่งลักษณะที่มีลูกไม้เกิดขึ้น สันนิษฐานเบื้องต้นไว้เลยว่า ต้นไม้ดังกล่าวไม่ได้ยืนต้นตาย ทั้งนี้ เป็นจุดสงสัยเท่านั้น ไม่ได้มุ่งจับผิดใคร อย่างไรก็ตาม ในประเด็นความสงสัย ยังพุ่งไปที่ไม้พะยูง 17 ท่อน ที่คณะกรรมการสถานศึกษา รร.หนองแวงบ่อแก้ว อยากทราบ เพราะเคยนำมาเก็บไว้ในห้องประชุม ปรากฏหลักฐานเป็นภาพถ่าย บันทึกจากมือถือ ระบุวันที่ 5 พ.ค. 66 หลังเกิดเหตุคนร้ายลักลอบตัดวันที่ 2 พ.ค. 66 ซึ่งคณะกรรมการสถานศึกษาทุกคน ยืนยันว่า ไม่เคยทราบเรื่องการขายทอดตลาด ไม้พะยูงในโรงเรียนเลย
นายทองคำ เหมกุล กำนันตำบลอิตื้อ กล่าวว่า ตนและผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน รร.หนองแวงบ่อแก้ว ไม่เคยทราบว่า มีการขายไม้พะยูงในโรงเรียน ทราบแค่ว่า มีการขออนุญาตตัดไม้พะยูง ที่ยืนต้นตาย และมีเหตุคนร้ายมาลักลอบตัด
จากนั้นมีการแจ้งความที่ สภ.โนนสูง และเจ้าหน้าที่ธนารักษ์มาตรวจ ต่อมาตัดไม้พะยูงที่เหลือ จากการลักขโมยเป็นท่อน ๆ โดยนำมาเก็บรักษา ไว้ในห้องประชุมนี้ แต่พอเข้ามาดูเท่านั้น ทุกคนต่างตกใจแทบช็อค เพราะไม้พะยูง 17 ท่อน ที่เคยเก็บไว้ไม่เหลืออยู่เลย เพิ่งจะรู้ความจริงในวันนี้ว่า ไม้พะยูงทั้งหมด ถูกธนารักษ์ขายทอดตลาดไปหมดแล้ว