7 กันยายน 2566 ประเด็นร้อน ขบวนการ "แก๊งมอดไม้พะยูง" ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่มีพฤติกรรม "เหิมเกริม" หนัก ร่วมกับ จนท.รัฐ ลักของกลาง "ไม้พะยูง" ไปจากสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด และการเข้าประมูลตัด "ไม้พะยูง" ภายใน รร. ต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด 28 - 56 เท่าตัว รวมถึงการลักลอบตัด "ไม้พะยูง" ตามพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ซึ่งปม แก๊งมอดไม้พะยูง ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ "ยิ่งแฉ ยิ่งเห็นภาพใหญ่" ที่ข้าราชการในพื้นที่ "ทุจริต" อาจมีเอี่ยว "ฟอกไม้" ใช้ช่องว่างกฎหมาย โดยเฉพาะจาก ธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ ที่ไม่ปฏิบัติตาม คำสั่งของกรมธนารักษ์ เกี่ยวกับการตัดไม้มีค่า แถมยังปรากฎภาพกลุ่มคน อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ธนารักษ์ ใช้สว่านเจาะดูแก่น "ไม้พะยูง" ภายใน รร.โคกกลางเหนือพิทยา อ.ห้วยเม็ก ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ ในฐานะชุดเฉพาะกิจ ติดตามปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง
กรณีตัดไม้พะยูงใน รร.คำไฮวิทยา และ รร.คุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ ร่วมกับ นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และคณะทำงาน เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมานั้น "พบพิรุธถึงความไม่เหมาะสม ในการตัดไม้พะยูง รวมทั้งการบริหารจัดการเงิน ที่เข้าข่ายฉ้อราษฎร์บังหลวงชัดเจน"
นายนิยม กล่าวอีกว่า จากการสรุปรายงานเบื้องต้น ที่ รร.หนองโนวิทยาคม ไม้พะยูง 9 ต้น ราคาขายในใบเสร็จรับเงินจำนวน 104,000 บาท ขณะที่ราคาตลาดท้องถิ่นทั่วไปราคาประมาณ 304,550 บาท
แต่ราคาประเมินของไม้ท่อนหวงห้าม ของกรมป่าไม้ ลูกบาศก์เมตรละ 250,000 บาท ถ้าเป็นไม้แปรรูป ราคาลูกบาศก์เมตรละ 500,000 บาท รวมไม้พะยูง จํานวน 9 ต้น ปริมาตร 6.091 ลูกบาศก์เมตร ๆ ละ 250,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,512,750 บาท
ส่วนที่ รร.คุรุชนประสิทธิ์ศิลป์ จํานวน 3 ต้น ในราคาซื้อขายตามใบเสร็จรับเงิน 30,000 บาท เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ 2 ต้นหรือ 2 ตอ เนื่องจาก 1 ตอได้ขุดขายไปแล้ว ทั้งนี้หากราคาตลาดท้องถิ่นทั่วไป ราคา ประมาณ 446,400 บาท
ขณะที่ราคาประเมิน ของไม้ท่อนหวงห้าม ของกรมป่าไม้ ลูกบาศก์เมตรละ 250,000 บาท ถ้าเป็นไม้แปรรูป ราคาลูกบาศก์เมตรละ 500,000 บาท รวมไม้พะยูง จํานวน 2 ต้น ปริมาตร 8.928 ลูกบาศก์เมตร ๆ ละ 250,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,232,000 บาท โดยหากเทียบกับราคา ที่ลงในใบเสร็จรับเงิน จะเห็นว่าราคาต่างกันมากทีเดียว
นายสมภาร บุดดี ผอ.รร.โคกกลางเหนือพิทยาสรรพ์ รักษาการ ผอ.รร.หนองโนวิทยาคม กล่าวว่าว่า ตามที่มีข่าวตัดไม้พะยูง รร.คำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา และมีประเด็นเป็นการขาย ที่ผิดกฎหมาย และหลายฝ่ายลงความเห็นว่า การขออนุญาตตัดไม้ ไม่สมเหตุสมผล
ตนรู้สึกกังวลตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เนื่องจากก่อนหน้านี้คือวันที่ 15 เม.ย. 66 ได้มีการตัดไม้พะยูง รร.หนองโนวิทยาคม ที่ตนเป็นผู้บริหาร หลังจากทำหนังสือขออนุญาต ไปที่ผู้อำนวยการ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 เพื่อขออนุญาต ตัด "ไม้พะยูง" ในเขตที่ราชพัสดุ
