จากกรณีไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท หายไปจากสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ อย่างไร้ร่องรอย เมื่อช่วงคืนวันที่ 5 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐไม่ต่ำกว่า 6 คน เข้าไปเกี่ยวข้อง ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
25 สิงหาคม 2566 พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวน สภ.โนนสูง ได้แจ้งข้อหา เจ้าหน้าที่รัฐ 8 คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 3 คน, ผู้นำองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น และพนักงานรวม 2 คน, เจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเป็นผู้นำชุมชน และผู้นำหมู่บ้าน 3 คน "เป็นเจ้าพนักงานรัฐมีหน้าที่จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังเอาทรัพย์เป็นของตนหรือทุจริต หรือยอมให้คนอื่นเอาทรัพย์นั้นไป" ได้สรุปสำนวนและนำส่ง ป.ป.ช. จังหวัดกาฬสินธุ์ ไปเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา
จากการสอบสวนพบว่า มีการนำไม้พะยูงของกลางมาเก็บรักษาไว้ที่หน้าเสาธงสำนักงานเทศบาลตำบลอิตื้อ ก่อนมีนายหน้าเข้ามาดูไม้เหมือนกับมีการเปิดประมูล จากนั้นมี 1 ในกลุ่มบุคคลที่กระทำความผิด ได้ขนย้ายไม้ไปจำหน่าย โดยมีพยานหลักฐาน ทั้งการโอนเงิน และเส้นทางการเงิน ภาพบุคคลที่เกี่ยวข้อง ก่อนเกิดเหตุไม้พะยูงหาย ซึ่งยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากกว่านี้ แต่ตำรวจมีพยานหลักฐาน เชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้น จึงส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. เพื่อพิจารณา
ส่วนกรณีไม้พะยูง 22 ต้น กับอีก 2 ตอ ของโรงเรียนคำไฮวิทยา อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ทำสัญญาประมูลขายกับนายหน้าค้าไม้ในราคาถูกเพียง 153,000 บาท โดย นายธวัชชัย รอดงาม รองผู้ว่าราชการฯ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนข้อสั่งการของทางจังหวัด แม้ว่าพื้นที่ป่าไม้จะอยู่ในพื้นที่ของธนารักษ์ แต่ก็มีหนังสือจากอธิบดีกรมธนารักษ์ มอบแนวทางปฏิบัติมายังทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งก็ให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้พิจารณา
มีเนื้อหาต้องร่วมกันอนุรักษ์ป่าไม้ แต่หากจะตัด ต้องมีความจำเป็น หรือ เป็นต้นไม้ที่สุ่มเสี่ยงจะทำให้ได้รับอันตราย ที่จะต้องขออนุญาตและมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณา โดยสรุปการตัดไม้แม้จะมีการทำเอกสารก็ใช่ว่าจะตัดได้ง่าย ๆ กรณีนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับหลักฐาน แต่ที่แน่ ๆ ต้นไม้พะยูงที่ถูกประมูลขายครั้งนี้ ไม่ควรที่จะตัดด้วยซ้ำ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วคนที่ร่วมกันกระทำความผิดก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำตามกฎหมายที่นอกเหนือจากด้านวินัย ก็จะต้องถูกดำเนินคดีทาง อาญาและแพ่งต่อไป