ต่อมามีเจ้าหน้าที่ธนารักษ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการประเมินราคา มาสำรวจไม้ ร่วมประชุมคณะกรรมการสถานศึกษา ก่อนทำสัญญาซื้อขาย จ่ายเงินจำนวนเงิน 104,000 บาท และต่อมา 3 วัน คือวันที่ 15 เม.ย. 66 นายหน้าก็ได้นำรถบรรทุก พร้อมเลื่อยยนต์ เข้ามาทำการตัด และขน "ไม้พะยูง" ไป
ถึงวันนี้ตนยังรู้สึกเป็นกังวล ในเรื่องการขออนุญาตตัดไม้พะยูงอยู่ เพราะมีข้อมูลเปรียบเทียบ ของประกาศหลายฉบับ ทั้งข้อมูลของจังหวัด ของกรมธนารักษ์ และระเบียบการให้อนุญาตของธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์เอง
อย่างไรก็ตาม ตามที่ฝ่ายความมั่นคง ได้สอบถามครู และกรรมการสถานศึกษา รวมทั้งข้อมูลที่ได้จากแหล่งข่าวในพื้นที่ ระบุตรงกันว่า การตัดไม้พะยูงขายใน รร.หนองโนวิทยาคม 9 ต้น ราคา 104,000 บาทนั้น มีลับคมใน และเพิ่งจะมีการเปิดเผยเป็นข้อมูลใหม่ในวันนี้
เปิดพฤติกรรม "ไอ้โม่ง" แบ่งเค้กเงินค่าตัดไม้พะยูง
แหล่งข่าวระบุว่า ก่อนการขออนุญาตขาย มีไทม์ไลน์เช่นเดียวกันกับที่โรงเรียนอื่น คือเริ่มจากมีคนร้าย เข้ามาลักลอบตัด ทำให้ครู ผู้นำชุมชน ต้องเข้าเวรยามป้องกันรักษา จากนั้นก็ยังมีเหตุ มาลักลอบตัดบ่อยครั้ง บางครั้งแค่มาตัด ให้ "ไม้พะยูง" โค่นล้ม บางครั้งขนย้าย "ไม้พะยูง" ไปด้วย
กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ของธนารักษ์ และบุคคลภายนอก เข้ามาแนะนำ ให้ทำเรื่องขออนุญาตตัดขาย เพื่อที่จะได้หมดภาระเฝ้าระวัง และได้เงินเข้าหลวง หากไม่ทำตาม และเกิดเหตุคนร้าย ลักลอบเข้ามาตัดอีก จะถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ซึ่งพอทำเรื่องขออนุญาต ก็ได้รับอนุญาตง่ายดาย ไม่มีการตรวจสอบความสมเหตุสมผล
ต่อมาทำการเจาะไม้ ประเมินราคา ทำสัญญาซื้อขายราคาต่ำ ท่ามกลางกระแส “รับเงินปึกลงบิลเงินปลีก” เรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ โดยขบวนการ “ฟอกขาว” แน่นอน โดยที่ รร.หนองโนวิทยา ดังกล่าว แหล่งข่าวระบุว่า มีการประสานงาน โดยคนของธนารักษ์ชื่อ “สันติ” มีการปลอมแปลงลายเซ็น คณะกรรมการสถานศึกษาบางคน มีการล็อกสเป็กผู้มารับซื้อไม้ โดยผู้รับซื้อไม้ จะจ่ายเงินให้กับโรงเรียน 200,000 บาท บ้านหนองโน 2 หมู่บ้าน ๆ ละ 200,000 บาท รวม 600,000 บาท
แต่พอมีการจ่ายเงินจริง ก็จ่ายจริงเพียงแห่งละ 133,000 บาท รวมจ่าย 399,000 บาท และลงจำนวนเงินในใบเสร็จรับเงิน ส่งสำนักงานพื้นที่การศึกษาเขต 2 เพียง 104,000 บาท ทั้งนี้หากพ่อค้าจ่ายจริง จะได้ตัวเลขกลม ๆ 600,000 +104,000 บาท เท่ากับ 704,000 บาท
ซึ่งราคาใกล้เคียงกับ รร.คำไฮวิทยา จำนวน 22 ต้นกับอีก 2 ตอ พ่อค้าซื้อไม้พะยูงจ่ายจริง (ตามคำให้การของแหล่งข่าวภายใน) จำนวน 930,000 บาท ลงรับเงินในใบเสร็จ 153,000 บาท ซึ่งหากมีการจ่ายจริง ที่ รร.หนองโนวิทยา จำนวน 704,000 บาท หมายความว่า เงินก้อนใหญ่หายไปถึง 600,000 บาททีเดียว
ทั้งนี้ข้อมูลตัวเงินซื้อขายดังกล่าว มีพยานบุคคลยืนยันชัดเจน ซึ่งอยู่ในสำนวนของชุดเฉพาะกิจ ติดตามปัญหาการลักลอบตัดไม้พะยูง จ.กาฬสินธุ์ แล้ว เพียงแต่ว่าจะมีการเปิดเผยกระจ่างชัดเมื่อไหร่เท่านั้น
ขณะที่ นายกิติภูมิชัย วงศ์สนิท นายอำเภอห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับคำสั่งของทางจังหวัด ให้ทางอำเภอ ทำการสอบปากคำบุคคลในภาพ ซึ่งบันทึกจากกล้องวงจรปิดใน รร.หนองโนวิทยา และ รร.โคกกลางเหนือพิทยาสรรพ์ ขณะทำการเจาะไม้ วัดไม้ สำรวจก่อนประมูล
ซึ่งครูและชาวบ้านระบุ เป็นคนของธนารักษ์พื้นที่กาฬสินธุ์ และ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 2 นั้น ทางอำเภอได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ เพื่อทำบันทึกตรวจสอบ และจะรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดภายใน 7 วัน เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป